ผู้เขียน หัวข้อ: GLE500e AMG : โหมด E-save , Charge ใช้ในสถาณะการไหนครับ  (อ่าน 5335 ครั้ง)

ออฟไลน์ sirayu080

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 71
  • MERCEDES BENZ GLE 500e AMG 2017
    • อีเมล์
GLE500e AMG : โหมด E-save , Charge ใช้ในสถาณะการณ์ไหนครับ

อ่านในโบชัวร์ก็เหมือนจะเข้าใจ แต่เซลล์ก็แนะนำให้ทำอีกแบบนึง

ข้อ1 E-Save ถามคือ ... สมมุติไฟฟ้าในแบต เหลือระหว่าง 50%-90% แล้วเราใช้โหมด E-save เครื่องยนต์ทำงาน ไฟฟ้าจะถูกปั่นเพิ่มมั้ยครับ หรือแค่รักษาระดับ

นั้นๆไว้เฉยๆ เช่นมี50 ก็คงที่ไว้50%จนกว่าจะเปลี่ยนโหมด



ข้อ2 โหมด Charge คำถามคือ ...ในกรณีเรากำลังเดินทาง  ถ้าแบตเหลือน้อยๆ เราต้องการให้มันชาร์จไฟระหว่างวิ่ง ระบบจะใช้แต่เครื่องยนต์เพียงอยา่งเดียว แล้วไฟฟ้าจะถูก

ชาร์จระหว่างนั้น โดยไม่มีการใช้มอเตอไฟฟ้าเลยใช่มั้ยครับ

เพราะเซลล์บอกว่า โหมดนี้ควรหรือแนะนำให้ใช้ ใช้แต่ตอนตอนรถไม่วิ่ง,จอดรถ เท่านั้น สตาร์ทรถทิ้งไว้ เครื่องยนต์จะปั่นไฟเข้าแบต ไม่เหมาะสำหรับใช้ในตอนวิ่ง จะทำให้

แบตหลังรถร้อนจนได้กลิ่นเข้ามาที่ห้องโดยสาร และแบตจะเสียไว




ทั้งหมดนี้ เราควรจะใช้ยังไงหรือ แนะนำหน่อยครับ

ออฟไลน์ pingpong

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 49
Re: GLE500e AMG : โหมด E-save , Charge ใช้ในสถาณะการไหนครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มกราคม 14, 2017, 00:33:38 »
เอาแบบที่ใช้ c350e มานะครับ เท่าที่พยายามสังเกตดู ผิดถูกไม่ทราบจริงๆครับ

Mode E-Save
เครื่องยนต์จะติดบ่อยขึ้น เพราะพยายามไม่ใช้ไฟ (ถ้าจำไม่ผิดจะไม่ติดตลอด พอดีไม่ค่อยได้ใช้ mode นี้) หลักๆคือรถจะพยายามรักษาระดับไฟในแบตเตอรี่ให้อยู่ในระดับเดิม อาจจะเหมาะถ้าเรากำลังจะเข้าเมืองที่รถติดมากๆ และอยากเก็บไฟไว้ใช้ตอนรถติดๆ ระดับแบตไม่ค่อยเพิ่มขึ้น

Mode Charge
ถ้าใช้ mode นี้เครื่องติดตลอด ปกติรถจะชาร์จไฟเองอยู่แล้วถ้ารอบเครื่องเกิน 1500 รอบ ช่วงความเร็วไม่สูงมากรถจะลดเกียร์ลงเพื่อให้รอบสูงขึ้น เช่น ถ้า mode hybrid รถวิ่ง D7 รอบต่ำไม่ชาร์จไฟ พอปรับเป็น mode charge รถก็จะลดเกียร์เหลือ D5 เอง ผมจะใช้ mode นี้ถ้าต้องการเพิ่มแบตให้พอกับการใช้งานในเมืองที่รถติดมากๆ เพราะถ้าแบตเหลือต่ำกว่า 20% เครื่องยนต์ก็จะทำงานบ่อยขึ้น จนน่ารำคาญเวลาเร่งๆเบรคๆ เดี๋ยวติดเดี๋ยวดับ ผมก็เลยพยายามรักษาแบตให้พอผ่านช่วงรถติดๆก่อนกลับบ้าน และหวังว่าจะช่วยลดมลพิษในเมืองได้บางส่วน
ผมเคยปรับ mode charge ตอนวิ่งทางไกล อาจมีการใช้ไฟจากแบตถ้ากดคันเร่งแรงๆ ตอนชาร์จจนเต็มก็ไม่ได้กลิ่นจากแบตนะ ถ้าจำไม่ผิดพอแบตเต็ม 100% รถก็จะกลับมา mode สุดท้ายที่เราปรับไว้ และเริ่มใช้ไฟจากแบต

หลังๆผมใช้ mode hybrid เป็นหลักทั้งในเมืองและทางไกล เพราะเล่นจนพอรู้แล้ว ตั้งใจว่าจะพยายามไม่เปลี่ยน mode ไปมากลัวมีปัญหาระยะยาวเหมือนกัน ทางไกลก็ปล่อยให้รถเลือกเอง ซึ่งปกติเดินทางรถจะมีระดับแบตอยู่ที่ 20-25%


ออฟไลน์ koko86

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,591
    • อีเมล์
Re: GLE500e AMG : โหมด E-save , Charge ใช้ในสถาณะการไหนครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มกราคม 14, 2017, 02:04:47 »
1. e -save มันจะรักษาระดับแบตไว้ให้คงที่ครับ คือทั้งชาร์จ และใช้ไฟ แต่จะใช้ไม่มากเหมือนhybrid mode เช่น แบตเหลือ 50% แล้วใช้e saveมันจะพยายามรักษาระดับให้เหลือ 50% แต่ถ้าเป็นhybrid มันจะ ใช้แบตไปเรื่อยๆจนถึง 15%
ที่สังเกตโหมดe save เครื่องจะติดๆดับๆพอๆกับแบตเหลือ15%ซึ่งเป็นจุดที่รถจะพยายามsave แบตครับ

2.โหมดชาร์จ จะไม่ใช้ไฟฟ้าเลย ชาร์จตอนวิ่งก็ไม่มีกลิ่นไหม้นะครับ ส่วนใช้โหมดนี้แล้วแบตเสื่อมเร็วรึเปล่าอันนี้ตอบยาก โหมดที่เจอกับตัวว่าใช้แล้วแบตร้อนคือ e modeแล้ววิ่งเร็วๆครับ อันนี้ร้อนชัวร์ เคยทดสอบS500e ติดเครื่องทิ้งไว้เฉยๆในชาร์จโหมด รอบเดินเบาซักพักแบตมันจะขึ้นเรื่อยๆ หากเดินทางไกลโหมดนี้ยังลาก้กียร์7ได้ครับ แต่กินน้ำมันขึ้นประมาณ 20-30%

สรุปคือ โหมด e save ใช้ดีตอนที่
1.แบตเหลือพอควรแล้ว รู้ว่าข้างหน้ารถติดไม่อยากให้เครื่องติดๆดับๆ
2.ชาร์จไฟจากบ้านมาเต็ม แล้วออกจากบ้านมาวิ่งไฮเวย์ /ทางด่วนมาก่อนแล้วเจอรถติดในเมือง ก็ใช้e saveช่วงวิ่งเร็วๆ แล้วมาใช้ e-modeหรือ hybrid ในเมือง เพราะe mode เหมาะกับวิ่งตอนรถติดมากครับ

ส่วนโหมดชาร์จนี่อาจจะเหมาะกับตอน
1. ขับในเมือง แบตเหลือน้อย รำคาญเครื่องติดๆดับๆ ก็ ชาร์จไปเลยครับให้แบตเกิน 30-40%จะติดๆดับๆน้อยลง
2. วิ่งด้วยความเร็ว แล้วแบตเหลือน้อย+รู้ว่าข้างหน้ารถติด ก็ชาร์จเพื่อให้ตอนรถติด ใช้e modeได้หรือใช้modehybrid แล้วเครื่องจะติดๆดับๆน้อยลง หากแบตเหลือมากพอครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 14, 2017, 02:17:04 โดย koko86 »

ออฟไลน์ sirayu080

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 71
  • MERCEDES BENZ GLE 500e AMG 2017
    • อีเมล์
Re: GLE500e AMG : โหมด E-save , Charge ใช้ในสถาณะการไหนครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มกราคม 14, 2017, 16:56:10 »
เอาแบบที่ใช้ c350e มานะครับ เท่าที่พยายามสังเกตดู ผิดถูกไม่ทราบจริงๆครับ

Mode E-Save
เครื่องยนต์จะติดบ่อยขึ้น เพราะพยายามไม่ใช้ไฟ (ถ้าจำไม่ผิดจะไม่ติดตลอด พอดีไม่ค่อยได้ใช้ mode นี้) หลักๆคือรถจะพยายามรักษาระดับไฟในแบตเตอรี่ให้อยู่ในระดับเดิม อาจจะเหมาะถ้าเรากำลังจะเข้าเมืองที่รถติดมากๆ และอยากเก็บไฟไว้ใช้ตอนรถติดๆ ระดับแบตไม่ค่อยเพิ่มขึ้น

Mode Charge
ถ้าใช้ mode นี้เครื่องติดตลอด ปกติรถจะชาร์จไฟเองอยู่แล้วถ้ารอบเครื่องเกิน 1500 รอบ ช่วงความเร็วไม่สูงมากรถจะลดเกียร์ลงเพื่อให้รอบสูงขึ้น เช่น ถ้า mode hybrid รถวิ่ง D7 รอบต่ำไม่ชาร์จไฟ พอปรับเป็น mode charge รถก็จะลดเกียร์เหลือ D5 เอง ผมจะใช้ mode นี้ถ้าต้องการเพิ่มแบตให้พอกับการใช้งานในเมืองที่รถติดมากๆ เพราะถ้าแบตเหลือต่ำกว่า 20% เครื่องยนต์ก็จะทำงานบ่อยขึ้น จนน่ารำคาญเวลาเร่งๆเบรคๆ เดี๋ยวติดเดี๋ยวดับ ผมก็เลยพยายามรักษาแบตให้พอผ่านช่วงรถติดๆก่อนกลับบ้าน และหวังว่าจะช่วยลดมลพิษในเมืองได้บางส่วน
ผมเคยปรับ mode charge ตอนวิ่งทางไกล อาจมีการใช้ไฟจากแบตถ้ากดคันเร่งแรงๆ ตอนชาร์จจนเต็มก็ไม่ได้กลิ่นจากแบตนะ ถ้าจำไม่ผิดพอแบตเต็ม 100% รถก็จะกลับมา mode สุดท้ายที่เราปรับไว้ และเริ่มใช้ไฟจากแบต

หลังๆผมใช้ mode hybrid เป็นหลักทั้งในเมืองและทางไกล เพราะเล่นจนพอรู้แล้ว ตั้งใจว่าจะพยายามไม่เปลี่ยน mode ไปมากลัวมีปัญหาระยะยาวเหมือนกัน ทางไกลก็ปล่อยให้รถเลือกเอง ซึ่งปกติเดินทางรถจะมีระดับแบตอยู่ที่ 20-25%

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ sirayu080

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 71
  • MERCEDES BENZ GLE 500e AMG 2017
    • อีเมล์
Re: GLE500e AMG : โหมด E-save , Charge ใช้ในสถาณะการไหนครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มกราคม 14, 2017, 16:57:47 »
1. e -save มันจะรักษาระดับแบตไว้ให้คงที่ครับ คือทั้งชาร์จ และใช้ไฟ แต่จะใช้ไม่มากเหมือนhybrid mode เช่น แบตเหลือ 50% แล้วใช้e saveมันจะพยายามรักษาระดับให้เหลือ 50% แต่ถ้าเป็นhybrid มันจะ ใช้แบตไปเรื่อยๆจนถึง 15%
ที่สังเกตโหมดe save เครื่องจะติดๆดับๆพอๆกับแบตเหลือ15%ซึ่งเป็นจุดที่รถจะพยายามsave แบตครับ

2.โหมดชาร์จ จะไม่ใช้ไฟฟ้าเลย ชาร์จตอนวิ่งก็ไม่มีกลิ่นไหม้นะครับ ส่วนใช้โหมดนี้แล้วแบตเสื่อมเร็วรึเปล่าอันนี้ตอบยาก โหมดที่เจอกับตัวว่าใช้แล้วแบตร้อนคือ e modeแล้ววิ่งเร็วๆครับ อันนี้ร้อนชัวร์ เคยทดสอบS500e ติดเครื่องทิ้งไว้เฉยๆในชาร์จโหมด รอบเดินเบาซักพักแบตมันจะขึ้นเรื่อยๆ หากเดินทางไกลโหมดนี้ยังลาก้กียร์7ได้ครับ แต่กินน้ำมันขึ้นประมาณ 20-30%

สรุปคือ โหมด e save ใช้ดีตอนที่
1.แบตเหลือพอควรแล้ว รู้ว่าข้างหน้ารถติดไม่อยากให้เครื่องติดๆดับๆ
2.ชาร์จไฟจากบ้านมาเต็ม แล้วออกจากบ้านมาวิ่งไฮเวย์ /ทางด่วนมาก่อนแล้วเจอรถติดในเมือง ก็ใช้e saveช่วงวิ่งเร็วๆ แล้วมาใช้ e-modeหรือ hybrid ในเมือง เพราะe mode เหมาะกับวิ่งตอนรถติดมากครับ

ส่วนโหมดชาร์จนี่อาจจะเหมาะกับตอน
1. ขับในเมือง แบตเหลือน้อย รำคาญเครื่องติดๆดับๆ ก็ ชาร์จไปเลยครับให้แบตเกิน 30-40%จะติดๆดับๆน้อยลง
2. วิ่งด้วยความเร็ว แล้วแบตเหลือน้อย+รู้ว่าข้างหน้ารถติด ก็ชาร์จเพื่อให้ตอนรถติด ใช้e modeได้หรือใช้modehybrid แล้วเครื่องจะติดๆดับๆน้อยลง หากแบตเหลือมากพอครับ

เข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วครับ

ออฟไลน์ V221

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,823
Re: GLE500e AMG : โหมด E-save , Charge ใช้ในสถาณะการไหนครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มกราคม 15, 2017, 08:20:14 »
เพิ่งได้ขับนิดหน่อย กำลังพยายามทำความเข้าใจเหมือนกันครับ แต่เท่าที่ศึกษาดูพบว่าถ้าใช้ร่วมกับ Route Guidance ระบบจะบริหารจัดการพลังงานให้โดยคาดการณ์ล่วงหน้าว่าสภาพการจราจรเป็นอย่างไรเองโดยเราไม่ต้องทำการเปลี่ยนโหมดเองครับ เท่าที่ลองดูในรถจะมี Navigation แต่ไม่แน่ใจว่ามี Function Route Guidance ให้ด้วยหรือไม่?
BMW 750E M SPORT

ออฟไลน์ koko86

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,591
    • อีเมล์
Re: GLE500e AMG : โหมด E-save , Charge ใช้ในสถาณะการไหนครับ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มกราคม 15, 2017, 12:28:38 »
route guidance optionนี้ถ้าหาเจอช่วยบอกด้วยครับมันคงดีมากเลย
แต่มีอีกออพชั่นนึง ที่น่าสนใจสำหรับคนขับรถเป็นเวลาคือ ตั้งเวลาให้ใช้โหมดชาร์จ ตามช่วงเวลาที่เรากำหนดครับ

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,462
Re: GLE500e AMG : โหมด E-save , Charge ใช้ในสถาณะการไหนครับ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มกราคม 16, 2017, 08:48:56 »
น่าสนใจ อยากมีบ้าง