ผู้เขียน หัวข้อ: มาเล่น supercharger กันเถอะ  (อ่าน 19004 ครั้ง)

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,061
มาเล่น supercharger กันเถอะ
« เมื่อ: กันยายน 13, 2017, 18:17:16 »
เอา “จิ๋วขี้บ่น” เข้าค่ายเรียบร้อยแล้วครับ ... นั่งนับเวลารอออกจากค่าย (นับถึงวันนี้ก็นานเกินกำหนดการเดิมไปมากมาย ><) ระหว่างนี้เลยมาเขียนโน้ตสรุปแนวทางการเพิ่มกำลังเครื่องยนต์ด้วย Supercharger ไว้สักหน่อย เผื่อจะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนที่กำลังพิจารณาอยู่
 
หลักๆแล้ว การเพิ่มกำลังเครื่องยนต์สามารถทำได้โดยต้องพิจารณาถึง “สามเหลี่ยมไฟ” เป็นหลัก คือ ความร้อน อากาศ เชื้อเพลิง ... ซึ่งเครื่องยนต์ธรรมดา (Naturally aspirated) มักจะถูกจำกัดด้วยความสามารถในการ “ดูด” อากาศเข้าห้องเผาไหม้ .. การเพิ่มน้ำมัน หรือ การเพิ่มไฟ เปล่าๆ จึงส่งผลต่อแรงไม่มากนัก เพราะ “สามเหลี่ยนมไฟ” จะไม่สมดุล (ส่วนใหญ่ที่จูนไฟ จูนน้ำมันแล้วเพิ่มได้ก็เกิดจากการลด safety factor ลง) ..... ระบบอัดอากาศจึงถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถเพิ่มอากาศเข้าห้องเผาไหม้ได้ (จะได้เพิ่มไฟ และ น้ำมันได้) ... ซึ่งระบบอัดอากาศ หรือ Forced Induction ทั่วไปมี 2 แบบ คือ Turbo charger และ Supercharger … Turbo charger นั้น คงคุ้นเคยกันดี และมีรถใช้งานอยู่มากมาย แต่ Supercharger อาจไม่ค่อยเป็นที่คุ้นเคยเท่าไรในเมืองไทย เลยขออนุญาตมาเล่าให้ฟังนิดหน่อยครับ
 
Supercharger นั้นอาศัยการหมุนของเครื่อง ผ่านชุด Pulley ทดรอบมาปั่นตัว Compressor เพื่อสร้างแรงอัดอากาศเพิ่มเข้าห้องเผาไหม้ ซึ่งแปลว่าตัว Compressor นั้นจะหมุนที่ความเร็วที่สอดคล้องกับรอบเครื่องเสมอ ต่างจาก Turbo charger ที่อาศัยไอเสียไปหมุนใบ Compressor ความเร็วในการหมุนจึงขึ้นอยู่กับปริมาณไอเสียของเครื่อง (ดูได้จาก load) เป็นหลัก ... จึงเป็นที่มาของคำว่า Turbo มี Lag มากกว่า Supercharger เพราะ Turbo ต้องรอให้มีไอเสียผ่านโข่งไอเสียมากพอก่อน จึงจะทำลมได้ แม้จะอยู่ที่รอบสูงๆ ถ้า Load ไม่สูงปริมาณลมที่ไปปั่นใบพัดก็จะยังไม่สูงมาก ...... ในขณะที่ Supercharger นั้นพร้อมทำลมได้ทุกขณะ ... แต่นิสัยแบบนี้ก็มีข้อเสียสำคัญ คือ ในรอบต่ำจะกินแรงเครื่องมากกว่า Turbo และ เปลืองน้ำมันมากกว่า (เครื่อง Turbo สามารถขับโดยคุมให้ Load เครื่องน้อยๆ ให้ไม่มี Boost ได้ แต่เครื่อง Supercharger ยังไงก็มี Boost)
 
ซึ่งระบบ Supercharger เองก็มี 2 แบบหลักๆ ได้แก่ Positive Displacement กับ Centrifugal
 
Supercharger สมัยก่อนจะเป็นแบบ Positive Displacement (ในรายละเอียดปลีกย่อยจะมีแบบ Root และ Twin-screw ซึ่งไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกันว่าต่างกันยังไง) เสียเป็นส่วนใหญ่ หน้าตาจะเป็นก้อนโลหะขนาดประมาณท่อร่วมไอดีใหญ่ๆ บางทีก็อยู่ฝั่งท่อร่วมไอเสีย (ฝรั่งเรียก Hot-side supercharger) แล้วมีท่อเดินมาเข้าท่อร่วมไอดีเดิม บางทีก็อยู่ฝั่งท่อร่วมไอดี (ฝรั่งเรียก Cold-side supercharger) แล้วต่อตรงกับท่อร่วมไอดีเดิม ยี่ห้อที่เด่นดังมากๆ ก็จะเป็น Eaton
 
ในขณะที่สมัยใหม่ๆ จะเป็น แบบ Centrifugal กันเสียเยอะ หน้าจะเหมือนโข่ง Compressor ของเทอร์โบ ยี่ห้อที่เด่นๆก็อย่างเช่น Rotrex, Kraftwerks
 
แล้ว 2 แบบนี้ต่างกันยังไง
1.     ขนาด/น้ำหนัก ระบบ Positive displacement มีขนาดใหญ่กว่ามาก ทำให้มีข้อจำกัดในการติดตั้งมากกว่า และอาจไม่เหมาะที่จะใช้กับรถที่ห้องเครื่องค่อนข้างคับแคบ
2.     วิธีการสร้างแรงลม จริงๆ ชื่อของ 2 ระบบ นี้เรียกตามวิธีการสร้างแรงลม .. Positive displacement สร้างแรงลมด้วยการเปิดให้อากาศเข้าทางที่มีปริมาตรเยอะกว่าแล้ว “บีบ”ให้อากาศออกทางที่มีปริมาตรน้อยกว่า (แบบปั๊มน้ำโรตารี่) ในขณะที่ระบบ Centrifugal อาศัยแรงเหวี่ยง”ผลัก”อากาศไปตามท่อ (แบบปั๊มน้ำหอยโข่ง) ... ซึ่ง Turbo charger เองก็สร้างแรงลมโดยอาศัยกลไก Centrifugal นี้เหมือนกัน .... แล้วมันแปลว่าอะไร??
 
การสร้างแรงลมด้วยกลไก Positive displacement นั้น  “ในอุดมคติ” สามารถสร้าง ”ปริมาณลม” ต่อรอบการหมุนได้ “คงที่” เช่น ที่ รอบเครื่อง 3000 รอบ/นาที Pulley ทด 1:10 Supercharger หมุน 30,000 รอบ/นาที อัดอากาศได้ 300 cfm (ลูกบาศก์ฟุตต่อนาที) ถ้ารอบเครื่อง เพิ่มเป็น 2 เท่า เป็น 6000 รอบ/นาที Pulley ทด 1:10 Supercharger หมุน 60,000 รอบ/นาที อัดอากาศได้ 600 cfm (2 เท่าของค่าที่ทำได้ที่รอบเครื่อง 3000 รอบ) วิธีการอัดอากาศแบบนี้ทำให้ Supercharger แบบนี้ทำ Boost ได้ตั้งแต่รอบต่ำๆเลย (ในทางทฤษฎี Positive displacement supercharger สามารถทำ max boost ได้ตั้งแต่ idle เลย แต่ในทางปฏิบัติตัว Compressor ไม่ได้ซีลดีขนาดนั้น มีการ “รั่ว” ในชุดอัดอากาศ ทำให้ในรอบต่ำๆอาจจะยังไม่มีแรงอัดอากาศมาเท่าทฤษฎี)
 
....... ในขณะที่กลไก Centrifugal นั้น  “ในอุดมคติ” สามารถสร้าง ”ปริมาณลม” ต่อรอบการหมุนเพิ่มขึ้นตามความเร็วในการหมุน  (บ้างก็ว่าเป็นฟังชั่น Exponential ของรอบการหมุน) ดังนั้น Centrifugal supercharger ที่ทำลมได้ 600cfm ที่ 6000 รอบ จะทำลมได้น้อยกว่า 300 cfm ที่ 3000 รอบ (เลขจริงไม่ทราบเหมือนกันเพราะอ่านจากหลายๆแหล่งแล้วเลขยังงงๆอยู่ แต่พอจะสรุปได้ว่าเมื่อรอบลดลงครึ่งหนึ่ง ลมที่ทำได้จะน้อยกว่าครึ่งหนึ่งแน่ๆ) ......... ซึ่งแปลว่าที่ 3000 รอบ Centrifugal supercharger ทำลมได้น้อยกว่า / และถ้าหากอยากจะได้ลมเยอะกว่านี้ก็จะต้องให้ตัว Compressor หมุนเร็วขึ้นมากๆ แต่นั่นก็จะเกิด loss ในระบบเพิ่มขึ้นด้วย (เปลืองแรงในการหมุน Compressor ในรอบต่ำ) แถมในจุดที่รอบสูงมากๆ ก็อาจทำลมได้เยอะเกินไป ซึ่งจะกลายเป็นเสียแรงไปกับความร้อนที่เกิดจากการอัดอากาศอีก และยังรวมไปถึงว่าอาจจะมากกว่าที่เครื่องจะรับไหวอีก
 
ดังนั้น “ว่ากันว่า” รถที่ใส่ Positive displacement supercharger นั้น จะมีอาการคล้ายๆ รถที่เพิ่มขนาดความจุเครื่อง ขับง่าย คุมน้ำหนักคันเร่งง่าย ดึงแบบเนิบๆ ในขณะที่รถที่ใส่ Centrifugal supercharger นั้นอาการจะคล้ายรถเทอร์โบมากกว่า คือ จะรู้สึกว่าช่วงแรกๆจะไม่แรงขึ้นเท่าไหร่ แต่พอลากรอบไปแล้วจะแรงขึ้นเรื่อยๆ ..... อย่างไรก็ตาม รถเทอร์โบช่วงที่เปลี่ยนจากไม่ค่อยแรงเป็นแรงขึ้นนั้นจะสั้นกว่า แปลว่าจังหวะ”ดึง” จะดึงหนักกว่า เพราะรถเทอร์โบสามารถทำลมสูงสุดที่ได้รอบต่ำกว่า centrifugal supercharger ที่ทำลมได้สูงสุดที่ redline ของเครื่อง ... เพราะความเร็วในการหมุนขึ้นอยู่กับรอบเครื่อง .... แต่ก็เพราะเหตุนั้นรถที่ใส่ Centrifugal supercharger ความแรงจะ “ติดเท้า” กว่า รถ Turbo ...... เรียกว่าถ้าขับหนักๆ อยู่ที่ WOT ตลอด รถ Turbo จะแรงกว่า เพราะ Load ของเครื่องสูง มารอปั่นใบพัดอยู่แล้ว .... แต่ถ้าขับเลี้ยงรอบสูงๆมาอยู่ (แต่เปิดคันเร่งสัก 30%) แล้วกระทืบทันที แบบนี้รถที่ใช้ centrifugal supercharger น่าจะพุ่งไปได้เร็วกว่ารถ Turbo ในช่วงแรก
 
ด้วยความที่ Supercharger ไม่ว่าแบบไหน แรงลมที่ทำได้นั้น ค่อนข้าง “ค่อยเป็นค่อยไป” เมื่อเทียบกับ Turbo จึงทำให้การจูนทำได้ง่ายกว่า เสี่ยงต่อการพังน้อยกว่า ........... คหสต. จึงเป็นทางเลือกที่นับว่าน่าสนใจอยู่ไม่น้อย อาจจะติดตรงที่ราคาแพงกว่า แต่ก็แลกมาด้วยการเป็นชุดคิตติดตั้งง่าย (ถ้า turbo ที่เป็นชุดคิต ก็แพงไม่น้อยหน้ากันเท่าไหร่) .... ก็อยากฝากไว้พิจารณากันด้วยครับ จะได้มีช่างที่ถนัด Supercharger เพิ่มขึ้นในบ้านเราครับ :)
 
ปล1. เขียนจากความรู้งูๆปลาๆ ที่หาอ่านมาเอง ระหว่างศึกษาข้อมูลแต่งรถตัวเอง + ความรู้เครื่องกลต่ำต้อย หากมีผิด/คลาดเคลื่อนตรงไหน แย้งได้เลยนะครับ โดยเฉพาะส่วนกลไกการสร้างแรงลม ต้องออกตัวว่ายังมีบางส่วนที่ผมยังไม่เข้าใจดีพอ คือ 1. การคำนวณปริมาณลมที่ centrifugal supercharger ทำได้ ต้องคำนวณอย่างไรแน่ .. เคยลองใส่ function exponential จริงๆแล้วพบว่าค่าที่ได้มันแปลกเกินไปหน่อย และ 2. Supercharger เพิ่ม ”ปริมาณลม” ที่เข้าไปที่เครื่อง ถ้าวาวล์ไอดีของเครื่องสามารถเอาลมทั้งหมดเข้าห้องเผาไหม้ได้ ก็จะไม่มี boost แต่ถ้าเอาเข้าได้ไม่หมดจึงจะมี boost ซึ่งทำให้ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ว่า การที่ Positive displacement supercharger สร้าง “ปริมาณลม” ได้เพิ่มขึ้นเป็นเส้นตรงตามรอบเครื่อง แปลว่าบูสท์คงที่ได้อย่างไร ........ หากสมาชิกท่านใด จะสามารถช่วยอธิบายเพิ่มเติมได้จะดีมากเลยครับ
 
ปล2. จุดที่อยากจะฝากไว้ คือ เท่าที่อ่านๆมา เวลาคนอธิบายนิสัยของ Supercharger จะอธิบายนิสัยของ Positive displacement ที่สมัยนี้ไม่ค่อยมีของแต่งทำขายกันสักเท่าไหร่ ดังนั้นหากใครคิดจะใช้ Centrifugal supercharger ผลที่ได้ก็อาจไม่เหมือนที่อ่านเจอทั่วไปนะครับ อาจต้องลองหาข้อมูลเพิ่มเติมดู ว่า “ใช่” อย่างที่เราอยากได้หรือไม่นะครับ

ออฟไลน์ tom46

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,764
Re: มาเล่น supercharger กันเถอะ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 13, 2017, 19:06:32 »
อยากอยู่เหมือนกันละครับ แต่งบไม่ถึงกับเขาสักที  :'( :'( :'(
M52TUB30 NA TUNING
STROKER M54B30
SCHRICK CAM 248/248
aa tuning software custom
K&N performance air intake kit
Exhaust systems thailand hand made
Rear exhaust EISENMANN

ออฟไลน์ koko86

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,591
    • อีเมล์
Re: มาเล่น supercharger กันเถอะ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กันยายน 13, 2017, 20:37:35 »
สุดยอดครับ คุณturinอ่านแล้วมันส์มากๆ สมัยก่อนผมไม่ค่อยรู้ ว่าสองอย่างนี้มันต่างกันยังไง

มีน้องคนนึงในคลับก็ใส่ซุป แบบpositive displacement ตัวเลขแรงม้าไม่ได้เยอะ แต่ในสนามทำเวลาดีมาก เพราะส่วนนึงคงไม่ได้มีปัญหาturbo lag

โดยส่วนตัวถึงSuperchargeจะได้ม้าน้อยกว่า ดึงน้อยกว่า แต่ผมชอบsupercharged มากกว่าturbo เพราะชอบ linear filling แบบ na ครับ เวลาออกจากโค้งมันcontrol คันเร่งง่ายดี ขับในเมืองก็คุมคันเร่งง่ายไม่ต้องลากเกียร์

อยากให้มีกระทู้ดีๆ อย่างนี้ออกมาอีกเยอะๆครับ ได้ความรู้จริงๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 13, 2017, 21:03:52 โดย koko86 »

ออฟไลน์ punn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,607
  • may the force lead your way ...
Re: มาเล่น supercharger กันเถอะ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กันยายน 13, 2017, 21:49:54 »
โอ้ ขอบคุณข้อมูลดีๆครับ   ;D

ได้เห็นความต่างอย่างมีนัยยะของ 2 ระบบนี้
ผมเข้าใจคร่าวๆคือ turbo ความรู้สึกจะคล้ายๆเปิดปิด ไต่กำลังได้ในช่วงแคบๆ
เลยต้องมี 2 ตัวแยกกันทำคนละช่วงถึงจะได้ครบช่วง

กับ supercharge แบบcentri เหมือนเป็นตัวเสริมพลัง ทำงานไปพร้อมกับเครื่อง
ช่วงต้นก็จะหน่วงนิดๆเพราะกำลังลมยังน้อยเกิน แต่ช่วงปลายนี่กำลังอัดเหลือๆ
เพราะใบพัดปั่นแรงอัดจะกลับกันกับแนวคิดแรงต้านลมเป็นกำลังสองของความเร็วใช่มะครับ  :-[
(อากาศอัดเร็วขึ้นเท่านึง กำลังที่เข้าเครื่องของลมเลยเป็น 4 เท่า)

ขออภัยที่อ่อนแอด้านนี้มากครัช เพิ่งเคยอ่านครั้งแรกในชีวิตแต่อยากแสดงความอ่อน
เผื่ออาจารย์ Turin จะเข้าใจปัญหาความอ่อน ว่างๆกลับมาอธิบาย :-[ :-[ :-[
เป็นคนโลกปกติธรรมดา :)
ไม่โลกสวย และไม่โลกมืด อยู่กับความเป็นจริงและพลังงานบวก ..

ปราชญ์สอนสิ่งไหน คนก็จะจำสิ่งนั้น
ประสบการณ์เจอแบบไหน คนก็จะคิดทางนั้น
ต่างคนต่างประสบการณ์เรียนรู้สิ่งเดียวกัน ก็จะออกมาแตกต่างกันไปครับ

ออฟไลน์ NS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,712
  • การเดินทางครั้งใหม่
Re: มาเล่น supercharger กันเถอะ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กันยายน 13, 2017, 21:59:56 »
  ทำให้นึกต่อไปถึง bi-Turbo ต่อไปอีกที ขอบคุณที่เอามาให้อ่าน แม้จะยัง งง งง อยู่บ้างครับ
จะเลือกรถหรือเมีย....

...รถสิคร๊าฟ

ออฟไลน์ mile

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 263
    • อีเมล์
Re: มาเล่น supercharger กันเถอะ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กันยายน 13, 2017, 22:21:46 »
เทอร์โบที่พัฒนาตามหลักการของซุปเปอร์ชาร์จก็คือเทอร์โบแปรผันนั่นไงครับ 

ออฟไลน์ ttcl

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 735
Re: มาเล่น supercharger กันเถอะ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กันยายน 13, 2017, 22:27:02 »
ขอบคุณครับ สมัยก่อน benz เห็นมีรถตลาดรุ่นที่ใส่ supercharger จากโรงงาน พวกที่ลงท้ายด้วย kom
(kompressor คือ superchareger ใช่มั๊ยครับ) 180kom , 200kom , 230kom
ปัจจุบันรู้สึกเบนซ์จะเปลี่ยนไปเทอร์โบ


ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,419
    • อีเมล์
Re: มาเล่น supercharger กันเถอะ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กันยายน 13, 2017, 22:33:55 »


ผมเล็ง E-Turbo แทน อะครับ
น่าจะติดง่ายกว่า

ออฟไลน์ koko86

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,591
    • อีเมล์
Re: มาเล่น supercharger กันเถอะ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กันยายน 14, 2017, 06:51:39 »
พึ่งนึกออก อันนี้ฝากไว้เป็นรีวิวของเพื่อนในคลับ หลังติดซุปเปอร์ชาร์จ+ฟิลลิ่งในสนาม ครับ
http://www.86brzthailand.com/index.php?topic=459.0
กราฟไดโน่ ก่อนและหลัง ติดซุปแบบroot torqueต้นมาเพียบ
และที่สี่พันรอบ ทอร์คมากกว่าประมาณห้าเท่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 14, 2017, 07:10:43 โดย koko86 »

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,177
Re: มาเล่น supercharger กันเถอะ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กันยายน 14, 2017, 07:05:07 »
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ

อธิบายเห็นภาพชัดดี
ชอบ Concept การติดตั้งซุปนะ คล้ายๆขยายความจุ ทำให้รถยังคงบุคลิคเดิมๆไว้

ส่วนตัวผมชอบเทอร์โบมากกว่าครับ ชอบดึงหนักๆ  8)

ออฟไลน์ ภูมิใจไหม?

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,147
  • SNK vs Playmore
Re: มาเล่น supercharger กันเถอะ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กันยายน 14, 2017, 08:10:40 »
ขอบคุณครับ สำหรับบทความดี ๆ เจัา supercharger นี่ติดตั้งแล้วก็เหมือนรถคันใหม่เลย อิอิ


อ้อ ถามหน่อยครับ ผมเห็นในชุดคิด มันจะมีกระปุกน้ำมันอะไรก็ไม่รู้แถมมาด้วย (ดูจากรูปเว็บญี่ปุ่น)

มันคืออะไรครับ

แล้วการบำรุงรักษามีอะไรบ้างครับ สายพานมีอายุกี่ปีได้ครับ?

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,061
Re: มาเล่น supercharger กันเถอะ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กันยายน 14, 2017, 09:02:57 »
ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมแสดงความเห็นกันครับ

ประเด็นเรื่องเทอร์โบ ยังไงซะ กลไกการสร้างแรงลมของเทอร์โบ ก็ เป็น centrifugal ซึ่งแปลว่าถ้าหมุนไม่เร็วพอจะได้ลมน้อย ... ความเร็วของใบ compressor จึง เป็น เรื่อง สำคัญ ... ซึ่งก็มีวิธีต่างๆนานา ไม่ว่าจะเป็น
- design ใบให้เบา+กินลมดีๆ
- ใช้ ball bearing มาช่วยให้หมุนง่ายๆ
- parallel twin turbo / bi turbo ลดขนาดเทอร์โบลงเพื่อให้หมุนง่ายขึ้น แล้วใช้ 2 ตัวทำงานคู่กัน รับไอเสียจากคนละสูบกัน
- sequential twin turbo ใช้เทอร์โบลูกเล็กหมุนง่ายๆปั่นช่วง load น้อยๆ แล้วค่อยใช้ลูกที่ใหญ่กว่าปั่นช่วง load สูงๆ
- twinscroll turbo ช่วยจัดระเบียบไอเสียที่จะมาปั่นใบ turbine
- variable turbo ทำให้ทางเดินลมเปลี่ยนแปลงได้ เพราะปกติทางเดินลมที่สร้างแรงได้ดีๆช่วงลมน้อยจะอั้นเมื่อลมเยอะ แต่ถ้าเปลี่ยนแปลงมันได้ตาม load ก็จะลดข้อจำกัดตรงนี้ลงได้

ถ้าให้เดาผมคิดว่า ถ้าให้คิดเรื่อง "ดึง" .. เทอร์โบ > centrifugal SC > positive displacement SC > เพิ่ม CC เครื่อง

การดูแลรักษา เท่าที่รู้ Eaton M45 ที่ผมกำลังเอามาใส่รถอยู่ มีแค่เปลี่ยนน้ำมันและสายพาน ทุกๆ 50,000 กิโล ครับ ... แต่สายพานต้องใช้ขนาดให้พอดีเป๊ะ ใช้ขนาดเทียบไม่ได้ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าที่ Benz ยุคนึงมีใช้กันเยอะๆแล้วมีปัญหากันตรงไหนบ้าง (คุ้นๆว่าเป็น Eaton positive displacement เหมือน กัน)

อ่านๆไปแล้วก็ได้แต่คิดว่าเมื่อไหร่รถจะเสร็จสะทีน้าาา

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,061
Re: มาเล่น supercharger กันเถอะ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กันยายน 14, 2017, 10:15:02 »
นึกได้อีก 2 ประเด็นครับ
 
อย่างแรก e-turbo ... ด้วยความที่ turbo สร้างลมด้วยกลไก centrifugal แปลว่ามันต้องหมุนเร็วมากๆจึงจะสร้างลมได้มากพอที่จะเป็นประโยชน์ ... ซึ่งมันต้องใช้กำลังไฟฟ้าเยอะ เยอะเกินกว่าที่จะเอามาใช้งานจริงได้คุ้ม ... แต่ที่เคยเห็นอยู่คือมีการเอาไฟฟ้ามาช่วยปั่นแกน turbine ในช่วงที่ไอเสียยังไม่มากพอที่จะปั่นได้เต็มที่

อีกเรื่องที่นึกออกคือ supercharger ของ Benz ยุคนึง ที่มีปัญหากัน ส่วนหนึ่งน่าจะมาจาก electronic clutchbที่เอาไว้จับ-ปล่อย pulley เพื่อไม่ให้ supercharger ต้องหมุนตลอดเวลา (เพื่อลด loss ในช่วงรอบต่ำ และ ลดการกินน้ำมันในช่วง cruise) ... ใครเคยใช้ รบกวนแชร์ ปสก. กันนิดครับ (เผื่อผมจะได้เตรียมใจได้ถูก)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 14, 2017, 10:51:52 โดย Turin »

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,061
Re: มาเล่น supercharger กันเถอะ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กันยายน 14, 2017, 10:58:55 »
อ้อ ถามหน่อยครับ ผมเห็นในชุดคิด มันจะมีกระปุกน้ำมันอะไรก็ไม่รู้แถมมาด้วย (ดูจากรูปเว็บญี่ปุ่น)

มันคืออะไรครับ
อืม ... มี link ไหมครับ ของผมไม่มีกระปุกน้ำมันนะครับ "เดา" ว่าตัวซุป มันอาจติดกระปุกน้ำมันเดิม (เช่นกระปุกน้ำมันเพาเวอร์) เลยต้องมีชุดสำหรับย้ายกระปุกเดิมมาให้ด้วย ??? เพราะอย่างชุดของผมก็ติดถังพักน้ำล้างกระจก ต้องเปลี่ยนใหม่และย้ายที่

ออฟไลน์ punn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,607
  • may the force lead your way ...
Re: มาเล่น supercharger กันเถอะ
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: กันยายน 14, 2017, 13:07:36 »
 ??? ??? ???
เป็นคนโลกปกติธรรมดา :)
ไม่โลกสวย และไม่โลกมืด อยู่กับความเป็นจริงและพลังงานบวก ..

ปราชญ์สอนสิ่งไหน คนก็จะจำสิ่งนั้น
ประสบการณ์เจอแบบไหน คนก็จะคิดทางนั้น
ต่างคนต่างประสบการณ์เรียนรู้สิ่งเดียวกัน ก็จะออกมาแตกต่างกันไปครับ

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,061
Re: มาเล่น supercharger กันเถอะ
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: กันยายน 14, 2017, 13:31:30 »
??? ??? ???
ประเด็น ที่ คุณ punn พูดถึง ผมยกตัวอย่างแบบนี้แล้วกันครับ
ถ้ากดคันเร่ง 100% เท่ากัน
รถเทอร์โบลูกเล็ก
1000 รอบ บูสท์ 0 psi
2000 รอบ บูสท์ 6 psi
3000 รอบ บูสท์ 14 psi
4000 รอบ บูสท์ 14 psi
5000 รอบ บูสท์ 14 psi

รถเทอร์โบลูกใหญ่
1000 รอบ บูสท์ 0 psi
2000 รอบ บูสท์ 3 psi
3000 รอบ บูสท์ 10 psi
4000 รอบ บูสท์ 20 psi
5000 รอบ บูสท์ 20 psi

รถ centrifugal บูสท์น้อย
1000 รอบ บูสท์ 0 psi
2000 รอบ บูสท์ 3.5 psi
3000 รอบ บูสท์ 7 psi
4000 รอบ บูสท์ 10.5 psi
5000 รอบ บูสท์ 14 psi

รถ centrifugal บูสท์เยอะ
1000 รอบ บูสท์ 0 psi
2000 รอบ บูสท์ 5 psi
3000 รอบ บูสท์ 10 psi
4000 รอบ บูสท์ 15 psi
5000 รอบ บูสท์ 20 psi

รถ positive displacement บูสท์น้อย
1000 รอบ บูสท์ 0 psi
2000 รอบ บูสท์ 8 psi
3000 รอบ บูสท์ 10 psi
4000 รอบ บูสท์ 10 psi
5000 รอบ บูสท์ 10 psi
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 14, 2017, 13:37:09 โดย Turin »

ออฟไลน์ Alcatraz

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,604
    • อีเมล์
Re: มาเล่น supercharger กันเถอะ
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: กันยายน 14, 2017, 13:35:25 »
อยากให้มีช่างชำนาญซุปเปอร์ชาจน์ เพื่ออะไรครับในเมื่อคุณเขียนเองว่าซุปมีความซับซ้อนน้อยกว่าบำรุงรักษาง่ายกว่าเทอร์โบ ดังนั้นการมีช่างที่ชำนาญเทอร์โบย่อมดีกว่าไม่ใช่หรือครับ เวลามีปัญหาเราก็ให้ช่างจัดการ เราคงไม่ลงไปจัดการเองหรอก ในเมื่อเทอร์โบมีราคาถูกกว่า ทรงพลังกว่า มีช่างที่ชำนาญ แล้วมีอะไรต้องกลัว แล้วทุกวันนี้ประเทศไทยพัฒนาไปถึงขั้นมองไปทางไหนก็หาอู่เซ็ตเทอร์โบได้ง่าย ง่ายกว่าซุปด้วยซ้ำ จะมีแค่บางรุ่นที่ยังนิยมเซ็ตซุปเช่น 86 brz เพราะว่ารถมีราคาค่อนข้างสูง การเสี่ยงไปเซ็ตเทอร์โบเองต้องอาศัยไว้ใจช่าง จึงอาศัยชุดคิตตรงรุ่นจากญี่ปุ่นเป็นอะไรที่เสี่ยงน้อยกว่า

อีกอย่างทำไมคุณไม่บอกข้อเสียของมันด้วยนั่นคือการติดซุปนั้นกินแรงเครื่องเพราะต้องแบ่งแรงไปหมุนสายพาน ทำให้กินน้ำมันมากกว่าเทอร์โบแล้ว ปลายยังหดอีกต่างหาก ผิดกับเทอร์โบที่อาศัยไอเสีย ซึ่งเป็นการเอาของเสียจากเครื่องยนตร์เอามาปั่นใบพัด

จริงๆแล้วรถไฮบริดคือตัวแทนกลายๆของซุปเปอร์ชาจน์ไปแล้ว เพราะมอเตอร์ทำหน้าที่ได้คล้ายๆกันแต่มีประสิทธิภาพสูงกว่า รถเดิมที่ใส่ซุปมาให้จากโรงงานมีเพียงไม่กี่ยี่ห้อเท่านั้นในโลกที่ยังยอมใส่มาให้เช่นฝั่งอเมริกา พวก corvette dodge ยุโรปก็จะมี jaguar ซึ่งพวกนี้ใส่มาแค่เอาสะใจเท่านั้น ไม่ได้โชว์เทคโนโลยีอะไรเลย ฝั่งเยอร์มันเช่น Benz audi ใช้จนทิ้งไปแล้ว

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,061
Re: มาเล่น supercharger กันเถอะ
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: กันยายน 14, 2017, 13:47:15 »
ที่จริงผมก็ชอบเทอร์โบมากกว่าซุปนิดหน่อย แต่บังเอิญมีโอกาสได้ชุดซุปมาในราคาใกล้เคียงกับเซ็ตเทอร์โบ เลยลองศึกษาดู และพบว่ามีจุดที่น่าสนใจเลยเอามาเล่าให้ฟังกันดูครับ

ซุปมีข้อเสียหลัก คือ ทำลมได้น้อย และ กินแรงเครื่อง (จริง ๆ สองเรื่องนี้เกี่ยวข้องกัน) ... ซุปทั่วไปทำลมระดับ ต่ำ 1 บาร์เท่านั้น ... ในขณะที่เทอร์โบระดับ 1 บาร์นี่หมูมาก

ส่วนเรื่องการดูแล แม้จะน้อย แต่ก็เรียกว่ามากกว่าเทอร์โบ ที่ไม่ต้องทำอะไรเลย และการติดตั้งที่ทำได้ยาก ถ้าไม่ใช่ชุดคิต Hot-side SC แค่สร้างจุดยึดก็ยากแล้ว Cold-side SC ยิ่งยางหนักเพราะต้องสร้างท่อร่วมไอดีใหม่

เอาว่ามันเหมาะกับคนที่ต้องการม้าที่เรียบร้อยหน่อยแล้วกันครับ สำหรับคนที่ต้องการ "พละกำลัง" เต็มที่ SC ไม่ตอบโจทย์แน่นอนครับ

ปล. ถ้าพูดถึงความแพง เทียบชุดคิตกับชุดคิต ไม่ต่างเท่าไหร่นะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 14, 2017, 14:02:37 โดย Turin »

ออฟไลน์ CarameLon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,393
Re: มาเล่น supercharger กันเถอะ
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: กันยายน 14, 2017, 13:48:33 »
ตามคุณ Alcatraz แน่นอน +1
เมื่อก่อนก็เคยศึกษา แบ่งกำลังเครื่องยนตร์ส่วนหนึ่งไปเดินซุปเปอร์ชาร์จ
ได้แรงบิดมหาศาล แต่แรงกลางปลายไม่ไหลไวเท่าเทอร์โบ
กระบะแต่งเมืองนอกนิยมกัน เสียงตอนกดคันเร่งก็แสบทรวงดีนะครับคนละแนวกับเทอร์โบ
TOYOTA WISH SPORT 2.0>>>CRV-2.4L 4WD GEN3>>>TOYOTA Camry 2.4 2010>>>BMW 520 ตาเหยี่ยว>>>BMW X3 2011 >>>BMW 520D 2010 >>>BMW 525D ก่อน LCI >>>BMW 116i M-sport >>>BMW X1 2.0 S-drive 2016 >>>Mercedes GLA200 >>>Mercedes C Class C350e >>> BMW330e+BMWS1000R

ออฟไลน์ ภูมิใจไหม?

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,147
  • SNK vs Playmore
Re: มาเล่น supercharger กันเถอะ
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: กันยายน 14, 2017, 14:54:07 »
กระทู้แตกฟองแล้วครับ  ;D

นี่ถ้าได้นั่งคุยกันในลานเบียร์คงมันส์พิลึก


เอารูปมาให้ดูว่านี่คือกระปุกน้ำมันอะไรครับ





ในรูปคือ HKS GT V3 Supercharger System for BRZ / 86 ครับ

แล้วขอถามเพิ่มว่า ถ้ามี supercharger เราจำเป็นต้องติดกล่อง piggy back ด้วยใช่ไหมครับ จะรีแฟลช ECU เฉย ๆ ไม่ได้ใช่ไหมครับ?

ออฟไลน์ ttcl

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 735
Re: มาเล่น supercharger กันเถอะ
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: กันยายน 14, 2017, 15:11:27 »
รถที่มี supercharger นี่ผมเคยขับแค่ครั้งเดียวเอง เป็นซุปที่ไม่ได้เน้นความแรงอะไรมากมาย

รถของอา หลายปีแล้ว ตอนนั้นเป็น benz c class w203 230 kom รู้สึกจะเครื่อง 1.8 ลิตร ผมขับกลับจากต่างจังหวัด
ก่อนนั้นก็เคยขับ audi a4 2.4 ของอา
ผมรู้สึกว่าแรงดึง ฟีลลิ่ง เครื่อง 1.8 + supercharger พอๆกับรถ audi เครื่อง 2.4 NA
กดแล้วมาทันที

สอบถามเป็นความรู้หน่อยครับ "จิ๋วขี้บ่น" นี่เครื่องเดิมกี่ซีซี ก่อนใส่ซุป แรงม้า แรงบิด เท่าไหร่
แล้วพอใส่ซุปแล้ว แรงม้าแรงบิด จะเพิ่มเป็นประมาณเท่าไหร่ครับ

ออฟไลน์ punn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,607
  • may the force lead your way ...
Re: มาเล่น supercharger กันเถอะ
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: กันยายน 14, 2017, 15:18:15 »
??? ??? ???
ประเด็น ที่ คุณ punn พูดถึง ผมยกตัวอย่างแบบนี้แล้วกันครับ
ถ้ากดคันเร่ง 100% เท่ากัน
รถเทอร์โบลูกเล็ก
1000 รอบ บูสท์ 0 psi
2000 รอบ บูสท์ 6 psi
3000 รอบ บูสท์ 14 psi
4000 รอบ บูสท์ 14 psi
5000 รอบ บูสท์ 14 psi

รถเทอร์โบลูกใหญ่
1000 รอบ บูสท์ 0 psi
2000 รอบ บูสท์ 3 psi
3000 รอบ บูสท์ 10 psi
4000 รอบ บูสท์ 20 psi
5000 รอบ บูสท์ 20 psi

รถ centrifugal บูสท์น้อย
1000 รอบ บูสท์ 0 psi
2000 รอบ บูสท์ 3.5 psi
3000 รอบ บูสท์ 7 psi
4000 รอบ บูสท์ 10.5 psi
5000 รอบ บูสท์ 14 psi

รถ centrifugal บูสท์เยอะ
1000 รอบ บูสท์ 0 psi
2000 รอบ บูสท์ 5 psi
3000 รอบ บูสท์ 10 psi
4000 รอบ บูสท์ 15 psi
5000 รอบ บูสท์ 20 psi

รถ positive displacement บูสท์น้อย
1000 รอบ บูสท์ 0 psi
2000 รอบ บูสท์ 8 psi
3000 รอบ บูสท์ 10 psi
4000 รอบ บูสท์ 10 psi
5000 รอบ บูสท์ 10 psi

ขอบคุณค้าบ กำลังเพลินพอดีเห็นอีโมน่ารักเลยลงชื่อตามอ่านเฉยๆคับพ้ม  ;D
เป็นคนโลกปกติธรรมดา :)
ไม่โลกสวย และไม่โลกมืด อยู่กับความเป็นจริงและพลังงานบวก ..

ปราชญ์สอนสิ่งไหน คนก็จะจำสิ่งนั้น
ประสบการณ์เจอแบบไหน คนก็จะคิดทางนั้น
ต่างคนต่างประสบการณ์เรียนรู้สิ่งเดียวกัน ก็จะออกมาแตกต่างกันไปครับ

ออฟไลน์ koko86

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,591
    • อีเมล์
Re: มาเล่น supercharger กันเถอะ
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: กันยายน 14, 2017, 15:41:45 »
ซุปมีข้อเสียหลัก คือ ทำลมได้น้อย และ กินแรงเครื่อง (จริง ๆ สองเรื่องนี้เกี่ยวข้องกัน) ... ซุปทั่วไปทำลมระดับ ต่ำ 1 บาร์เท่านั้น ... ในขณะที่เทอร์โบระดับ 1 บาร์นี่หมูมาก

รบกวนถามคุณturinครับ ผมสงสัยมานานละครับว่าทำไมมันถึงบูสต์เกิน1บาร์ไม่ได้

ส่วนกระปุกปริศนา ของคุณsnkนี่น่าจะเป็นน้ำมันหล่อลื่นของซุปครับ

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,061
Re: มาเล่น supercharger กันเถอะ
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: กันยายน 14, 2017, 18:23:04 »
"จิ๋วขี้บ่น" คือ MX5 NB ครับ เครื่อง 1.8 140 ม้า เกียร์ธรรมดาลงพื้นจริงน่าจะไม่เกิน 110 (รถผมเกียร์ออโต้ลงพื้นจริง 91 ม้า)

 ... ถ้าใส่ M45 SC บูสท์เดิมๆอยู่ประมาณ 6 psi ได้ม้าลงพื้นอยู่ประมาณ 140-160 ตัว ขึ้นอยู่กับจูน (140 คือใช้ fuel card ที่แถมมากับคิต , 160 คือใช้กล่อง piggyback + จูนดีๆ) ... ถ้าใส่ pulley เพิ่มบูสท์ + อินเตอร์ น่าจะได้ถึง 170 ม้า ..... ก็ประมาณรถ NA 2.5 แหละ ครับ

SC มันกินแรงเครื่อง จะทำบูสท์เพิ่ม ต้องเพิ่มอัตราทด หรือ เพิ่มขนาดชุด compressor ซึ่งก็จะเปลืองแรงขึ้นไปอีก อย่าง SC ของรถ top fuel นี่ทำบูสท์ได้ 60 psi แต่ว่ากันว่า เครื่อง 5,000 cc เดิมๆหมุน SC ตัวนี้ไม่ไหว ...... เข้าใจว่าคงคิดกันมาแล้วว่าบูสต์ประมาณ 6-10 psi นี่กำลังดี กล่องก็ยังไม่ต้องทำ เหมาะกับเป็น project car ของฝรั่งมังครับ

ส่วนกระปุกของคุณ SNK น่าจะเป็นนำ้มันซุปเหมือนที่คุณ koko86 ว่ามั้งครับ (ว่าแล้วทำไมของผมไม่มีหว่า)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 14, 2017, 18:26:09 โดย Turin »

ออฟไลน์ ttcl

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 735
Re: มาเล่น supercharger กันเถอะ
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: กันยายน 14, 2017, 19:06:23 »
อ๋อ จำได้ละครับ เคยอ่านรีวิวอยู่
เพื่อนผมอยากได้เหมือนกัน mx5 ตัวเพื่อนอยากได้ na แต่แฟนอยากได้ nb , nc  :)
mx5 ขึ้นชื่อเรื่อง handling มาก เรื่องขับสนุกตั้งแต่ความเร็วต่ำๆ
เอาไปขับตามถนนภูเขา ได้เล่นกับโค้ง น่าจะมีความสุข  ;)

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,061
Re: มาเล่น supercharger กันเถอะ
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: กันยายน 14, 2017, 19:48:11 »
อ๋อ จำได้ละครับ เคยอ่านรีวิวอยู่
เพื่อนผมอยากได้เหมือนกัน mx5 ตัวเพื่อนอยากได้ na แต่แฟนอยากได้ nb , nc  :)
mx5 ขึ้นชื่อเรื่อง handling มาก เรื่องขับสนุกตั้งแต่ความเร็วต่ำๆ
เอาไปขับตามถนนภูเขา ได้เล่นกับโค้ง น่าจะมีความสุข  ;)
แนะนำว่า ไม่หักไปเลยเล่น NA ก็ตามใจไป NC ไปเลยครับ ... NB ออกไปทางครึ่งๆกลางๆ จะใหม่ก็ไม่ใหม่ จะคลาสสิคก็ไม่คลาสสิค

ว่ากันว่า NA NB ลงพื้นเกิน 200 ม้าแล้วจะเป็นรถอีกคันนึงเลย จากขับง่าย คุม ง่าย ได้ตามสั่ง กลายเป็นเกรี้ยวกราดและพยศ .. ผมเลยไม่คิดจะบูสท์เกิน 6-7 psi

ออฟไลน์ youngbear

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,333
Re: มาเล่น supercharger กันเถอะ
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: กันยายน 14, 2017, 20:06:57 »
 8) 8) 8)....Turin ครับ ขอบคุณที่ให้ข้อมูล จินตนาการเห็นภาพตามได้เลย ขอความรู้เพิ่มเติมนิดหนึ่งว่า ทำไมยังไม่มีรถโดดเด่นดีเซลใช้ supercharger กันบ้าง และในเวลาเดียวกัน รถเบนซีนดังๆทั้งหลายก็ไม่ค่อยประสบความสำเร็จในการที่จะเอาชนะกด overheating ลงได้ขณะ rev ที่รอบจัด ความเร็วสูงๆ  ซึ่งจะแตกต่างกับ turbocharger diesel ที่ยิ่งร้อนยิ่งชอบ ลืมเรื่อง overheat ไปได้เลย ขอความเห็นด้วยครับ :-X

ออฟไลน์ ttcl

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 735
Re: มาเล่น supercharger กันเถอะ
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: กันยายน 14, 2017, 20:18:46 »
อ๋อ จำได้ละครับ เคยอ่านรีวิวอยู่
เพื่อนผมอยากได้เหมือนกัน mx5 ตัวเพื่อนอยากได้ na แต่แฟนอยากได้ nb , nc  :)
mx5 ขึ้นชื่อเรื่อง handling มาก เรื่องขับสนุกตั้งแต่ความเร็วต่ำๆ
เอาไปขับตามถนนภูเขา ได้เล่นกับโค้ง น่าจะมีความสุข  ;)
แนะนำว่า ไม่หักไปเลยเล่น NA ก็ตามใจไป NC ไปเลยครับ ... NB ออกไปทางครึ่งๆกลางๆ จะใหม่ก็ไม่ใหม่ จะคลาสสิคก็ไม่คลาสสิค

ว่ากันว่า NA NB ลงพื้นเกิน 200 ม้าแล้วจะเป็นรถอีกคันนึงเลย จากขับง่าย คุม ง่าย ได้ตามสั่ง กลายเป็นเกรี้ยวกราดและพยศ .. ผมเลยไม่คิดจะบูสท์เกิน 6-7 psi

ขอบคุณมากครับ เดี๋ยวจะไปแนะนำเพื่อน เพื่อนชอบรถสมัยนั้นอยู่ ปัจจุบันใช้ w124 wagon กับ w123 เลยอยากได้ NA แต่แฟนอยากได้รถใหม่ๆ
ขออภัยที่นอกเรื่อง ขอถามนอกเรื่อง supercharger อีกนิดเดียว
ราคา NA กับ NB ในปัจจุบัน นี่คือ ราคาขึ้นมารึยังครับ ราคาเคยลงไปต่ำกว่านี้รึเปล่า
ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,061
Re: มาเล่น supercharger กันเถอะ
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: กันยายน 14, 2017, 20:46:09 »
อ๋อ จำได้ละครับ เคยอ่านรีวิวอยู่
เพื่อนผมอยากได้เหมือนกัน mx5 ตัวเพื่อนอยากได้ na แต่แฟนอยากได้ nb , nc  :)
mx5 ขึ้นชื่อเรื่อง handling มาก เรื่องขับสนุกตั้งแต่ความเร็วต่ำๆ
เอาไปขับตามถนนภูเขา ได้เล่นกับโค้ง น่าจะมีความสุข  ;)
แนะนำว่า ไม่หักไปเลยเล่น NA ก็ตามใจไป NC ไปเลยครับ ... NB ออกไปทางครึ่งๆกลางๆ จะใหม่ก็ไม่ใหม่ จะคลาสสิคก็ไม่คลาสสิค

ว่ากันว่า NA NB ลงพื้นเกิน 200 ม้าแล้วจะเป็นรถอีกคันนึงเลย จากขับง่าย คุม ง่าย ได้ตามสั่ง กลายเป็นเกรี้ยวกราดและพยศ .. ผมเลยไม่คิดจะบูสท์เกิน 6-7 psi

ขอบคุณมากครับ เดี๋ยวจะไปแนะนำเพื่อน เพื่อนชอบรถสมัยนั้นอยู่ ปัจจุบันใช้ w124 wagon กับ w123 เลยอยากได้ NA แต่แฟนอยากได้รถใหม่ๆ
ขออภัยที่นอกเรื่อง ขอถามนอกเรื่อง supercharger อีกนิดเดียว
ราคา NA กับ NB ในปัจจุบัน นี่คือ ราคาขึ้นมารึยังครับ ราคาเคยลงไปต่ำกว่านี้รึเปล่า
ขอบคุณครับ
ราคา NA ผมว่าขึ้นแล้วนะครับ สัก 3-4 ปีที่แล้ว 5 กว่าๆก็พอใช้ได้  ยิ่ง 5-6 ปีที่แล้ว 5.5 แสนนี่ได้สวยๆแล้ว ... เดี๋ยวนี้พอดูดีหน่อยขึ้น 6 กันแทบทั้งนั้น

NB ผมว่าทรงๆ 3-4 ปีก่อนราวๆ 6 กลางๆ - 7 ต้นๆ เดี๋ยวนี้ก็ยังประมาณนั้นอยู่ แต่ NB ไม่ค่อยเห็นเปลี่ยนมือเท่าไหร่ ไม่แน่ใจว่ามีแต่ราคาหรือเปล่านะครับ

NC 3-4 ปี ก่อน มีลงมาแตะๆ 9-10 สำหรับ NC1 ทุกวันนี้ก็ยังไม่หลุด ราคาแข็งมาก

* อันนี้พูดถึงรถแท้ในนี้นะครับ
** คันปากอยากชวนแลก 124 จริงๆ  :-X

ออฟไลน์ H3T

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,720
    • อีเมล์
Re: มาเล่น supercharger กันเถอะ
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: กันยายน 14, 2017, 20:46:50 »
 SC บุคลิกเหมือนเครื่องความจุสูงขึ้น โดยเฉพาะแรงบิดที่มากขึ้น
 ส่วน TB จะมาช้ากว่าแต่ก็รุ่นแรงกว่า

 เรียกว่าบุคลิกต่างกันชัดเจนครับ

 SC นี่สมัยก่อนนึกถึง 4A-GZE เลย ถอดซุปกินโบกันทั้งนั้น

 @ พี่ ttcl
 NA เถอะครับ หา NA8C 1.8L และที่สำคัญ ด้วยยอดขายทั่วโลกมีมาก mazda จึงเพิ่งประกาศผลิตอะไหล่ใหม่ขายอีกครั้ง ( NA นะ NB ไม่เกี่ยว ) ยิ่งน่าจะตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะครับ
  อ้อ พยายามใส่ล้อเดิมนะครับ 14x6J 175/65R14 มี ของ Toyo Proxes CF2 ที่เข้าท่าสุด