ผู้เขียน หัวข้อ: ความคุ้มค่าของเม็ดเงิน D-seg 1.7mกับ ยุโรป 2.5m  (อ่าน 14844 ครั้ง)

ออฟไลน์ Tpol

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 92
    • อีเมล์
ปัญหาโลกแตก. ถ้ารบกวนขออภัยล่วงหน้า.......ความคุ้มค่าของเม็ดเงินที่จะต้องจ่ายระหว่าง D-seg <1.8mกับ ยุโรป <2.5m  ไม่นับภาพลักษณ์ ค่าซ่อมบำรุง เอาแค่เงินที่จ่ายไปตอนซื้อ สมช. ว่ามันคุ้มกับเงินที่จ่ายไหม. เครื่องยนต์ เทคโนโลยี ความปลอดภัย  ความสบาย ....ต่างกัน 7-9แสน. มันคุ้มไหม ถ้าไม่คุ้มแสดงว่าเป็น ภาพลักษณ์หรือพวกบช.เรียก goodwill อย่างเดียวเลยหรอครับ

ออฟไลน์ rapee001

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 366
    • อีเมล์
Re: ความคุ้มค่าของเม็ดเงิน D-seg 1.7mกับ ยุโรป 2.5m
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มกราคม 26, 2019, 17:22:02 »
หลักๆอยู่ที่ว่ามันตอบสนองความต้องการขั้นต่ำของคนซื้อจริงๆได้แค่ไหน

มันต้องลองสัมผัสเองครับ ถึงจะตอบได้จริงๆ

ออฟไลน์ palma

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,128
    • อีเมล์
Re: ความคุ้มค่าของเม็ดเงิน D-seg 1.7mกับ ยุโรป 2.5m
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มกราคม 26, 2019, 17:22:44 »
สำหรับผม ไม่คุ้มครับ

- ไม่ค่อยวิ่งเกิน 140 , ขับสุภาพ D-seg ยี่ปุ่นตอบโจทย์หมด ถ้าไม่แน่ใจทำช่วงล่างสัก 5-7 หมื่นก็เนี้ยบ
- อาชีพไม่ต้องใช้รถแสดงฐานะ ขับอะไรเขาก็เลือกเรา ยิ่งเก่าๆยิ่งดูดี
- 7-8 แสน เอามาซื้ออีกคันขับเล่น / ลงทุน สบายใจกว่า
- ยุโรปสมัยนี้ ชวนปวดหัวมากขึ้น
- จ่ายเพิ่ม 7-8 แสน คนนั่งบ่นนะครับ จ่ายเยอะกว่า แคบกว่า อึดอัดกว่า ลูกสาวผมบ่นตลอดเวลานั่ง C
seg ยุโรป บอกมันจะสบายเมื่อเร็วเกิน 140 แต่บ้านเรา จะวิ่งตอนไหน 140
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 26, 2019, 18:12:51 โดย palma »
2023 : SK9 FB20 ES4.0 SAWD
2017 : NSP170R-2NR-FE+CVT
2015 : B17-MR16DDT+CVT-M6
2014 : L33-QR25DE+CVT-8
1995 : SXV10-3S-FE (sold)
1994 : AE101-4AFE+MT (sold)

ออฟไลน์ Noncyclopedia

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,200
Re: ความคุ้มค่าของเม็ดเงิน D-seg 1.7mกับ ยุโรป 2.5m
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มกราคม 26, 2019, 17:30:08 »
ขึ้นกังพฤติกรรมการขับรถครับ

ตีนโหดๆนี่ควรไปEurope

ออฟไลน์ arte

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 456
Re: ความคุ้มค่าของเม็ดเงิน D-seg 1.7mกับ ยุโรป 2.5m
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มกราคม 26, 2019, 17:47:46 »
ส่วนตัวมีตังค์ไม่เยอะ อายุก็เลยกลางคนมาแล้ว ชีวิตที่เหลือ คงซือรถอีกไม่กี่คัน หรืออาจจะไม่ได้ซื้ออีกเลย ก็เลย ก็เลือกมาที่รถยุโรบ เพราะถ้าเลือก d segment คงไม่จบ คาใจ เสียน้อยเสียยาก ถึงแม้ไม่ได้ใช้ความเร็ว เกิน 140 แต่ 80-120 ก็มีความสำคัญซึ่งรถยุโรบส่วนใหญ่ทำได้ดีกว่า และส่วนตัวก๋ไม่ได้บ้า option หรือความสบายเบาะหลังเท่าไหร่ คุ้มหรือไม่อยู่ที่คนซื้อครับ อย่าได้แคร์คนอื่นเลย

ออฟไลน์ +@ Krishna @+

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,295
  • *_* รถที่ดี คือ รถที่ใช้แล้วมีความสุข ^_^
Re: ความคุ้มค่าของเม็ดเงิน D-seg 1.7mกับ ยุโรป 2.5m
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มกราคม 26, 2019, 18:01:29 »
ตามที่ได้อ่าน ๆ มารถยุโรปตลาดในปัจุจุบันก็ปัญหาไฟฟ้าจุกจิกเยอะอยู่นะครับ

มีแต่คนบ่น

สำหรับผม  camry / accord hybird  + ทำช่วงล่างก็พอแล้วครับ
ไหนจะค่าบำรุง ฯลฯ อีก

แต่ถ้ามีเงินเหลือ มีรถหลายคืน ผมไปยุโรปครับ  8)

ออฟไลน์ NoBiReacto

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 763
    • อีเมล์
Re: ความคุ้มค่าของเม็ดเงิน D-seg 1.7mกับ ยุโรป 2.5m
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มกราคม 26, 2019, 18:08:43 »
ในแง่ความสบายเช่น ห้องโดยสานฝรกว้างโปร่งโล่ง เบาะใหญ่นั่งสบาย D-seg ตอบโจทย์กว่าชัดเจนมากครับ รถเล็กยุโรปรุ่นเริ่มต้นจะเน้นคนขับอย่างเดียว

ออฟไลน์ AMG GT

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,961
Re: ความคุ้มค่าของเม็ดเงิน D-seg 1.7mกับ ยุโรป 2.5m
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มกราคม 26, 2019, 18:09:15 »
เอาตรงๆนะครับตอนนี้ ช่วงล่าง D-Segment ญี่ปุ่น(camry ใหม่) ดีพอๆกันกับยุโรปเลยนะครับ  ไปลองมาแล้วแบบไม่มโนด้วยครับ 
......ตอบความคุ้มค่าผมว่า D-seg ตัวท็อปคุ้มกว่าครับทั้งออปชั่น การขับขี่และอื่นๆ ภาพลักษณ์ก็ไม่ได้ดูแย่อะไรนะครับ

ออฟไลน์ gunwate

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 39
Re: ความคุ้มค่าของเม็ดเงิน D-seg 1.7mกับ ยุโรป 2.5m
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มกราคม 26, 2019, 18:34:58 »
ถ้าขับ ออก ตจว ข้ามจังหวัด แล้วยังอายุไม่เกิน 30 ขับเร็ว ไม่มีครอบครัว ความเร็วที่ใช้ ยกตัวอย่างผมวิ่ง ราชบุรี-กทม เส้นมันวิ่งยาวๆ ดึกๆ 140+ กันหมด แบบนี้ ยุโรป ขับดีกว่าครับ ถ้าเอื่อยๆ ขับไม่ไว เรื่อยๆ เน้นนั่งหลัง D-seg ญี่ปุ่นครับ เทียบจาก accord hybrid ช่วงล่างเดิมๆ กับ e92 bmw ใส่ล้อ 18 โหลดนิดๆ นะครับ 

PKS8

  • บุคคลทั่วไป
Re: ความคุ้มค่าของเม็ดเงิน D-seg 1.7mกับ ยุโรป 2.5m
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มกราคม 26, 2019, 18:55:22 »
ถ้าเป็นเมื่อก่อนอาจจะมองแต่ยุโรป

แต่ตอนนี้ ผมว่าแทบไม่ต่างกันมากแล้ว ผมขับแต่ยุโรปมาก่อน ตอนนี้แม้แต่ญี่ปุ่นรถเล็กรุ่นช่วงล่างดีๆผมก็ขับ 160-180 สบายๆ ก็ยังไม่เข้าใจทำไมหลายคนยังยึดติดว่าความเร็วสูงต้องยุโรป

ถ้าจะดีกว่าแบบเห็นชัดๆผมว่าเหลือแค่ วัสดุภายใน กับการเก็บเสียง แค่นั้นหรือเปล่า

ออฟไลน์ paulmoderndog

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,783
    • อีเมล์
Re: ความคุ้มค่าของเม็ดเงิน D-seg 1.7mกับ ยุโรป 2.5m
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: มกราคม 26, 2019, 19:08:52 »
ลองรถยุโรปบ้างก็ดีครับ  หรือไม่ก็รอเก็บเงินซื้อ 3ล้านกว่าได้ ยุโรป d segment ผมว่า work กว่าครับ

ออฟไลน์ whoami

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,171
    • อีเมล์
Re: ความคุ้มค่าของเม็ดเงิน D-seg 1.7mกับ ยุโรป 2.5m
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: มกราคม 26, 2019, 19:49:31 »
ถ้าไม่นับภาพลักษณ์ จ่ายเพิ่ม 7-9 แสน  ผมว่าไม่คุ้มอย่างแรงครับ

เพิ่มเงิน 7-9 แสนเพื่อ

รถคันเล็กกว่า แคบกว่า ความสบายน้อยกว่า

ถึงแม้จะขับดีกว่าบ้างก็เฉพาะตอนใช้ความเร็วสูงๆและไม่ได้ต่างกันขนาดฟ้ากับเหว


ออฟไลน์ frame@kk

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,246
    • อีเมล์
Re: ความคุ้มค่าของเม็ดเงิน D-seg 1.7mกับ ยุโรป 2.5m
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: มกราคม 26, 2019, 20:13:28 »
ขับเองคนเดียว มีแฟนนั่ง ลูกนั่งหลังบ้าง งบเหลือ(เหลือนะครับไม่ใช่แค่ถึง)ผมเอายุโรป
แต่ถ้าต้องนั่งหลังบ่อยหรือต้องติดคาร์ซีต d-seg หรือ suv ญี่ปุ่นอย่างไม่ต้องสงสัย

เพราะถ้าไปกับลูกและแม่บ้าน ไม่มีทางได้ขับเร็วหรือใช้เต็มประสิทธิภาพรถแน่นอน

ออฟไลน์ Booboo

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 64
Re: ความคุ้มค่าของเม็ดเงิน D-seg 1.7mกับ ยุโรป 2.5m
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: มกราคม 26, 2019, 20:38:15 »
สมัยหนุ่มๆผมขับรถยุโรป ขับรถเร็วไปตจว.ประจำ ยังไม่มีเมียเอาไว้ให้สาวๆนั่ง
ตอนนี้ลูกโตแล้วใช้camry ขับไม่เร็วไปเรื่อยๆ คันใหญ่นั่งสบาย optionเยอะ
เคยคิดจะไปซื้อCLA  GLAเหมือนกัน ผมสูง180+ลองไปนั่งแล้วมันแคบ จะไปE classมันก็เกินงบไปมาก
เลิกคิดกลับมาขับcamryคันเก่าอย่างเดิม เงินยังอยู่ในกระเป๋าประมาณ2ล้าน เอาไปทำอย่างอื่นดีกว่า555555

ออฟไลน์ harvard

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 100
Re: ความคุ้มค่าของเม็ดเงิน D-seg 1.7mกับ ยุโรป 2.5m
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: มกราคม 26, 2019, 20:57:52 »
ผมใช้ camry hybrid รุ่นที่แล้วอยู่ พร้อมกับ e class w211 ครับ
ทั้ง 2 คัน วิ่ง 260,000 km เท่ากัน camry อายุ 6 ปี Benz อายุ 12 ปีครับ
ค่าบำรุงรักษา camry อยู่ที่ 250,000
ส่วน Benz เข้าศูนย์บริการ หลังๆเข้าอู่นอก ค่าบำรุงรักษาโดนไป 1.5 ล้าน ครับ ซ่อมจนเห็นทุกข์ ซื้อทองได้เป็นกิโล
สรุป ขายหมดทั้ง 2คัน camry hybrid ราคาตกมาก เหลือ ห้าแสน Benz ขายได้ 3.5 แสน

ชื้อคันใหม่คือ camry hybrid 2 คันครับ

ออฟไลน์ Nerdys

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 702
Re: ความคุ้มค่าของเม็ดเงิน D-seg 1.7mกับ ยุโรป 2.5m
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: มกราคม 26, 2019, 21:03:48 »
ถ้าเน้น+ซีเรียสความเงียบ สบาย ในห้องโดยสาร ผมว่าไม่คุ้มครับ
เพราะ C-class กับ Series 3 ก็ไม่ได้เก็บเสียงดีหรือนั่งสบายไปกว่า Teana หรือ Camry เท่าไหร่
แต่ถ้าเน้นขับสนุก ขับมันส์ ชอบมุด 320d C220d น่าจะตอบโจทย์มากกว่า

ออฟไลน์ O-ver-Late-Driver

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 638
    • อีเมล์
Re: ความคุ้มค่าของเม็ดเงิน D-seg 1.7mกับ ยุโรป 2.5m
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: มกราคม 26, 2019, 21:26:46 »
ส่วนตัวคิดว่า....ความคุ้มค่าคือ....ความพึงพอใจ ความสุขใจ ที่ได้ขับ ได้ล้าง ได้มอง  แค่นี้ก็คุ้มค่าแล้วครับ ถ้าคิดว่า เงินแตกต่างกัน 7-8 แสน เเล้วเสียดายไปD,seg ผมว่า มันคาใจ...คุ้มค่าที่อย่ากได้ ชอบ อย่างนี้ถืว่าคุ้มแล้วครับ มันสุขใจ ซึ่งเงิน สามารถซื้อความสุขตรงนี้ได้


ผมเคยคิดว่าเสียดายเงินขนาดนี้ เลยซื้อ accord G9 ใช้อยู่ 2 ปี แต่อยากได้F30 คิดเป็นปี สุดท้าย ทำในสิ่งที่อยากได้ และ พอมีกำลัง เลยขายG9 ไป F30  เลยรู้ว่าความสุขใจ .......คือ ...ความคุ้มค่าที่ใด้ใช้อยู่
และความทุกข์ใจคือ..ต้องทนใช้ในสิ่งที่ใจไม่อยากได้ ไม่อยากมี แต่ เหลือเงินส่วนต่างเยอะ...

เลือกเอาครับ...ถ้าเสียดายเงินแล้ว =D,seg
ถ้าเลือกความสุขที่ใจต้องการ=Europe
แต่..ต้องไม่ลำบากภายหลังนะครับ แบบว่า มีงบที่เพียงพอ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 26, 2019, 21:32:19 โดย O-ver-Late-Driver »

ออฟไลน์ airwalkz

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 34
    • อีเมล์
Re: ความคุ้มค่าของเม็ดเงิน D-seg 1.7mกับ ยุโรป 2.5m
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: มกราคม 26, 2019, 21:38:20 »
ถ้าคุ้มเป็นเรื่องเงิน ยังไงก็ไม่คุ้มครับ Camry / Accord มีให้พอแล้วสำหรับคนไม่ได้คิดอะไรเรื่องรถมากนัก จุด A>B เป็นพอ

แต่ถ้าชอบ ใจรัก อันนั้นอีกเรื่อง อย่างผมชอบขับรถ ชอบเจ้าใบพัดฟ้า ยังไงๆผมก็ให้ BMW คุ้มสำหรับผม ต่อให้มันเป็นมือสองก็เหอะ ประมาณนั้นแหละครับ

รถสำหรับคนไม่ได้ชอบอะไรเป็นพิเศษมันก็แค่ยานพาหนะ แค่นั้นจริงๆ อาจจะมีเรื่องความปลอดภัยนิดหน่อย

แต่สำหรับคนที่อินกับมัน มันจะพิเศษขึ้นมาทันทีครับ

ปล.ไม่นับเรื่องภาพลักษณ์เลยนะ

ออฟไลน์ Sit: )

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,453
    • อีเมล์
Re: ความคุ้มค่าของเม็ดเงิน D-seg 1.7mกับ ยุโรป 2.5m
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: มกราคม 26, 2019, 21:50:04 »
จ่ายแพงกว่าเพื่อรถเล็กกว่า แถมในอนาคตคันที่ซื้อแพงก็ซ่อมแพงกว่าอีก คิดในแง่ตัวเงินยังไงก็ไม่คุ้ม

แต่ถ้าคิดว่า ขับดีกว่า(ในกติกาของแต่ละคน) ขับแล้วดูดีกว่า ก็แล้วแต่ความต้องการหละครับ

ออฟไลน์ bobsan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,605
    • อีเมล์
Re: ความคุ้มค่าของเม็ดเงิน D-seg 1.7mกับ ยุโรป 2.5m
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: มกราคม 26, 2019, 21:57:35 »
- นั่งสบาย d seg
- ทนทาน ปัญหาน้อย d seg
- ขับเร็ว ยุโรป
- ภาพลักษณ์ ยุโรป

ผมว่าพอๆกันขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการอะไร

แต่ d seg เดี๋ยวนี้ราคาตกน่าเกลียด
3 series หรือ c class ขายต่อราคาแข็งกว่านะครับ


ออฟไลน์ CJ.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,946
Re: ความคุ้มค่าของเม็ดเงิน D-seg 1.7mกับ ยุโรป 2.5m
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: มกราคม 26, 2019, 22:06:07 »
เอางบประมาณ 2 ล้านบวกลบเป็นตัวตั้ง รถญี่ปุ่นคุ้มกว่ามากครับ ในหลายๆแง่มุม
ผมมองว่ายุโรปค่าตัวเท่านี้ ไม่ห่างญี่ปุ่นขนาดนั้น ถ้าค่าตัว 4-5 ล้านขึ้นไปจึงน่าใช้จริงๆครับ
2005 Jaguar XJ Super V8
2005 Mercedes-Benz C230 Kom. Sports Coupe
2011 Aston Martin DBS
2013 Jaguar XJL 5.0 V8 Portfolio
2017 Lexus RX200t Premium
2019 Honda CR-V 2.4S
2019 Bentley Continental GT W12
2021 Lexus IS300h Luxury
2021 Mercedes-Benz GLE 350de 4MATIC Exclusive
2021 Porsche 911 Carrera S

ออฟไลน์ PC CK

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,001
Re: ความคุ้มค่าของเม็ดเงิน D-seg 1.7mกับ ยุโรป 2.5m
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: มกราคม 26, 2019, 22:51:00 »
คุ้มไม่คุ้มมาอยุ่ที่เราครับ เอาที่คิดว่าจบ ตอบสนองความต้องการได้พอ และไม่ลำบากตัวเอง สำหรับผมขอd segสักคันพอ อยากได้รถนั่งสบายกับเค้าบ้าง อิอิ

ออฟไลน์ Tpol

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 92
    • อีเมล์
Re: ความคุ้มค่าของเม็ดเงิน D-seg 1.7mกับ ยุโรป 2.5m
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: มกราคม 26, 2019, 22:51:33 »
ท่าทางจะเป็นเงินเหลือจริงๆ กับตามความฝัน ถึงจะจ่ายสองล้าน ถ้าเอาเหตุผลก็ไม่ค่อยจะมีเหตุให้จ่ายแพงกว่าทำไม...น่าจะสรุปแบบนี้นะครับ. ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ AgentMolder

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,408
Re: ความคุ้มค่าของเม็ดเงิน D-seg 1.7mกับ ยุโรป 2.5m
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: มกราคม 26, 2019, 23:08:48 »
ตอบแทบไม่ต้องคิด ถ้าเอาความคุ้ม ไม่สนภาพลักษณ์ ก็ D-seg แน่นอนครับ เหตุผลหลายๆท่านพูดไปละ

แต่มีสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ "กิเลส" ของเราเนี่ยแหล่ะครับ น้องที่ทำงานก็คิดคล้ายๆแบบนี้ สุดท้ายไปเอาซีวิคเทอร์โบตัวก่อน MC เพิ่งซื้อได้ 6 เดือน MC มานั่งบ่นจิตตก บอกว่าจริงๆอยากได้ตราดาว แต่คิดแล้วไม่คุ้มค่า ซื้อซีวิคดีกว่า เงินเหลือ บลาๆๆๆ แต่พอเอามาใช้ ใจมันมองแต่ตราดาว เวลาเห็ฯตราดาวขับผ่าน ก็มองตลอด สุดท้ายมันตัดใจขายซีวิคไม่ถึงปี โคตรแห่งความขาดทุน เพื่อไปจอง CLA ใหม่เรียบร้อยโรงเรียนกิเลส 555

ส่วนผมกำเงินไปจะถอย E Class AMG แต่มันมีแต่เสียบปลั๊ก สุดท้ายได้ใบจอง Camry Hybrid พอ CLA ประกอบไทยออก ว่าจะทิ้งใบจองละ แต่ช่วงนี้เห็นข่าวเบนซ์ขึ้นยานแม่เยอะเลย เลยช่างมัน เอา Camry ไปก่อน รอดู MBTH ว่าจะมีแนวโน้มยังไงต่อ เงินก็ยังอยู่ กำตังไว้อีกเยอะ ค่อยว่ากัน

ปล.ส่วนตัวผมจะไม่เอา D-seg ญี่ปุ่นไปเทียบ C-seg ยุโรปเลยครับ เพราะยังไง D_seg ญี่ปุ่นดีและคุ้มกว่าแน่นอน ผมจะมองไปที่ D-seg ยุโรปเลย ไม่ E-class ก็ S5
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 26, 2019, 23:12:02 โดย AgentMolder »

ออฟไลน์ BigCat

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,178
    • อีเมล์
Re: ความคุ้มค่าของเม็ดเงิน D-seg 1.7mกับ ยุโรป 2.5m
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: มกราคม 27, 2019, 08:12:41 »
ซื้อแล้วคุ้ม ก็ d seg

แต่ ถ้าเป็นผมมันไม่จบที่ใจนะครับ สุดท้ายก็ไปจบตราดาว และปัจจุบัน ก็ให้มีมันทุกฟีลลิ่ง จะได้จบๆไปครับ

ต่อให้เจอจุกจิก ต่อให้เสียค่าบำรุงแพงกว่า แต่มันสุขที่ใจครับ 555
Audi TT MK 3FL
BMW z4 e85
GLA 250 FL 2017
Nissan Teana L33 2014
Slk 200 R172 2014
Camry 2.4 2009
Civic dimension MT 1.7
Civic 3 doors รถคันแรก

ออนไลน์ Stp

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,535
Re: ความคุ้มค่าของเม็ดเงิน D-seg 1.7mกับ ยุโรป 2.5m
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: มกราคม 27, 2019, 09:08:17 »
คุ้มค่าที่ใจ

คุ้มค่าที่เงิน

สองความหมายนี้มันแย้งกันตลอดไม่ว่าจะถามเมื่อไร ถามตัวเองให้ดีว่าจะเอาคุ้มค่าอะไร บางครั้งมัวแต่คุ้มค่าที่เงินคุณก็อาจพลาดอะไรในชีวิตไปได้ เลือกเองตัดสินใจเองเพราะถ้าคุณถามคนอื่นเขาก็ตัดสินใจในมุมมองของตัวเขา ซึ่งไม่ใช่ตัวคุณเอง
:D ;D ร่วมรณรงค์รักการอ่านหนังสือ แทนการถามตลอดเวลา ;D :D

ออฟไลน์ FyGI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,306
Re: ความคุ้มค่าของเม็ดเงิน D-seg 1.7mกับ ยุโรป 2.5m
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: มกราคม 27, 2019, 09:29:09 »
JP D-Segment 1.7 ล. คุ้มค่ากว่าสำหรับผมครับ เพราะ.......

1. ส่วนต่าง 8 แสนค่อนข้างเยอะมาก ซื้อ JP B-Segment ได้ 1 คัน หรือเป็น Daytona / PP มือสอง ก็ยังได้
2. ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาหลังเกินจาก 5 ปี หรือหมด warranty
3. ใช้รถเยอะ BSI 10 ปี 1 แสนโลก็ ไม่พอ
4. ศูนย์บริการ

สุดท้าย แต่ละคนความพอใจไม่เหมือนกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 27, 2019, 09:31:40 โดย FyGI »

ออฟไลน์ mongolias

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,368
Re: ความคุ้มค่าของเม็ดเงิน D-seg 1.7mกับ ยุโรป 2.5m
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: มกราคม 27, 2019, 09:34:14 »
คุ้มไม่คุ้ม มันแล้วแต่บุคคลครับ
ถ้าถามผม ที่ไม่ได้มีเงินถุงเงินถัง D-segment ญี่ปุ่น ยังไงก็คุ้มกว่าครับ

ออฟไลน์ ภูมิใจไหม?

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,143
  • SNK vs Playmore
Re: ความคุ้มค่าของเม็ดเงิน D-seg 1.7mกับ ยุโรป 2.5m
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: มกราคม 27, 2019, 10:10:54 »
ถ้าอยู่ ตจว. D seg ก็ได้ภาพลักษณ์ครับ

เอาความสบายเป็นหลักดีกว่าครับ

เดี๋ยวนี้รถเยอะ เราขับรถอะไรมา ไม่ค่อยมีใครรู้ใครเห็นครับ

เพราะฉะนั้นความคุ้มค่ามันก็เห็นกันอยู่แล้วครับ อิอิ

ออฟไลน์ Terng

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,762
Re: ความคุ้มค่าของเม็ดเงิน D-seg 1.7mกับ ยุโรป 2.5m
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: มกราคม 27, 2019, 10:49:03 »
จะเอาคุ้มค่า หรือคุ้มใจ คำตอบก็อยู่ในตัวครับ ถ้าคุ้มค่ายังไงพวก D-seg ญี่ปุ่นผมว่ามันมากเกินพอแล้ว คุ้มและดูแลง่ายไม่จุกจิกเท่ารถยุโรป

แต่ถ้าจะเอาคุ้มใจ ยังไงไปเล่นยุโรป มันก็รู้สึกดี มีแต่คนเรียกเสี่ย เฮีย เวลาเรามองรถเราก็มีความสุข ถ้าเงินเหลือเยอะเพียงพอจริงๆไม่เสียดายค่าซ่อม และมีรถสำรองไว้ใช้งาน ก็จัดไว้ใช้งานได้ครับ
=====================
รถที่ใช้เป็นประจำ
2013 Toyota Camry Extremo 2.0
2015 Ford Ranger T6 XLT Open Cab 2.2 MT
2018 Toyota CHR HV Mid
=====================