คุณไม่เข้าใจกลไกราคาอะครับ เรื่องเกษตรกรได้จริงไหม อยู่ที่การบริหารจัดการ ไม่ใช่เรื่องของนโยบาย
ส่วนเรื่องเอทานอล ไทยเราไม่ได้มีความสามารถในการผลิตเอทานอล คุณจะให้ไทยเราทำเอทานอลแข่งเหรอครับ ถึงเรียกร้องให้ลดต้นทุน ให้ไปต่อได้ ไปต่อไม่ได้ก็ไม่เป็นไรครับ รัฐเอาภาษีมาช่วยคนจนมันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ขาดทุนไม่เป็นไร ราคามันไม่สมดุลเพราะมันมีกลไกภาษีเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมบางประเภท อีกอย่างนโยบายไม่ใช่เพื่ออุ้มให้แข่งขันได้ แต่เพื่อส่งเสริมคนรายได้น้อย
คุณครับเสรีน่ะดี แต่รัฐต้องปกป้องชาวนา เกษตรกรที่เป็นคนจน เป็นหมู่มากก่อน มันไม่ใช่ปัญญาอ่อน แต่คุณไม่เข้าใจโครงสร้างเศรษฐกิจต่างหาก เวลาทำ FTA หรือ aec เขาต้องเจรจาว่าจะเสรีสินค้าตัวไหนบ้าง ใครได้เสียยังไงก่อน ไม่ได้เปิดเสรีหมดทุกตัว
ปล ผมถกเรื่องระบบ ศก แบบเปิด ทั้งที่มีภาษี หรือ non tariff barrier ได้ลึกพอสมควร แต่คุณจะเข้าใจหรือเปล่า ถ้าหากไม่มีภาษีมันจะเสรี และสมดุลอย่างที่คุณว่าได้ แต่ประเทศไหนถนัดอะไรก็จะผลิตแต่สิ่งนั้น สิ่งที่ขาดก็นำเข้า แล้วเราจะเป็นยังไงครับ เราต้องเลิกผลิตข้าวนะครับ แล้วชาวนาที่มีเกือบ 40% เป็นล้านคนเดือดร้อน มันจะเกิดปัญหาสังคมตามมา ดังนั้นมันจึงต้องค่อยๆ ปรับตัว ไม่ใช่เอะอะอะไรก็เสรี ราคาตลาดโลก ต้องมองภาพรวม และประชาชนในประเทศด้วย
ผมไม่ได้ให้ทำเอทานอลแข่งครับ แยกประเด็นด้วย
คุณบอก เราไม่ได้มีความสามารถในการผลิตเอทานอล งั้นก็ไม่ควรเอามา สนับสนุนแต่แรก
รัฐเอา เอเทนอล มาเป็นตัว ลดการนำเข้า ลดนำเข้าก็คือ ต้องผลิตเองอยู่แล้ว ก็ต้อง ส่งเสริม ในทุกด้าน
จะเอามาทดแทนน้ำมัน มันก็ต้องแข่งขันได้ ในเรื่อง ราคาด้วย
มันก็เหมือน แต่ก่อน เบฯซินกับ ดีเซล ตั้งราคา เอาเปรียบนั่นละ มันไม่สมดุล มันบิดเบือน มั่วซั่ว
จะเอาแต่ อุดหนุน คนจนเกษตรกรไปเรื่อยๆ แบบนี้ก็ไม่ไหวนะ มันต้องหา สมดุล ไม่งั้น เงินก็ละลาย ทิ้งไปเรื่อย ไม่พัฒนา
ภาษี กีดกันการนำเข้า มันป้องกันได้อยู่แล้ว
ผมกำลังพูดเรื่อง ราคา เอทานอล ที่มันบิดเบือน ไม่สะท้อนความจริงต่างหาก
หากเรา ผลิตแล้วยิ่งแพง ก็ลังแต่จะมีปํยหาไง
แล้วปัญหามันก็เกิดให้เห็นแล้วนี่ไง ที่เอทานอล ไทยแพงกว่า น้ำมัน มันจึงไม่มีประโยชน์ที่จะอุดหนุน
เพราะ รัฐก็ไม่คิดจะละลายเงินเล่น สุดท้าย มันก็ไม่คิดอุ้ม คนจน แต่มัน อุ้ม นายทุนที่กลั่นเอทานอล ต่างหาก