ผู้เขียน หัวข้อ: Fortuner VS D-Max VS Revo : ขับคนเดียว วิ่งทางไกล ใช้ยาวๆ เน้นทน ขับเร็วพอประมาณ  (อ่าน 36166 ครั้ง)

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,363
เคสนี้ผมว่าไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มเงินไปFTN
ส่วนตัวชอบRocco 2.8 Top จบๆเลย มีงบทำช่วงล่าง + รีแมพนิดหน่อย แรงเหลือๆ

+1

ออฟไลน์ Jacob

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,803
ถ้าไม่กังวลเรื่องภาพลักษณ์ ไปกระบะ อะไรเปื้อนๆเช่น เราต้องลุยโคลน โยนรองเท้าไว้กระบะหลังได้เลย ซื้อทุเรียนกลิ่นก็ไม่มากวนใจ ทำความสะอาดก็ง่าย บรรทุกของได้เยอะ (ถ้าฟอร์ต้องพับเบาะแถวสอง) ซื้อต้นไม้ ของวางนอนไม่ได้อย่างแอร์เคลื่อนที่เครื่องใหญ่ๆได้ แต่เห็นขับเร็วนี่ไปฟอร์ชัวร์กว่า ท้ายไม่ยาวมาก บัลลานซ์ยังไงก็ดีกว่า (ขับ 120 ไม่ต่างมาก แต่ 140 นี่น่าจะต่าง)
ปล. rocco ใหม่นี่สวยดี ความชอบส่วนตัว ขาดแค่กล้องรอบคัน เสียดาย รถใหญ่สูง มองยากเวลาขับคนเดียว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 24, 2020, 10:01:00 โดย Jacob »

ออฟไลน์ tatum0022

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 760
    • อีเมล์
Fortuner ถ้าเป็น 2.4 ไม่เอาครับ ไปเอา Rocco ดีกว่า จริงๆ Dmax ก็โอเคนะครับ แต่ถ้าคู่นี้ เอา Rocco ทั้งสามคันไปไหนซ่อมง่าย ทำได้ทุกอู่ ไว้ใจได้สูงสุดแล้ว เวลาขายต่อเพื่อเป็นทุนในการเอามาซื้อคันใหม่ก็ได้เยอะ ขายง่ายไปเร็ว ไม่ติดมือ
E220d AMG 17' BBS RI-D
C200 AMG Carlsson add on 12'
Fortuner 2.8 E4 16'
Camry Hybrid 10'
Jazz JP 12'
vios 13'
Preruner 08'
Austin Mini Mark1 1962

ออฟไลน์ deertesla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,245
FTN 4X4 โฉมนี้ ไม่ใช่ Full time นะครับ
ถ้าต้องการขับ 4 จริงๆไม่แนะนำครับ
ใช่ครับ  คนหลายๆคนไม่สนใจกัน สนแต่ว่าแรง กับอีซูสุกับโตโยต้า ที่มีระบบขับสี่ใช้การได้แค่ทางวิบากมากเท่านั้นที่ใช้ความเร็วไม่เยอะ

ออฟไลน์ InBkk

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,112
เน้นวิ่งงาน เข้าไซต์ก่อสร้าง ใช้ความเร็วสูงพอสมควร และเดาว่าคงไม่ได้มีคนนั่งเบาะหลังซักเท่าไหร่ เคสนี้กระบะตัว Top น่าจะเหมาะ เพราะได้เครื่องแรงจากโรงงาน (Remap ก็ยิ่งไปไกล) ออฟชั่นครบๆ มี Adaptive Cruise Control (ซึ่ง Fortuner ตัว 2.4 ไม่มี) และสามารถขนของที่เลอะๆ หนักๆ ได้ดีกว่ารถ SUV

ออฟไลน์ lucifer

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 61
    • FaceBook
    • อีเมล์
อย่างแรกที่จะบอก ก็คือ PPV กับ กระบะ แตกต่างกันครับ
ถ้าเคยขับ Fortuner ตัว 3.0  มาก่อน จะพบว่ามันมีอะไรที่แตกต่างจากกระบะอยู่พอสมควร   

อันที่จริงถึงแม้ว่า หากเอา PPV กับ  กระบะมาตัดหัว  เอาท้ายทิ้งไป  ก็จะพบว่ามันก็ไม่ค่อยจะห่างกันเท่าไหร่นัก ช่วงล่างก็คล้ายๆเดิม   

คราวนี้ตัดหัวทิ้ง เอาท้ายมาพิจารณา  ความแตกต่างก็จะมาจาก"นิสัย"ที่แตกต่างกันระหว่าง คอยล์สปริง กับ แหนบ   คอยล์สปริง ต่างกันแหนบตรงที่  ค่า K ของแหนบมันเป็น progressive ครับ  ยิ่งยุบเยอะเท่าไหร่ ค่าKจะเพิ่มขึ้น  เพราะมันเป็นระบบ สปริง ( แหนบ มีชื่อ ภาษาอังกฤษว่า leaf spring ) ที่ทำมาสำหรับการบรรทุกของ เพราะเมื่อบรรทุกหนักขึ้น แผ่นแหนบจะมาชิดกันมากขึ้น ทำให้รับน้ำหนักได้มากขึ้น  รถจะไม่เสียความสูงลงมามากตามสัดส่วนของน้ำหนักที่บรรทุกเพิ่มขึ้น   แต่มันก็จะต้องแลกกันด้วยอาการ"ดีด"ในเวลาที่ไม่ได้บรรทุก  เพราะเมื่อท้ายรถยุบลงมากเท่าไหร่  ค่าKของสปริงแหนบก็จะเพิ่มมากขึ้น  แรงดีดมันจะมากขึ้น  ชอคแอบซอบเบอร์ที่จะเอามาสู้รบกับมันก็ต้องพิเศษขึ้น

สมัยก่อนที่ผมขับกระบะ 4 WD ด้านหน้าเป็นปีกนก ทอร์ชั่นบาร์   หมดเงินไปกับ ทอร์ชันบาร์ แหนบแต่ง  OME ( ซึ่งพบว่าไม่ทนเลยยย เปลี่ยนไป 2 ชุด หลังจากผ่านไปได้ราวๆ 4-5 หมื่นกม.  จบด้วย Rancho  แล้วเหมือนจะดับกิเลสได้ )   ผมว่า ทอร์ชันบาร มัน ลงตัวกับแหนบ  มากกว่า คอยล์สปริงกับแหนบ   เหตุผลเพราะ ค่าสปริงหรือค่าK ของ torsion bar  ไม่ได้ค่อนไปทาง linear แบบคอยล์สปริง   ( อาการหน้านิ่ม หลังดีดแบบพวกหน้าคอยล์สปริง หลังแหนบ แบบกระบะในยุคปัจจุบันก็จะไม่มีให้เห็น ) 

พอเป็นกระบะในปัจจุบัน โดยเฉพาะวีโก้ที่ฝากชื่อเสียงแย่ๆเอาไว้ในอดีตเยอะหน่อย  เดิมๆ หน้าคอยล์สปริงจะนุ่ม  เจอท้ายเป็นแหนบแข็งๆ แล้วดีดหนักๆ อาการท้ายเบาแล้วปัดหมุนก็เลยเป็นอาการยอดนิยมของเขา

พูดถึง Revo Rocco  ถ้าเอามาขับแบบไปเรื่อยๆ ไม่มุด  ผมว่ามันเป็นกระบะที่แรงมากๆ  แรงมาจากโรงงานแล้ว   เคยขับตามไปด้วยกัน ควันไม่มีออกปลายท่อเลย แถมยังป้ายแดง ใส่ยางใหญ่อีก แต่อัตราเร่งพ่อเจ้าประคุณเอ๊ย  สมกับราคาคุย torque 500 N.m จริงๆ

รักจะนั่งสบายหน่อย  พาใครไปด้วยได้ ขนของเล็กๆน้อยๆ ตากแดดตากฝน ขนจักรยานใส่รถไม่ต้องกลัวโดนยกลงไป  ยังไงๆ PPV ก็น่าจะตอบโจทย์ได้ดีกว่าครับ   คอยล์สปริงหน้าหลัง มันมีความกลมกลืนกันดีกว่า คอยล์สปริงหน้า+แหนบหลังนะ   เท่าที่ทราบว่า ช่วงล่างของ FTN ตัวใหม่  ดีกว่าตัว 3.0 ที่เราใช้กันนะ 

ดีสุด คือ เดินเข้าไปโชว์รูม  ขอลองขับรถทดสอบดูครับ   ผมว่าน่าจะได้คำตอบชัดเจนที่สุดว่า ควรจะซื้ออะไร

ส่วน Isuzu ไม่มีความเห็นนะครับ  ไม่เคยใช้  ไม่เคยเข้าโชว์รูม  คือ เป็นอคติส่วนตัวมากๆ เพราะว่า ในยุคก่อนนั้น  ราคาเท่ากัน เขาให้อะไรน้อยทีสุด  กระบะเขาใส่ ABS กันแล้ว  พี่ท่านก็ใส่ให้เป้นรายสุดท้าย  มาเสียรังวัดตอนที่ทำแชสซี 2 ชิ้น แล้วเกิดรายการดุ้ง งอ บิด นี่แหละ  ทำให้คนหนีไปซบวีโก้ ยอดขายเลยหงอยไปพักหนึ่ง   วงการบรรทุกผัก บรรทุกหมูนี่ เขารู้จักกันดี  วงการมันไม่ใหญ่

ออฟไลน์ the kit

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,313
ถ้ามีเข้าหน้างานก่อสร้าง
ผมว่ายังไง กระบะ 4 ประตูก็เหมาะสมกว่า เผื่อเอาของเปื้อน หรือนู่นนี่นั้นใส่หลังกระบะได้
และขอ "ไม่เลือก" 3 ตัวเลือกที่ให้มา

ขอเลือกเป็น Triton 4x4 Auto Top ดีกว่า เพราะ
ทางแห้งก็สามารถใส่ "ขับสี่" ได้ รถยึดเกาะมากกว่าเดิม โดยไม่ส่งผลเสียต่อระบบของรถ
ช่วงล่าง Triton เดิมๆ เหนือกว่า Dmax และ Rocco จะเป็นรองก็แค่ Raptor
ลุยหน้างาน หายาง "A/T" ดีๆ ซักชุด แค่นี้ก็จบ

แถมตอนนี้เห็น "โปร" แจ๋วๆ เยอะ ลองไปเปรียบเทียบดู

"Make It Count"

ออฟไลน์ SETTHASART

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,306
  • รักชาติ ไม่คลั่งชาติ
อ่านโจทย์แล้ว ควรเลือกเครื่อง 2.8 ไม่กฌ 3.0 ครับ 2.4 ผมใช้อยู่ มันแค่เพียงพอต่อการใช้ในชีวิตประจำวัน ถ้าเอาขับสนุกๆกดมันส์ๆ มันไม่ค่อยเท่าไหร่