ผู้เขียน หัวข้อ: วิกฤตการณ์ ชิป(หาย)  (อ่าน 3865 ครั้ง)

ออฟไลน์ Floppy-T

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 984
วิกฤตการณ์ ชิป(หาย)
« เมื่อ: กันยายน 13, 2021, 17:39:35 »
ชิปหายที่ไม่ใช่คำอุทานนะครับ แต่คือสถานการณ์ที่กลุ่มเทคโนโลยีและเซมิคอนดักเตอร์กำลังประสบ
สร้างผลกระทบต่อการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า ตู้เย็น ไมโครเวฟ รวมไปจนถึงสินค้ากลุ่มไอทีต่างๆเช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต แล็ปท็อป
ไม่เว้นแม้กระทั่งรถยนต์ก็ล้วนใช้ ชิปมาเป็นสมองกลสั่งงานต่างๆ

การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่นำไปสู่การแย่งซัพพลายชิป ระหว่างอุตสาหกรรมรถยนต์ และผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์
การกักตุนชิปเซมิคอนดักเตอร์จากบริษัทจีนที่ได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตร สงครามการค้า
ความต้องการที่สูงขึ้นโดยเฉพาะการมาของสมาร์ทโฟน แล็ปท็อป อุปกรณ์ไอทีต่างๆ เพื่อมา WFH
ทั้งหมดทั้งมวล ส่งผลให้การผลิตและส่งมอบรถถูกเลื่อนออกไปอย่างช่วยไม่ได้

สมาชิกมีความคิดเห็นอย่างไร หากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ปรับตัวโดยการ
ตัดออปชั่นด้านเทคโนโลยีที่มีความเกี่ยวเนื่องกับชิปและอุปกรณ์อิเล็คโทรนิกส์ออก
ราคารถยนต์ก็ถูกลง เนื่องจากออฟชั่นถูกตัดออกบางประการ

ออฟไลน์ MyName

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 8,148
  • I'm............................
Re: วิกฤตการณ์ ชิป(หาย)
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 13, 2021, 18:42:06 »
BMW นำร่องด้วยการตัด Wireless Charger และ Lumbar Support ฝั่งคนนั่งใน 3-Series ด้วยเหตุผลนี้ไปแล้วครับ

แต่...ราคาเดิมนะ
Cars
2022 - Nissan Almera 1.0 Turbo VL
2016 - Mazda 2 1.5XD High Plus L
2008 - Mitsubishi Space Wagon 2.4 GLS Ltd. !User'Review Click here!
1997 - Daihatsu Mira

Motorcycles
2023 - Vespa Sprint S 150 i
2012 - Yamaha Mio 125 GTX

ออฟไลน์ Smith686

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,949
    • อีเมล์
Re: วิกฤตการณ์ ชิป(หาย)
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กันยายน 13, 2021, 19:12:33 »
     ชิปที่ใช้อยู่ในโลกนี้ส่วนใหญ่ผลิตที่ไต้หวันนะครับ  จีนผลิตชิปไม่ได้

ออฟไลน์ REX

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,015
Re: วิกฤตการณ์ ชิป(หาย)
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กันยายน 13, 2021, 19:40:08 »
โลกของการผลิตชิฟ มันผูกขาดเกินไป
เครื่องสร้างชิฟ ทำจากเทคโนโยยี่ อเมริกา กีพกันจีน ทุกทาง
มี TSMCไต้หวัน กับ sumsung เกาหลีใต้  เป็นรายใหญ่ที่ผลิต
เทคโนโลยี่ 5 นาโนเมตรได้

ไม่รู้ถ้ายอม ลดสเปค 10-12 นาโนเมตร เอาจากชาติอื่น มาใส่รถแทน
จะพอไหวมั้ย  อย่างน้อยดีกว่าไม่มีให้ใช้ 
ระหว่างรอ TSMC & sumsung ขยายโรงงานอยู่

ออฟไลน์ BN`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,067
Re: วิกฤตการณ์ ชิป(หาย)
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กันยายน 13, 2021, 21:13:01 »
ตัดออฟชั่นความซับซ้อน และ ลดราคาถูกลง ผมรับได้นะครับ อย่างน้อยใช้ระยะยาวก็มีจุดดูแลจุกจิกน้อยลงไปละแน่นอน

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,492
Re: วิกฤตการณ์ ชิป(หาย)
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กันยายน 14, 2021, 07:41:55 »
     ชิปที่ใช้อยู่ในโลกนี้ส่วนใหญ่ผลิตที่ไต้หวันนะครับ  จีนผลิตชิปไม่ได้

แต่แร่ตั้งต้นการผลิต  มาจากจีน...

ออฟไลน์ EDS

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 237
Re: วิกฤตการณ์ ชิป(หาย)
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กันยายน 14, 2021, 08:20:36 »
     ชิปที่ใช้อยู่ในโลกนี้ส่วนใหญ่ผลิตที่ไต้หวันนะครับ  จีนผลิตชิปไม่ได้

แต่แร่ตั้งต้นการผลิต  มาจากจีน...

นี่แหละ มันเลยกลายเป็นวิกฤตชิบขาดแคลน
พอจีนโดนเมกาแบน จีนก็ไม่ส่งแร่เพื่อผลิตชิบ ถ้าส่งก็ขึ้นราคาแพงๆ
กรรมก็มาตกกับผู้บริโภค ทั้งๆที่มันทะเลาะกันอยู่สองประเทศ

ออฟไลน์ delete

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,961
    • อีเมล์
Re: วิกฤตการณ์ ชิป(หาย)
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กันยายน 14, 2021, 09:11:08 »
     ชิปที่ใช้อยู่ในโลกนี้ส่วนใหญ่ผลิตที่ไต้หวันนะครับ  จีนผลิตชิปไม่ได้

แต่แร่ตั้งต้นการผลิต  มาจากจีน...

นี่แหละ มันเลยกลายเป็นวิกฤตชิบขาดแคลน
พอจีนโดนเมกาแบน จีนก็ไม่ส่งแร่เพื่อผลิตชิบ ถ้าส่งก็ขึ้นราคาแพงๆ
กรรมก็มาตกกับผู้บริโภค ทั้งๆที่มันทะเลาะกันอยู่สองประเทศ
บางบริษัทจีน อย่างเช่น สายผลิตรถไฟฟ้า เริ่มตั้งรง.ผลิตชิปเองแล้วคนับ
และส่วนใหญ่รถไฟฟ้าจากจีน ไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนชิปเท่าไหร่

ส่วนปัญหาชิปที่ขาดแคลน เป็นชิป(เซมิคอนดักเตอร์)พื้นฐานนะครับ น่าจะระดับ 10-20นาโนเมตร ซึ่งไม่ได้ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงมากนัก
และส่วนใหญ่ฝั่งจีนโดนปัญหาขาดแคลนชิปมานานก่อนแล้ว(เพราะสงครามการค้า) จึงค่อนข้างไหวตัวทัน
เลยไม่ได้มีผลกระทบจากโควิดเท่าไหร่คนับ

ออฟไลน์ GOBBS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,036
Re: วิกฤตการณ์ ชิป(หาย)
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กันยายน 14, 2021, 09:25:47 »
อยากให้ทำมากกกกก
อยากให้มาทำรถไร้ option เสียยาก ทนทาน กันบ้าง
....................
จริงๆวิกฤตนี้ แก้ได้ที่"คน"ครับ
ตอนนี้เราๆ บริโภคกันมากไป มือถือปีนึงเปลื่ยนกันแล้ว แถมตอนนี้ทุกคนยังไงก็มี บางคนมี 2เครื่อง
อุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์เพียบ รถไร้เข็มมีแต่หน้าจอ บางคันจะยัดจอไว้ทุกเบาะก็มี
คอม บางคนเปลื่ยนทุกปี(ไม่แรง เล่นเกมไม่มันส์ ขุดบิตไม่พอ) ...... ไม่ใช่แค่วัตถุดิบไม่พอหรอกครับ กิเลศคนมันเยอะมากไปต่างหาก
.....2006 honda jazz idsi
.....2015 mazda2 skyD
..ใช้รถเท่าที่จำเป็นกันเถอะครับ...รถมันติด

ออฟไลน์ Level Zero

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 763
Re: วิกฤตการณ์ ชิป(หาย)
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กันยายน 14, 2021, 10:20:47 »
ตกลงแล้ว ต้นตอทั้งหมดมันเกิดจากอะไรกันแน่ครับ

ออฟไลน์ Sazabi

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 330
Re: วิกฤตการณ์ ชิป(หาย)
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กันยายน 14, 2021, 11:10:29 »
ไม่ได้เกิดการแย่งแต่อย่างใดเพราะความสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมสินค้าอิเล็กโทรนิกส์นั้นต่างกันมากสำหรับผุ้ผลิต Chip ต่างกันตั้งแต่แรกแล้ว

ผู้ผลิต Chip และ IC นั้นเหมือนร้านค้าขายส่ง อุตสาหกรรมสินค้าอิเล็กโทรนิกส์นั้นเหมือนลูกค้าประจำที่มาซื้อทุกสัปดาห์ ส่วนอุตสาหกรรมยานยนตืนั้นเหมือนลูกค้ารายย่อยที่มาซื้อเดือนหรือ 2 เดือนครั้ง จำนวน Chip และ IC ที่สินค้าอิเล็กโทรนิกส์กับยานยนต์ซื้อทีนึงนั้นต่างกันเป็นสิบเป็นร้อยเท่า ในยามที่ทั้งความต้องการทั่วโลกสูงขึ้นพร้อมกับกำลังการผลิตลดลงจากสถานการณ์ COVID ทั่วโลก อุตฯยานยนต์จึงได้รับการปันส่วนจากผู้ผลิต Chip และ IC ต่างๆน้อยกว่าที่สินค้าอิเล็กโทรนิกส์ได้รับมาก เรื่องนี้ไม่แปลกเพราะใครๆก็ต้องการรักษาฐานลูกค้ารายใหญ่ไว้มากกว่ารายย่อยทั้งนั้น

แต่มีผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นรายหนึ่งที่ได้รับผลกระทบน้อยกว่ารถยี่ห้ออื่นๆมาก เพราะรถยนต์ญี่ปุ่นยี่ห้อนั้นมีบริษัทลูกที่ถือหุ้นบริษัทผลิต Chip และ IC สำหรับยานยนต์รายใหญ่อยู่ รถยนต์ยี่ห้อนั้นจึงใช้ Chip และ IC จากผู้ผลิตเจ้านั้นเป็นหลักเกือบทั้งหมด ผู้ผลิต Chip และ IC เจ้านั้นจึงมีข้อมูลการพยากรณ์การสั่งซื้อล่วงหน้าจากรถยนต์ยี่ห้อนั้นค่อนข้างยาวนานและเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้ จึงสามารถวางแผนการผลิตเพื่อส่งมอบสินค้าได้ค่อนข้างต่อเนื่อง

ออฟไลน์ Sazabi

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 330
Re: วิกฤตการณ์ ชิป(หาย)
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กันยายน 14, 2021, 11:24:25 »
อ้อ ลืมตอบคำถาม

บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ปรับตัวโดยการตัดออปชั่นด้านเทคโนโลยีที่มีความเกี่ยวเนื่องกับชิปและอุปกรณ์อิเล็คโทรนิกส์ออกนั้น "ทำไม่ได้" ครับ

ทำไม?
ก็เพราะ Chip และ IC ที่ขาดแคลนนั้นมันใช้กันในอุปกรณ์ความปลอดภัยพื้นฐานและอุปกรณ์ทั่วไปด้วยครับ ไม่ได้ใช้แค่กับ Option ต่างๆ
ABS/VSA/VSC พวกนี้ไม่มีเดี๋ยวนี้คุณขายรถออกหรือเปล่าครับ
ECU ที่เกี่ยวกับความปลอดภัยอย่าง Airbag ECU ไม่มี สมัยนี้ไม่มีถุงลมนิรภัยใครจะซื้อรถคุณครับ
Sensor ต่างๆไม่มีคุณประกอบเครื่องยนต์ขายได้หรือเปล่าครับ
ECU ต่างๆไม่มีรถคุณวิ่งได้หรือเปล่าครับ ไม่ต่างจากซากรถเลย
Meter มาตรวัดไม่มีคุณขับรถได้หรือเปล่าครับ

คุณและหลายๆคนน่าจะเข้าใจวิกฤติการณ์ครั้งนี้พลาดไปเยอะเลยครับ เพราะตอนนี้อุตสาหกรรมยานยนต์ไม่ได้ขาดแคลน "ชิป" เท่านั้น แต่ขาดแคลนตั้งแต่ระดับงาน Front End และ Back End ของชิ้นส่วนอิเล็กโทรนิกส์พื้นฐานเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 14, 2021, 11:35:15 โดย Sazabi »

Gunther

  • บุคคลทั่วไป
Re: วิกฤตการณ์ ชิป(หาย)
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กันยายน 14, 2021, 11:44:53 »
ไม่ได้เกิดการแย่งแต่อย่างใดเพราะความสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมสินค้าอิเล็กโทรนิกส์นั้นต่างกันมากสำหรับผุ้ผลิต Chip ต่างกันตั้งแต่แรกแล้ว

ผู้ผลิต Chip และ IC นั้นเหมือนร้านค้าขายส่ง อุตสาหกรรมสินค้าอิเล็กโทรนิกส์นั้นเหมือนลูกค้าประจำที่มาซื้อทุกสัปดาห์ ส่วนอุตสาหกรรมยานยนตืนั้นเหมือนลูกค้ารายย่อยที่มาซื้อเดือนหรือ 2 เดือนครั้ง จำนวน Chip และ IC ที่สินค้าอิเล็กโทรนิกส์กับยานยนต์ซื้อทีนึงนั้นต่างกันเป็นสิบเป็นร้อยเท่า ในยามที่ทั้งความต้องการทั่วโลกสูงขึ้นพร้อมกับกำลังการผลิตลดลงจากสถานการณ์ COVID ทั่วโลก อุตฯยานยนต์จึงได้รับการปันส่วนจากผู้ผลิต Chip และ IC ต่างๆน้อยกว่าที่สินค้าอิเล็กโทรนิกส์ได้รับมาก เรื่องนี้ไม่แปลกเพราะใครๆก็ต้องการรักษาฐานลูกค้ารายใหญ่ไว้มากกว่ารายย่อยทั้งนั้น

แต่มีผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นรายหนึ่งที่ได้รับผลกระทบน้อยกว่ารถยี่ห้ออื่นๆมาก เพราะรถยนต์ญี่ปุ่นยี่ห้อนั้นมีบริษัทลูกที่ถือหุ้นบริษัทผลิต Chip และ IC สำหรับยานยนต์รายใหญ่อยู่ รถยนต์ยี่ห้อนั้นจึงใช้ Chip และ IC จากผู้ผลิตเจ้านั้นเป็นหลักเกือบทั้งหมด ผู้ผลิต Chip และ IC เจ้านั้นจึงมีข้อมูลการพยากรณ์การสั่งซื้อล่วงหน้าจากรถยนต์ยี่ห้อนั้นค่อนข้างยาวนานและเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้ จึงสามารถวางแผนการผลิตเพื่อส่งมอบสินค้าได้ค่อนข้างต่อเนื่อง

แต่ถ้า Foxconn มาไทยก็จะผลิตทั้ง ชิพ และแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าครับ ไทยน่าจะได้เปรียบแน่นอนและราคาของรถยนต์ไฟฟ้าที่จำหน่ายในไทยก็จะถูกลงเรื่อยๆครับ

ออฟไลน์ Sazabi

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 330
Re: วิกฤตการณ์ ชิป(หาย)
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กันยายน 14, 2021, 11:50:56 »
ไม่ได้เกิดการแย่งแต่อย่างใดเพราะความสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมสินค้าอิเล็กโทรนิกส์นั้นต่างกันมากสำหรับผุ้ผลิต Chip ต่างกันตั้งแต่แรกแล้ว

ผู้ผลิต Chip และ IC นั้นเหมือนร้านค้าขายส่ง อุตสาหกรรมสินค้าอิเล็กโทรนิกส์นั้นเหมือนลูกค้าประจำที่มาซื้อทุกสัปดาห์ ส่วนอุตสาหกรรมยานยนตืนั้นเหมือนลูกค้ารายย่อยที่มาซื้อเดือนหรือ 2 เดือนครั้ง จำนวน Chip และ IC ที่สินค้าอิเล็กโทรนิกส์กับยานยนต์ซื้อทีนึงนั้นต่างกันเป็นสิบเป็นร้อยเท่า ในยามที่ทั้งความต้องการทั่วโลกสูงขึ้นพร้อมกับกำลังการผลิตลดลงจากสถานการณ์ COVID ทั่วโลก อุตฯยานยนต์จึงได้รับการปันส่วนจากผู้ผลิต Chip และ IC ต่างๆน้อยกว่าที่สินค้าอิเล็กโทรนิกส์ได้รับมาก เรื่องนี้ไม่แปลกเพราะใครๆก็ต้องการรักษาฐานลูกค้ารายใหญ่ไว้มากกว่ารายย่อยทั้งนั้น

แต่มีผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นรายหนึ่งที่ได้รับผลกระทบน้อยกว่ารถยี่ห้ออื่นๆมาก เพราะรถยนต์ญี่ปุ่นยี่ห้อนั้นมีบริษัทลูกที่ถือหุ้นบริษัทผลิต Chip และ IC สำหรับยานยนต์รายใหญ่อยู่ รถยนต์ยี่ห้อนั้นจึงใช้ Chip และ IC จากผู้ผลิตเจ้านั้นเป็นหลักเกือบทั้งหมด ผู้ผลิต Chip และ IC เจ้านั้นจึงมีข้อมูลการพยากรณ์การสั่งซื้อล่วงหน้าจากรถยนต์ยี่ห้อนั้นค่อนข้างยาวนานและเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้ จึงสามารถวางแผนการผลิตเพื่อส่งมอบสินค้าได้ค่อนข้างต่อเนื่อง

แต่ถ้า Foxconn มาไทยก็จะผลิตทั้ง ชิพ และแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าครับ ไทยน่าจะได้เปรียบแน่นอนและราคาของรถยนต์ไฟฟ้าที่จำหน่ายในไทยก็จะถูกลงเรื่อยๆครับ

Foxconn มาไทยนี่จะตั้งโรงงานอะไรครับเอาให้แน่ โรงงานรถยนต์หรือโรงงานชิป ถ้าโรงงานชิปบอกได้เลยว่าไม่มีทางครับ เพราะจุดหลักของโรงงานอิเล็กโทรนิกส์คือ Volume ที่ต้องมีมหาศาลหลักแสนหลักล้านหน่วยยิ่งจำนวนมากยิ่งแข่งขันด้านราคาได้ ไม่ใช่หลักพันหลักหมื่นเหมือนที่อุตสาหกรรมยานยนต์ใช้ การที่จะแตกออกมาตั้งโรงงานชิปในประเทศไทยที่ค่าแรงก็ไม่ได้ถูก เทคโนโลยีก็ไม่มีนั้นไม่มีทางเป็นไปได้เลย ยิ่งถ้าบอกว่าจะตั้งโรงงานชิปสำหรับรถยนต์โดยเฉพาะยิ่งเป็นไปไม่ได้หนักข้อเข้าไปอีกเพราะ Volume เท่าหยดน้ำในประเทศไทยเทียบกับ Volume จากทั่วโลกเท่ามหาสมุทรในไต้หวัน มันเปรียบเทียบอะไรกันไม่ได้เลยไม่ว่าในแง่ไหน

คือข่าว Foxconn นี่ผมเห็นมานานและหลายครั้งแล้ว สำหรับคนที่อยู่ในอุตยานยนต์นี่คือข่าวล่อแมงเม่าอย่างแท้จริง เอาไว้รอดูครับว่าจริงๆแล้วมันจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างกันแน่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 14, 2021, 11:59:20 โดย Sazabi »

ออฟไลน์ O_o"

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,434
Re: วิกฤตการณ์ ชิป(หาย)
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: กันยายน 14, 2021, 14:41:24 »
ที่น่าห่วงคือวัตถุดิบในการนำมาผลิตชิป Rare Earth แร่หายาก-อาวุธจีนในสงครามการค้ากับอเมริกา

ซึ่งส่วนใหญ่ แร่หายาก Rare Earth ก็นำเข้าจากประเทศจีน ตอนนี้ประเทศจีนเองก็มีไม่ได้ส่งออกแร่เหล่านั้นออกมาเต็มที่

ประเทศอื่นๆก็สามารถผลิต แร่หายาก Rare Earth ออกมาได้เช่นกัน แต่ต้นทุนการผลิตสูงกว่า ของจากประเทศจีน

ส่วนเครื่องจักรในการผลิตไม่น่าห่วงครับ หลายๆบริษัทมีเครื่องจักรต่างๆพร้อมอยู่แล้ว

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,633
Re: วิกฤตการณ์ ชิป(หาย)
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: กันยายน 14, 2021, 19:33:56 »
Rare Earth ตอนนี้ US กับ AUS กำลังกลับมาขุดครับ อีกสักพักจะกลับมาปกติ เพราะจีนแทบจะผูกขาดมานาน
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
Re: วิกฤตการณ์ ชิป(หาย)
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: กันยายน 14, 2021, 20:04:29 »
ไม่ได้เกิดการแย่งแต่อย่างใดเพราะความสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมสินค้าอิเล็กโทรนิกส์นั้นต่างกันมากสำหรับผุ้ผลิต Chip ต่างกันตั้งแต่แรกแล้ว

ผู้ผลิต Chip และ IC นั้นเหมือนร้านค้าขายส่ง อุตสาหกรรมสินค้าอิเล็กโทรนิกส์นั้นเหมือนลูกค้าประจำที่มาซื้อทุกสัปดาห์ ส่วนอุตสาหกรรมยานยนตืนั้นเหมือนลูกค้ารายย่อยที่มาซื้อเดือนหรือ 2 เดือนครั้ง จำนวน Chip และ IC ที่สินค้าอิเล็กโทรนิกส์กับยานยนต์ซื้อทีนึงนั้นต่างกันเป็นสิบเป็นร้อยเท่า ในยามที่ทั้งความต้องการทั่วโลกสูงขึ้นพร้อมกับกำลังการผลิตลดลงจากสถานการณ์ COVID ทั่วโลก อุตฯยานยนต์จึงได้รับการปันส่วนจากผู้ผลิต Chip และ IC ต่างๆน้อยกว่าที่สินค้าอิเล็กโทรนิกส์ได้รับมาก เรื่องนี้ไม่แปลกเพราะใครๆก็ต้องการรักษาฐานลูกค้ารายใหญ่ไว้มากกว่ารายย่อยทั้งนั้น

แต่มีผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นรายหนึ่งที่ได้รับผลกระทบน้อยกว่ารถยี่ห้ออื่นๆมาก เพราะรถยนต์ญี่ปุ่นยี่ห้อนั้นมีบริษัทลูกที่ถือหุ้นบริษัทผลิต Chip และ IC สำหรับยานยนต์รายใหญ่อยู่ รถยนต์ยี่ห้อนั้นจึงใช้ Chip และ IC จากผู้ผลิตเจ้านั้นเป็นหลักเกือบทั้งหมด ผู้ผลิต Chip และ IC เจ้านั้นจึงมีข้อมูลการพยากรณ์การสั่งซื้อล่วงหน้าจากรถยนต์ยี่ห้อนั้นค่อนข้างยาวนานและเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้ จึงสามารถวางแผนการผลิตเพื่อส่งมอบสินค้าได้ค่อนข้างต่อเนื่อง

รถญี่ปุ่นยี่ห้ออะไรครับ ที่ผลิต Chip & IC เองได้ โปรดวานบอก ??
My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ koko86

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,591
    • อีเมล์
Re: วิกฤตการณ์ ชิป(หาย)
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: กันยายน 14, 2021, 20:09:44 »
     ชิปที่ใช้อยู่ในโลกนี้ส่วนใหญ่ผลิตที่ไต้หวันนะครับ  จีนผลิตชิปไม่ได้
จีนมีผลิตบริษัทผลิตขนาดใหญ่มาก ชื่อ SMIC ผมถือหุ้นอยู่
เพียงแต่ผลิตชิบต่ำกว่า14 นาโนเมตรไม่ได้ เพราะ อเมริกา สั่งให้บริษัท ASML ที่เป็นเครื่องยิงแสงUV สร้างชิบ ไม่ส่งรุ่นที่ผลิตได้เล็กกว่านั้น
แต่สำหรับรถยนต์ไม่จำเป็นต้องใช้ชิบขนาดเล็กมาก

ส่วนเรื่องชิบขาดท้่วโลก เท่าที่ดูบริษัทในจีน โดยเฉพาะพวกทำรถไฟฟ้าไม่ได้มีปัญหานี้เลย ผลิตกันเดือนๆนึงน่าจะเกินแสนคัน ส่วนนึงมาจาก เพราะเค้าผลิตเองได้ ส่วนรถญี่ปุ่นได้รับผลกระทบเต็มๆ

ออฟไลน์ Sazabi

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 330
Re: วิกฤตการณ์ ชิป(หาย)
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: กันยายน 14, 2021, 20:40:56 »
ไม่ได้เกิดการแย่งแต่อย่างใดเพราะความสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมสินค้าอิเล็กโทรนิกส์นั้นต่างกันมากสำหรับผุ้ผลิต Chip ต่างกันตั้งแต่แรกแล้ว

ผู้ผลิต Chip และ IC นั้นเหมือนร้านค้าขายส่ง อุตสาหกรรมสินค้าอิเล็กโทรนิกส์นั้นเหมือนลูกค้าประจำที่มาซื้อทุกสัปดาห์ ส่วนอุตสาหกรรมยานยนตืนั้นเหมือนลูกค้ารายย่อยที่มาซื้อเดือนหรือ 2 เดือนครั้ง จำนวน Chip และ IC ที่สินค้าอิเล็กโทรนิกส์กับยานยนต์ซื้อทีนึงนั้นต่างกันเป็นสิบเป็นร้อยเท่า ในยามที่ทั้งความต้องการทั่วโลกสูงขึ้นพร้อมกับกำลังการผลิตลดลงจากสถานการณ์ COVID ทั่วโลก อุตฯยานยนต์จึงได้รับการปันส่วนจากผู้ผลิต Chip และ IC ต่างๆน้อยกว่าที่สินค้าอิเล็กโทรนิกส์ได้รับมาก เรื่องนี้ไม่แปลกเพราะใครๆก็ต้องการรักษาฐานลูกค้ารายใหญ่ไว้มากกว่ารายย่อยทั้งนั้น

แต่มีผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นรายหนึ่งที่ได้รับผลกระทบน้อยกว่ารถยี่ห้ออื่นๆมาก เพราะรถยนต์ญี่ปุ่นยี่ห้อนั้นมีบริษัทลูกที่ถือหุ้นบริษัทผลิต Chip และ IC สำหรับยานยนต์รายใหญ่อยู่ รถยนต์ยี่ห้อนั้นจึงใช้ Chip และ IC จากผู้ผลิตเจ้านั้นเป็นหลักเกือบทั้งหมด ผู้ผลิต Chip และ IC เจ้านั้นจึงมีข้อมูลการพยากรณ์การสั่งซื้อล่วงหน้าจากรถยนต์ยี่ห้อนั้นค่อนข้างยาวนานและเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้ จึงสามารถวางแผนการผลิตเพื่อส่งมอบสินค้าได้ค่อนข้างต่อเนื่อง

รถญี่ปุ่นยี่ห้ออะไรครับ ที่ผลิต Chip & IC เองได้ โปรดวานบอก ??

ตรงไหนที่ผมบอกว่ารถญี่ปุ่นผลิตชิปเองครับ อ่านดีๆครับ

ถ้าคุณอยากรู้คุณก็ไปค้นหาสิครับว่าผู้ผลิตชิปและ IC ให้อุตสาหกรรมยานยนต์เจ้าไหนมีบริษัทลูกหรือ Keiretsu ของบริษัทรถยนต์ถือหุ้นอยู่ แค่นี้คุณก็รู้แล้วว่าเป็นรถญี่ปุ่นยี่ห้อไหนเพราะที่เหลือน่าจะเดาออกได้ไม่ยาก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 14, 2021, 23:33:56 โดย Sazabi »

ออฟไลน์ Sazabi

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 330
Re: วิกฤตการณ์ ชิป(หาย)
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: กันยายน 14, 2021, 20:49:42 »
ที่น่าห่วงคือวัตถุดิบในการนำมาผลิตชิป Rare Earth แร่หายาก-อาวุธจีนในสงครามการค้ากับอเมริกา

ซึ่งส่วนใหญ่ แร่หายาก Rare Earth ก็นำเข้าจากประเทศจีน ตอนนี้ประเทศจีนเองก็มีไม่ได้ส่งออกแร่เหล่านั้นออกมาเต็มที่

ประเทศอื่นๆก็สามารถผลิต แร่หายาก Rare Earth ออกมาได้เช่นกัน แต่ต้นทุนการผลิตสูงกว่า ของจากประเทศจีน

ส่วนเครื่องจักรในการผลิตไม่น่าห่วงครับ หลายๆบริษัทมีเครื่องจักรต่างๆพร้อมอยู่แล้ว

Rare earth ไม่มีปัญหาครับ ในบรรดาผู้ผลิตชิ้นส่วนไม่มีใครกังวลเรื่อง Rare earth เลยครับ

ที่ตอนนี้มันแก้ปัญหายังไม่ได้เพราะการที่จะตั้งโรงงานใหม่ สายการผลิตใหม่ ของชิ้นส่วนอิเล็กโทรนิกส์มันใช้เวลานานกว่ากระบวนการทุกอย่างจะเรียบร้อย ซึ่งมันรวมถึงการทดสอบต่างๆบนรถยนต์ด้วย กว่าจะทดสอบเสร็จ กว่าแก้ไขแบบ กว่าจะพ้นช่วงเปลี่ยนผ่าน Transition ทั้งหมดทำให้ปัญหานี้ไม่มี Short-term solution ครับ กว่าจะคลี่คลายก็โน่นประเมินกันว่า 2023 เป็นอย่างเร็ว

ออฟไลน์ Sazabi

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 330
Re: วิกฤตการณ์ ชิป(หาย)
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: กันยายน 14, 2021, 21:04:43 »
     ชิปที่ใช้อยู่ในโลกนี้ส่วนใหญ่ผลิตที่ไต้หวันนะครับ  จีนผลิตชิปไม่ได้
จีนมีผลิตบริษัทผลิตขนาดใหญ่มาก ชื่อ SMIC ผมถือหุ้นอยู่
เพียงแต่ผลิตชิบต่ำกว่า14 นาโนเมตรไม่ได้ เพราะ อเมริกา สั่งให้บริษัท ASML ที่เป็นเครื่องยิงแสงUV สร้างชิบ ไม่ส่งรุ่นที่ผลิตได้เล็กกว่านั้น
แต่สำหรับรถยนต์ไม่จำเป็นต้องใช้ชิบขนาดเล็กมาก

ส่วนเรื่องชิบขาดท้่วโลก เท่าที่ดูบริษัทในจีน โดยเฉพาะพวกทำรถไฟฟ้าไม่ได้มีปัญหานี้เลย ผลิตกันเดือนๆนึงน่าจะเกินแสนคัน ส่วนนึงมาจาก เพราะเค้าผลิตเองได้ ส่วนรถญี่ปุ่นได้รับผลกระทบเต็มๆ

ญี่ปุ่นก็ผลิตเองได้ครับ แต่อย่างที่ผมตอบไปตอนต้นกระทู้ว่าผู้ผลิตชิปและ IC สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นนั้นถูกถือหุ้นโดย Keiretsu ของบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นรายหนึ่ง ทำให้ค่ายรถญี่ปุ่นอื่นๆไม่อยากใช้บริการซื้อชิ้นส่วนจาก Supplier เจ้านี้ทั้งหมด เพราะไม่อย่างนั้นข้อมูลแผนการผลิตรถของตนมันก็จะหลุดไปสู่ Keiretsu และบริษัทรถญี่ปุ่นคู่แข่งที่เป้นนายใหญ่จนหมด เพราะเมื่อรู้ทั้งปริมาณ จำนวน เทคโนโลยีของชิปและ IC ที่สั่งซื้อ แค่นี้ก็คาดเดาได้เลยว่าค่ายรถอื่นจะใส่ Option อะไรลงไปบ้าง ด้วยเหตุนี้ค่ายรถญี่ปุ่นอื่นๆจึงพยายามไปซื้อชิปและ IC จากผู้ผลิตเจ้าอื่นในประเทศอื่นอย่างไต้หวัน รวมทั้งเลือก Tier-1 Suppler ที่ไม่ได้ใช้ชิปและ IC จากผู้ผลิตเจ้านี้เป็น Tier-N ด้วย (แต่ก็มีซื้อบ้างเป็นบางอย่าง) เพื่อไม่ให้แผนการตลาดของรถตัวเองตกไปอยู่ในมือคู่แข่ง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 14, 2021, 21:43:42 โดย Sazabi »

ออฟไลน์ delete

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,961
    • อีเมล์
Re: วิกฤตการณ์ ชิป(หาย)
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: กันยายน 14, 2021, 21:31:46 »
     ชิปที่ใช้อยู่ในโลกนี้ส่วนใหญ่ผลิตที่ไต้หวันนะครับ  จีนผลิตชิปไม่ได้
จีนมีผลิตบริษัทผลิตขนาดใหญ่มาก ชื่อ SMIC ผมถือหุ้นอยู่
เพียงแต่ผลิตชิบต่ำกว่า14 นาโนเมตรไม่ได้ เพราะ อเมริกา สั่งให้บริษัท ASML ที่เป็นเครื่องยิงแสงUV สร้างชิบ ไม่ส่งรุ่นที่ผลิตได้เล็กกว่านั้น
แต่สำหรับรถยนต์ไม่จำเป็นต้องใช้ชิบขนาดเล็กมาก

ส่วนเรื่องชิบขาดท้่วโลก เท่าที่ดูบริษัทในจีน โดยเฉพาะพวกทำรถไฟฟ้าไม่ได้มีปัญหานี้เลย ผลิตกันเดือนๆนึงน่าจะเกินแสนคัน ส่วนนึงมาจาก เพราะเค้าผลิตเองได้ ส่วนรถญี่ปุ่นได้รับผลกระทบเต็มๆ

ญี่ปุ่นก็ผลิตเองได้ครับ แต่อย่างที่ผมตอบไปตอนต้นกระทู้ว่าผู้ผลิตชิปและ IC สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นนั้นถูกถือหุ้นใหญ่โดย Keiretsu ของบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นรายหนึ่ง ทำให้ค่ายรถญี่ปุ่นอื่นๆไม่อยากใช้บริการซื้อชิ้นส่วนจาก Supplier เจ้านี้ทั้งหมด เพราะไม่อย่างนั้นข้อมูลแผนการผลิตรถของตนมันก็จะหลุดไปสู่ Keiretsu และบริษัทรถญี่ปุ่นคู่แข่งที่เป้นนายใหญ่จนหมด เพราะเมื่อรู้ทั้งปริมาณ จำนวน เทคโนโลยีของชิปและ IC ที่สั่งซื้อ แค่นี้ก็คาดเดาได้เลยว่าค่ายรถอื่นจะใส่ Option อะไรลงไปบ้าง ด้วยเหตุนี้ค่ายรถญี่ปุ่นอื่นๆจึงพยายามไปซื้อชิปและ IC จากผู้ผลิตเจ้าอื่นในประเทศอื่นอย่างไต้หวัน รวมทั้งเลือก Tier-1 Suppler ที่ไม่ได้ใช้ชิปและ IC จากผู้ผลิตเจ้านี้เป็น Tier-N ด้วย (แต่ก็มีซื้อบ้างเป็นบางอย่าง) เพื่อไม่ให้แผนการตลาดของรถตัวเองตกไปอยู่ในมือคู่แข่ง
เห็นว่ารง.ผลิตชิปของญี่ปุ่น ไฟไหม้ ป่ะคนับ พวกบ.ญี่ปุ่นเลยช็อตไปพร้อมๆกัน

ออฟไลน์ Sazabi

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 330
Re: วิกฤตการณ์ ชิป(หาย)
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: กันยายน 14, 2021, 23:40:58 »
     ชิปที่ใช้อยู่ในโลกนี้ส่วนใหญ่ผลิตที่ไต้หวันนะครับ  จีนผลิตชิปไม่ได้
จีนมีผลิตบริษัทผลิตขนาดใหญ่มาก ชื่อ SMIC ผมถือหุ้นอยู่
เพียงแต่ผลิตชิบต่ำกว่า14 นาโนเมตรไม่ได้ เพราะ อเมริกา สั่งให้บริษัท ASML ที่เป็นเครื่องยิงแสงUV สร้างชิบ ไม่ส่งรุ่นที่ผลิตได้เล็กกว่านั้น
แต่สำหรับรถยนต์ไม่จำเป็นต้องใช้ชิบขนาดเล็กมาก

ส่วนเรื่องชิบขาดท้่วโลก เท่าที่ดูบริษัทในจีน โดยเฉพาะพวกทำรถไฟฟ้าไม่ได้มีปัญหานี้เลย ผลิตกันเดือนๆนึงน่าจะเกินแสนคัน ส่วนนึงมาจาก เพราะเค้าผลิตเองได้ ส่วนรถญี่ปุ่นได้รับผลกระทบเต็มๆ

ญี่ปุ่นก็ผลิตเองได้ครับ แต่อย่างที่ผมตอบไปตอนต้นกระทู้ว่าผู้ผลิตชิปและ IC สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นนั้นถูกถือหุ้นใหญ่โดย Keiretsu ของบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นรายหนึ่ง ทำให้ค่ายรถญี่ปุ่นอื่นๆไม่อยากใช้บริการซื้อชิ้นส่วนจาก Supplier เจ้านี้ทั้งหมด เพราะไม่อย่างนั้นข้อมูลแผนการผลิตรถของตนมันก็จะหลุดไปสู่ Keiretsu และบริษัทรถญี่ปุ่นคู่แข่งที่เป้นนายใหญ่จนหมด เพราะเมื่อรู้ทั้งปริมาณ จำนวน เทคโนโลยีของชิปและ IC ที่สั่งซื้อ แค่นี้ก็คาดเดาได้เลยว่าค่ายรถอื่นจะใส่ Option อะไรลงไปบ้าง ด้วยเหตุนี้ค่ายรถญี่ปุ่นอื่นๆจึงพยายามไปซื้อชิปและ IC จากผู้ผลิตเจ้าอื่นในประเทศอื่นอย่างไต้หวัน รวมทั้งเลือก Tier-1 Suppler ที่ไม่ได้ใช้ชิปและ IC จากผู้ผลิตเจ้านี้เป็น Tier-N ด้วย (แต่ก็มีซื้อบ้างเป็นบางอย่าง) เพื่อไม่ให้แผนการตลาดของรถตัวเองตกไปอยู่ในมือคู่แข่ง
เห็นว่ารง.ผลิตชิปของญี่ปุ่น ไฟไหม้ ป่ะคนับ พวกบ.ญี่ปุ่นเลยช็อตไปพร้อมๆกัน

ไฟไหม้นั่นมันตั้งแต่มีนาคมแล้วครับ ตอนนี้มันกลับมา Full Recovery แล้ว และมันแค่โรงงานเดียวจาก 6 โรงในญี่ปุ่น อันที่จริงก่อนจะกลับมา Full Recovery มันก็แก้ Supply ได้ตั้งแต่พ.ค.แล้ว

แต่อย่างที่ผมบอกว่ารถญี่ปุ่นค่ายอื่นส่วนใหญ่หนีไปใช้ชิปและ IC จากไต้หวันหรือยุโรปหมด เพราะไม่ต้องการให้แผนงานรั่วไหล มันก็เลยติดปัญหาเรื่องการปันส่วนจากอุตสาหกรรมอื่นมากกว่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 14, 2021, 23:51:17 โดย Sazabi »

ออฟไลน์ Darkart

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,191
    • อีเมล์
Re: วิกฤตการณ์ ชิป(หาย)
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: กันยายน 16, 2021, 11:07:14 »
ผู้ไม่มีแผลเป็น คือ ผู้ไม่มีประสบการณ์