เดียวนะ โชว์รูมเค้าไม่ได้มีรายได้จากการขายรถเพียงอย่างเดียวนะครับ
ถึงรถใหม่จะขายได้น้อยลง แต่ก็ขายได้ มียอดจำหน่ายเรื่อยๆ และรายได้ โชว์รูมก็มาจากงานบริการ งานซ่อมสีตัวถังอีก
ศูนย์มาสด้าคลอง 4 ที่ผมใช้ประจำ จะเข้าศูนย์ก็ยังต้องจองคิวอยู่ แถมช่วงปลายปีนี่คิวยาวเลยจองกันข้ามอาทิตย์
รถญี่ปุ่นที่วิ่งอยู่บนถนนน่ะ ถ้ามีการเช็คระยะ เค้าอยู่ได้ครับ รายได้เข้า ขายน้ำมันเครื่องขายอะไหล่ ขายงานบริการเก็บค่าแรง
ส่วนรถไฟฟ้า ที่มีการเช็คระยะ เปลี่ยนแค่ น้ำยาหล่อเย็น กรองแอร์ มันมีรายได้เพียงพอหรือเปล่า ระยะยาว ใครจะอยุ๋ไม่ได้กันแน่ รอดูเลยครับ
ไม่แน่ใจว่าเข้าใจถูกไหมนะครับ
ผมคิดว่ารายได้ส่วนใหญ่มากจากการขายรถครับ ส่วนงานบริการ อะไหล่ น่าจะมาจากการผูกกับประกันคุณภาพ 3y100000km ครับ คนเลยต้องเอารถมาเข้ากัน
ทีนี้ถ้าหมดประกันแล้วกลุ่มนึงก็ไปพึ่งอู่นอกแล้วครับ เราเลยสังเกตุได้ว่ารถเชคระยะ หรือเซอวิสในศูนย์เป็นรถใหม่ซะส่วนใหญ่ครับ
งานซ่อมสีตัวถัง ถ้าหมดประกันซ่อมศูนย์ก็น่าจะโดนประกันส่งไปไปอู่นอกกันหมดครับ
มองว่างานเซอวิส มันเอามาเป็นจุดขายว่ามีบริการหลังการขาย เพื่อดูดคนให้มาซื้อมากกว่าครับ
ทีนี้ถ้ารถขายได้น้อยอีก คนที่จะเอารถมาเข้าศูนย์ก็น้อยลงไปอีกครับ...
อันนี้แลกเปลี่ยนกันนะครับ
ที่ผมพอทราบคือ รถใหม่เป็นรายได้จริงครับแต่กำไรจริงๆน้อยมาก กำไรรถใหม่ 1 คันหลักหมื่นครับ และไหนจะต้องมาเทส่วนลด อัดมาจิ้นแข่งกันเองอีก รวมๆที่ผมเคยได้ยินคือแทบไม่เหลือกำไรจากการขายรถใหม่เลย
แล้วโชว์รูมอยู่ได้อย่างไร ก็อย่างที่บอกงาน service นั่นแหละ การรับประกันอะไหล่ หรืองานที่ฟรีค่าแรง คูปองฟรีค่าแรงไม่ใช่ว่าดีลเลอร์ไม่เก็บ แล้วดีลเลอร์ให้ฟรีนะครับ บริษัทแม่จะเป็นคนซัพพอร์ทตรงนั้น คือ ถ้ามีคันไหนฟรีค่าแรงมาใช้บริการ บริษัทแม่จะเป็นผู้จ่ายค่าแรงให้ดีลเลอร์นั้นๆให้ตามระบบ
ส่วนงานซ่อมสีตัวถัง รถเก่าอาจจะใช้อู่นอก แต่ในระยะ 3-5ปี เชื่อว่าก็จะยังมีคนที่ซื้อประกันแบบซ่อมห้างอยู่มาก และงานประกันนี่แหละที่ศูนย์บริการสามารถขายอะไหล่แท้ ฟันค่าแรง แล้วไปเบิกกับบริษัทประกัน เป็นรายได้ก้อนโตอีกทาง
ถ้างาน service มันไม่สร้างรายได้ ศูนย์บริการคงไม่แข่งกันสร้างใหญ่ๆให้รองรับรถที่มาใช้บริการทีละมากๆกัน แถมต้องมาแข่งงานคุณภาพงานบริการ ประเมินให้คะแนนกันอีก
และก็อู่นอก ไม่ว่าจะอู่ซ่อมรถหรืออู่สี ต่างก็ต้องมาซื้ออะไหล่แท้จากศูนย์บริการทั้งนั้นครับ และนั่นคือรายได้อีกทางเช่นกัน
ขอบคุณที่มาแชร์เพิ่มนะครับ ชอบมากๆครับ
ตราบใดที่คุยกับผม หลักการและเหตุผล ผมว่ามันสนุกและได้ประโยชน์ดีครับ
เรื่องค่าแรงที่ บ.แม่จ่ายให้ก็น่าสนใจครับ
จริงๆอยากพิมต่ออีกเยอะเลย แต่กลัวทำกระทู้ออกทะเล ครับ
ไม่ออกทะเลหรอกครับ เพราะผมก็สงสัยเหมือนกันว่าแบรนด์รองเหล่านี้(โดยเฉพาะมาสด้ากับนิสสัน)จะอยู่อย่างไรถ้าไม่มีรถใหม่ๆออกขาย
เรื่องที่ว่ารายได้จากการเซอร์วิสอย่างเดียวมันเพียงพอมั้ยก็เป็นประเด็นที่ผมสงสัยเหมือนกัน
เพราะอย่างที่คุณบอกว่ารถส่วนใหญ่ที่เข้าศูนย์คือรถที่อยู่ในประกัน3ปี พอหมดประกันเค้าก็ไปอู่นอกกัน
การขายรถใหม่ มันก็เป็นการเติมรถเข้าระบบเซอร์วิสของศูนย์
ทีนี้ถ้ารถใหม่ขายไม่ได้หรือขายได้น้อยลงมากๆ มีแต่รถเก่าอายุเกิน3ปี รถส่วนใหญ่เค้าก็หนีไปเซอร์วิสอู่นอกกันหมด รายได้ที่ได้จากการเซอร์วิสของศูนย์ก็ต้องลดลงตาม
แล้วแบรนด์รอง บางครั้งศูนย์บริการก็ไม่ทำให้ตัวให้เป็นมิตรกับรถที่มาเซอร์วิสด้วยสิ
เคยใช้ฮอนนด้ามา 3 คัน ผมเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง แบต บางครั้งมีใจอ่อนเปลี่ยนยางกับเขาด้วยตอนมีโปร
ล่าสุด honda freed เช็คระยะเปลี่ยนนมค.ที่ 3 แสนแล้ว แต่รายการหนักๆ ส่วนใหญ่ก็ไปอู่นอก เพราะมีกงสีจ่ายให้
เคยขาย space wagon แล้ว เปลี่ยนมาใช้ odyssey ฝั่งมิตซู รอบละ 6000 up แต่ honda ส่วนใหญ่ต่ำกว่า 5000 ในระยะ 1 แสนแรก
ก็ศูนย์ฮอนด้าเครือที่ผมเข้า เขาตวงนมค.จากถัง 200ลิตร เลยทำราคาได้ถูกกว่าฝั่งมิตซูที่ใช้คาสตรอลเป็นขวดๆ
เซ็นเซอร์ o2 ฝั่งมิตซูล่อหัวละ 2 หมื่น ฝั่งฮอนด้าน่ารักมาก หา part no. ที่ใช้ร่วมกันและขายในราคา accord รุ่นเก่าให้ หลักพัน
ทุกอย่างของ mitsu แพงหมด แพงระดับรถยุโรปแอบเขินเลยทีเดียว
แบบนี้ ใครหมดประกันก็หนีแล้ว
ทุกวันนี้ตามเพจ terra อยู่เพราะเพื่อนผมใช้ เช็คระยะที โดนจุกๆเลยครับ
นอกจากจะไม่มีโมเดลอะไรใหม่ๆแล้ว นโยบายของ 0 ก้ไม่เอื้อให้คนเข้าต่อเนื่องอีก ไปกันใหญ่เลยทีนี้