ใช้ตัวก่อนไมเนอร์อยู่ครับ 80,000 โลแล้ว
โดยรวมก็เหมือนรถยี่ปุ่นทั่วไป คือดูแลง่ายไม่งอแงไม่จุกจิก เข้าไปอู่ไหนก็ซ่อมเป็นหมด ค่าซ่อมก็อยู่ในระดับรถที่ยุ่นทั่วไป อาจจะแพงกว่ารถตลาดซักหน่อย
ยืนยันว่าคบหาได้แน่นอน แถมยังเป็นคันที่ผมมีความสุขชะมัดเวลาได้ขับมันครับ สนุกกับช่วงล่างดีๆ
และการ counter steer แก้อาการท้ายปัดที่เป็นมิตรในรถขับหน้า ที่แลนเซอรอีเอ็กได้แต่ฝันถึง
(เพราะแลนเซอร ออกไปทางหน้าดื้อ)
จะมีให้ติหน่อยก็คงเป็นเรื่องเบรค ที่ต้องออกแรงหยุดพอสมควรในเวลากระทันหัน ไม่มีระบบช่วยเบรคมาให้
คันเร่งตัวก่อนไมเนอร์จะยังเป็นแบบสาย ซึ่งเซ็ตไว้ลึกพอควร คนที่เคยชินกับรถที่เซ็นคันเร่งมาตื้นๆ แตะแล้วพุ่งๆ อาจจะเข้าใจ
ผิดว่ารถอืดได้ แต่คุณต้องลองกดมิด แล้วจะเข้าใจว่ามันไม่อืด อีกประเด็นก็คือ มาสด้าเซ็ตเกียร์ไว้ให้พยายามประหยัดนํ้ามัน
มันจะเปลี่ยนเป็นเกียร์ สี่ ให้ที่ความเร็วแค่ 35 กม ซึ่งก็ ทำให้รู้สึกว่ารถอืดๆด้วยส่วนนึง
และด้วยที่ให้เกียร์มา สี่จังหว่่ะ อัตราเร่งแซงในช่วงที่หมดเกียร์หนึ่ง แต่เกียร์สอง รอบยังไม่มา จะทำได้ไม่ค่อยต่อเนื่องนัก
ถ้าคุณคิ้กดาวโดยให้นํ้าหนักคันเร่งไม่ดี เกียร์จะเปลี่ยนไปที่เกียร์สองตอนที่รอบยังไม่มา และทำให้อัตราเร่งไม่ต่อเนื่องได้
แรงบิดในรอบตำกว่า 3000 ก็มีให้ใช้น้อยไปซักหน่อย เมื่อเทียบกับพี่โตที่สามารถทำให้แรงบิดรอบตํ่าๆ โผล่มาทักมายคุณได้มากกว่า
ถ้าคุณจะขับมาสด้า คุณก็ควรจะเข้าใจว่า ช่วงล่างมัน ไม่ได้นิ่มนวลเหมือนรถตลาดส่วนใหญ่แน่นอน อาการตึงตังต่างๆ มีโผล่มาให้ทักทายกัน
มากกว่า E39 แน่นอน แต่ก็เป็นช่วงล่างที่คนชอบขับรถน่าจะชอบ แต่ให้อาม่านั่งนี่ บ่นอุบ
เสียงของพวงมาลัยไฟฟ้า อาจจะโผล่มาหลอกหลอนคุณได้บ้าง วี๊ๆ แต่ว่าไม่ต้องไปสนใจมันหรอก มีความสุขกับนำ้หนักพวงมาลัยไฟฟ้าที่เซ็ตมาดีลำดับ
ต้นๆ ระยะฟรีที่แทบไม่มี และความแม่นยำเที่ยงตรงของมันเถิด
ข้อดีอีกข้อคงจะเป็นเรื่องการไม่ขี้เหนียวถุงลดโลกร้อน ให้มาหก ใบรอบคัน ในรุ่นสูงๆ
เบาะที่ต้องนั่งให้ก้นชิดกับพนักพิงเป๊ะๆ ถ้านั่งแบบเลื้อยๆแล้ว ผมจะปวดหลัง ไม่รู้คนอื่นเป็นไหม
ความกว้างข้างในก็ต้องทำใจหน่อยว่าน้อยกว่าชาวบ้านเค้านะ ด้วยเหตุผลที่วางเบาะหลัง
ไว้หน้าฐานล้อคู่หลัง แทนที่จะเป็นบนฐานล้อหลัง แบบรถหลายๆรุ่น เพื่อเหตุผลทางด้านจุดศูนย์ถ่วง และระบบช่วงล่างแบบมีลึงค์หลายแท่ง !!!
อุ๊บ หลายจุด ทำให้กินเพื้นที่ไปพอควร
เกียร์ ทริปโทนิคนั้น เป็นเกียร์ทริปโทนิคจริงๆ คือสั่งให้มันเปลี่ยนไปที่เกียร์ไหน มันก็จะเปลี่ยน ไม่เหมือน ระบบ บวกลบของโตต้า ที่พยายามทำตัวฉลาด
เกินคนขับ ไม่ให้เปลี่ยนเกียร์ในรอบตามใจคนขับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทั้งสองคันมีระบบป้องกันการเปลี่ยนเกียร์ลงตํ่าขณะที่มีความเร็วไม่เหมาะสม เพื่อป้องกันเกียร์เจ๊ง สำหรับผู้ขับขี่ที่อาจจะไม่ฉลาดนัก
มาให้ทั้งสองคัน โตต้าจะลดเกียร์ลงตํ่าให้่ให้เองเมื่อตรวจเจอว่าต้องการอัตราเร่งปรู๊ดปร๊าด ในขณะที่มาสด้า ถ้าคุณแช่เกียร์ 4 ไว้ที่ 40 กิโลต่อชม
แล้วกดคันเร่งมิดติดเหล็กรถยังไง เกียร์ก็จะไม่ลดตำแหน่งลงมาให้นะจ๊ะ ส่วนเวลาในการเปลี่ยนเกียร์ในโหมดเอ็ม ก็จะไม่มีแล็กไทม์ แบบชั้นขอคิดดูก่อน ซัก1 วินาทีแบบในพี่โตด้วย
เขียนไปเขียนมารู้สึกจะยาวไปหน่อย แต่โดยรวมก็เป็นรถที่น่าใช้คันนึงครับ เค้าใส่ใจในการเซ็ตช่วงล่าง เซ็ตเสียงเครื่อง เซ็ตพวงมาลัย อากับกริยาตอนมัน
แล่นปกติ และเสียการทรงตัวอ้อ คันนี้ไม่มีระบบอิลเ็กโทรนิกช่วยเหลือด้านการทรงตัว จำพวก TRC VSA อะไรเถือกนั้นนะครับ ซึ่งผมก็ไม่รู้สึกว่ามันจำเป็น
เท่าไรนัก ในเมื่อบ้านเรานั้น ไม่มีนํ้าแข็งลื่นปร๊าดแบบเมืองหนาวเค้ามีกัน
หมายถึงว่าคุณสามารถพบอาการ ทอร์คสเตียร์ ตอนที่หักพวงมาลัยและกดคันเร่งมิดได้ จะไม่มีการมาสั่งหยุดการจ่ายนํ้ามัน ทำตัวหน้าเบื่อเหมือน
แฮมเบอร์เกอร์จืดชืดแน่นอนครับ
ถ้าคุณใช้อี สามเก้ามาก่อน อย่าได้ไปกังวลกับค่าซ่อมมาสด้าเลยครับ