BMW ชนสปอร์ตไรเดอร์

[mamaman]

ลองอ่าน หลายๆ คำตอบ

ก็จะชอบบอกว่า คน ตจว ขับรถโง่เอง

คือ จะพูดยังไงครับ
คน เค้าเคยชิน แบบ เจอคนขับช้า ๆ เลยคิดว่า รถ กทม ขับช้ามั้ง

คนกรุงชินกับทางด่วน คน ตจว ไปเรื่อยๆตามใจฉัน
เมื่อความต่างสุดขั้วมาเจอกัน ก็เป็นเหตุ

แล้วเคยเจอ รถ ตจว รถ เจ้าถิ่น ที่ขับเร็วๆ ไหมครับ? กระบะ รถโหลด รถยกสูง รถ4WD ผมว่ามีไม่น้อยนะ

โดยเฉพาะ"ทางเขา"นี่เจอบ่อยเลย ถ้า 4 เลน ฝั่งละ 2 เลน ก็ไม่เท่าไร

ทาง 2 เลน สวนกัน เจอ โค้งหนัก โค้งหักศอก รถเจ้าถิ่นนี่เล่นปาดตัดเลนกันเลย แถมไม่ชะลงชะลอกันเลย แตรเตอไม่มีบีบส่งสัญญาณเตือน

อาศัยว่า คุ้นชินเส้นทาง ใช้บ่อย ใช้ประจำ

ผมนี่หักหลบไปไหล่ทางหลายครั้งมาก

ตรงๆนะ ทางเขา ผมนี่ขับประคองให้อยู่ในเลนเกือบตลอด ไม่ใช่ไม่รู้ว่าการตัดเลนดียังไงนะ

แต่ทางแบบนี้ ผมเห็นใจคนที่ขับไม่แข็ง หรือ ประเภทตกใจง่าย

เจอโค้งหนักโค้งหักศอก ชะลอได้ก็ชะลอ รักษาให้อยู่ในเลน แตรนี่ก็พยายามใช้เตือนบ่อย

นี่ไม่นับประเภทจะแซงแบบน่าเกลียดนะ คือ จังหวะมันแซงไม่ได้ แซงลำบาก แต่จะไปให้ได้ อันนี้เจอบ้าง แต่นานๆที ส่วนใหญ่ก็ชะลอๆกันไป รอจังหวะ

กะบะ แว้น มันมีทุกที่ เหลาะครับ ไม่ใช่ เฉพาะ ตจว
คนละประเด็น กับ ชาวบ้าน ทั่วไป ที่ขับรถ แบบ เรื่อยๆ ช้า

แต่ที่แน่ ๆ มันไม่แวนซ์ ในเขต ชุมชน ครับ  มันกลัว ตำรวจ

[BenzParagon]

ถ.ยันตรกิจโกศล อุบัติเหตุบ่อยมากครับ ไม่กี่วันนี้ก็กระบะ จากทะเบียนกรุงเทพชน จักรยานยนต์ เสียชีวิต ไกล้ๆจุด bm นั่นล่ะครับ ถ.ทำใหม่ผ่านชุมชน ต้องขับแบบระวังและมีสติครับ

ลองอ่าน หลายๆ คำตอบ

ก็จะชอบบอกว่า คน ตจว ขับรถโง่เอง

คือ จะพูดยังไงครับ
คน เค้าเคยชิน แบบ เจอคนขับช้า ๆ เลยคิดว่า รถ กทม ขับช้ามั้ง

ผมว่า ไม่เกี่ยวกับโง่หรือฉลาด

มันอยู่ที่ว่า "ควรระมัดระวัง" ด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย

กรณี ระมัดระวังทั้ง 2 ฝ่าย  รถที่กลับชะลอหรือหยุดรถดูจังหวะ คันที่ขับทางตรงชะลอความเร็วเมื่อมองเห็นจุดกลับรถหรือทางร่วมทางแยก

                                             1.รถที่กลับรถ พ้นไปก่อน หรือ รถทางตรง ผ่านไปก่อน ความเสียหายไม่เกิด

                                             2.เกิดปะทะเฉี่ยวชน ความเสียหายเกิดน้อย

กรณี ระมัดระวัง 1 ฝ่าย  1.รถทางตรง ชะลอ รถที่กลับรถ ไม่ดูจังหวะ พ้นไปได้ หากไม่พ้น ความเสียหายเกิดน้อย

                                         2.รถที่กลับรถ ดูจังหวะ รถทางตรง ไม่ชะลอ รถทางตรง ผ่านไป ความเสียหายไม่เกิด

กรณี ไม่ระมัดระวังทั้ง 2 ฝ่าย  1.รถที่กลับรถ ไม่ดูจังหวะ แต่พ้นไปได้ รถทางตรง ไม่ชะลอ ขับต่อไป ความเสียหายไม่เกิด

                                                   2.รถที่กลับรถ ไม่ดูจังหวะ กลับรถไม่พ้น รถทางตรง ไม่ชะลอ เกิดการปะทะเฉี่ยวชน ความเสียหายเกิดรุนแรง



ปล.อาจจะยังแยกกรณีไม่หมด แต่สรุปคือ ควรช่วยกัน ระมัดระวังทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ใช่ ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ระมัดระวัง อยู่ฝ่ายเดียว

ลองอ่าน หลายๆ คำตอบ

ก็จะชอบบอกว่า คน ตจว ขับรถโง่เอง

คือ จะพูดยังไงครับ
คน เค้าเคยชิน แบบ เจอคนขับช้า ๆ เลยคิดว่า รถ กทม ขับช้ามั้ง

คนกรุงชินกับทางด่วน คน ตจว ไปเรื่อยๆตามใจฉัน
เมื่อความต่างสุดขั้วมาเจอกัน ก็เป็นเหตุ

แล้วเคยเจอ รถ ตจว รถ เจ้าถิ่น ที่ขับเร็วๆ ไหมครับ? กระบะ รถโหลด รถยกสูง รถ4WD ผมว่ามีไม่น้อยนะ

โดยเฉพาะ"ทางเขา"นี่เจอบ่อยเลย ถ้า 4 เลน ฝั่งละ 2 เลน ก็ไม่เท่าไร

ทาง 2 เลน สวนกัน เจอ โค้งหนัก โค้งหักศอก รถเจ้าถิ่นนี่เล่นปาดตัดเลนกันเลย แถมไม่ชะลงชะลอกันเลย แตรเตอไม่มีบีบส่งสัญญาณเตือน

อาศัยว่า คุ้นชินเส้นทาง ใช้บ่อย ใช้ประจำ

ผมนี่หักหลบไปไหล่ทางหลายครั้งมาก

ตรงๆนะ ทางเขา ผมนี่ขับประคองให้อยู่ในเลนเกือบตลอด ไม่ใช่ไม่รู้ว่าการตัดเลนดียังไงนะ

แต่ทางแบบนี้ ผมเห็นใจคนที่ขับไม่แข็ง หรือ ประเภทตกใจง่าย

เจอโค้งหนักโค้งหักศอก ชะลอได้ก็ชะลอ รักษาให้อยู่ในเลน แตรนี่ก็พยายามใช้เตือนบ่อย

นี่ไม่นับประเภทจะแซงแบบน่าเกลียดนะ คือ จังหวะมันแซงไม่ได้ แซงลำบาก แต่จะไปให้ได้ อันนี้เจอบ้าง แต่นานๆที ส่วนใหญ่ก็ชะลอๆกันไป รอจังหวะ

กะบะ แว้น มันมีทุกที่ เหลาะครับ ไม่ใช่ เฉพาะ ตจว
คนละประเด็น กับ ชาวบ้าน ทั่วไป ที่ขับรถ แบบ เรื่อยๆ ช้า

แต่ที่แน่ ๆ มันไม่แวนซ์ ในเขต ชุมชน ครับ  มันกลัว ตำรวจ

ไม่ได้แยก ตจว หรือ กทม ครับ

คือ จะบอกว่า เป็น ชาวบ้าน แล้ว จะขับเรื่อยๆ ไม่สนใจดูอะไรเลย ไม่ระมัดระวัง มันก็ไม่น่าจะใช่นะครับ

อีกอย่าง ผมว่าขับช้า ไม่ค่อยมีปัญหานะครับ ปัญหามันอยู่ที่ว่า เรื่อยๆและไม่ระมัดระวัง

คือ ถ้าไม่ระมัดระวัง ต่อให้ช้าแค่ไหนก็เกิดเหตุได้ครับ แต่ความเสียหายมันไม่รุนแรงเท่านั้นเอง

ส่วนตัว ผมว่า การใช้ความเร็วที่ไม่เกิน 120-130 บวกกับความระมัดระวัง ผมว่าทำให้เกิดเหตุน้อย หรือ แทบไม่เกิดเหตุ

ที่ผมชวนคิดคือ คือ ควรช่วยกัน ระมัดระวังทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ใช่ ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ระมัดระวัง อยู่ฝ่ายเดียว



เรื่อง แว้นซ์ ส่วนตัวนะ อยากเขาคิดได้เอง  น่าจะเข้าท่ากว่า ไม่ทำ เพราะ กลัว

ลองแนะนำ ให้ข้อมูลชวนคิด ให้เหตุผล แต่ไม่ใช้สั่งหรือบอกให้เขาเชื่อแล้วต้องทำตามปฏิบัติตาม เอาความกลัว เอากฎ ระเบียบ ไปขู่

[promt]

ในแง่เคยผ่านการใช้บริการถุงลมมาแล้ว [นั่งหน้าฝั่งซ้ายมือ] เป็นลักษณะเคสคล้ายๆกัน ของผมเกิดแถวๆหนองแค สระบุรี ไปกลับด้านละ 3เลน ถ้าไม่ผิด กำลังเดินทางกลับเข้าชลบุรีอยู่เลนกลาง โดยใช้รถฮอนด้าซีวิค ขวาสุดมี 6ล้อวิ่งกินลมอยู่ ซึ่งน่าจะบังสายตารถอีกฟากที่จะกลับรถมา พอวิ่งมาถึงจุดยูเทิร์น ปรากฏมีกะบะนิสสันช้างเหยียบ กลับรถมาแล้วมาตั้งลำอยู่ข่างหน้าพอดี วินาทีนั้นตกใจมากยังไม่ทันมีเสียงร้องหลุดมาจากลำคอ เสียงชนดังโครมพร้อมถุงลมระเบิดใส่เต็มหน้าอก วินาทีที่มุดตูดกะบะคิดว่าไม่รอด แล้วทั้งสองคันหมุนไปซักไถลไปหยุดอยู่เลนซ้าย พอรถหยุดขยับแขนขาได้หมด แต่ระบมหน้าอกสุดๆ มองไปในรถไม่มีใครอยู่ คนขับกับคนนั่งหลังลงไปก่อน เนื่องจากคิดว่าผมอยู่ในอาการช็อคแปร๊บนึง สติสตังค์ยังไม่เข้าที่ ไปมุดออกประตูคนขับ ฝั่งซ้ายเสางอเปิดไม่ออก ลงไปดูพบหน้ารถซิวิคมุดท้ายจนกะบะเพลาหลังหลุด เลยเสียบคากัน คนขับกะบะเปิดประตูวิ่งหายลงไปข้างทาง ดูสภาพคนขับหักด้านตัวเองหนีเอาช่วงซ้ายเข้าเต็มๆ [คนขับข้อมือมีรอยไหม้ต้นแขนทั้ง 2ข้างจากการะเบิดของถุงลมกลางพวงมาลัย] ตามที่อธิบายด้านบน นึกถึงที่บอกว่าอุบัติเหตุไม่ใช่เคราะห์กรรม แต่เกิดจากการกระทำ จากเคสของผมกับทีโพสต์ สภาพแวดล้อมใกล้เคียงกัน ในเวลาเสี้ยววินาที คงจะแก้สถานการ์ณคับขันได้ยาก ถึงยากมาก ถ้าเราใช้อุปกรณ์ความปลอดภัยเบื่้องต้น ซึ่งคือเข็มขัดนิรภัย ก้อคงอาจเหมือนผมที่ช่วยผ่อนหนักเป็นเบาได้ ก่อนเกิดอุบัติผมก้อคาดเป็นนิสัยตั่งแต่มีรถขับ ไปจ่ายกับข้าวระยะไม่ถึง
 2 โลก้อคาด ยิ่งเป็นเข็มขัดแบบดึงกลับด้วยนะช่วยได้เยอะมาก ตอนผมโดนหลังพิงแนบชิด คอต้นคอติดที่พิงศรีษะเด๊ะเลย หลังจากชนก้อระบมหน้าอกราวๆ 2-3วัน หลายๆคหสต.ที่กล่าวๆกันไว้ ก้อคงต้องหวังในเรื่องของการบังคับใช้กฏหมาย การปฏิบัติตามกฏหมาย การใช้รถใช้ถนนอย่างไม่ประมาทและมีสติ การสร้างถนนทีคำนึงความปลอดภัย และอื่นๆคับ

ค่าเสียหาย คดีความ ตกลงกันยังไง อยากรู้

[CBC]

ในแง่เคยผ่านการใช้บริการถุงลมมาแล้ว [นั่งหน้าฝั่งซ้ายมือ] เป็นลักษณะเคสคล้ายๆกัน ของผมเกิดแถวๆหนองแค สระบุรี ไปกลับด้านละ 3เลน ถ้าไม่ผิด กำลังเดินทางกลับเข้าชลบุรีอยู่เลนกลาง โดยใช้รถฮอนด้าซีวิค ขวาสุดมี 6ล้อวิ่งกินลมอยู่ ซึ่งน่าจะบังสายตารถอีกฟากที่จะกลับรถมา พอวิ่งมาถึงจุดยูเทิร์น ปรากฏมีกะบะนิสสันช้างเหยียบ กลับรถมาแล้วมาตั้งลำอยู่ข่างหน้าพอดี วินาทีนั้นตกใจมากยังไม่ทันมีเสียงร้องหลุดมาจากลำคอ เสียงชนดังโครมพร้อมถุงลมระเบิดใส่เต็มหน้าอก วินาทีที่มุดตูดกะบะคิดว่าไม่รอด แล้วทั้งสองคันหมุนไปซักไถลไปหยุดอยู่เลนซ้าย พอรถหยุดขยับแขนขาได้หมด แต่ระบมหน้าอกสุดๆ มองไปในรถไม่มีใครอยู่ คนขับกับคนนั่งหลังลงไปก่อน เนื่องจากคิดว่าผมอยู่ในอาการช็อคแปร๊บนึง สติสตังค์ยังไม่เข้าที่ ไปมุดออกประตูคนขับ ฝั่งซ้ายเสางอเปิดไม่ออก ลงไปดูพบหน้ารถซิวิคมุดท้ายจนกะบะเพลาหลังหลุด เลยเสียบคากัน คนขับกะบะเปิดประตูวิ่งหายลงไปข้างทาง ดูสภาพคนขับหักด้านตัวเองหนีเอาช่วงซ้ายเข้าเต็มๆ [คนขับข้อมือมีรอยไหม้ต้นแขนทั้ง 2ข้างจากการะเบิดของถุงลมกลางพวงมาลัย] ตามที่อธิบายด้านบน นึกถึงที่บอกว่าอุบัติเหตุไม่ใช่เคราะห์กรรม แต่เกิดจากการกระทำ จากเคสของผมกับทีโพสต์ สภาพแวดล้อมใกล้เคียงกัน ในเวลาเสี้ยววินาที คงจะแก้สถานการ์ณคับขันได้ยาก ถึงยากมาก ถ้าเราใช้อุปกรณ์ความปลอดภัยเบื่้องต้น ซึ่งคือเข็มขัดนิรภัย ก้อคงอาจเหมือนผมที่ช่วยผ่อนหนักเป็นเบาได้ ก่อนเกิดอุบัติผมก้อคาดเป็นนิสัยตั่งแต่มีรถขับ ไปจ่ายกับข้าวระยะไม่ถึง
 2 โลก้อคาด ยิ่งเป็นเข็มขัดแบบดึงกลับด้วยนะช่วยได้เยอะมาก ตอนผมโดนหลังพิงแนบชิด คอต้นคอติดที่พิงศรีษะเด๊ะเลย หลังจากชนก้อระบมหน้าอกราวๆ 2-3วัน หลายๆคหสต.ที่กล่าวๆกันไว้ ก้อคงต้องหวังในเรื่องของการบังคับใช้กฏหมาย การปฏิบัติตามกฏหมาย การใช้รถใช้ถนนอย่างไม่ประมาทและมีสติ การสร้างถนนทีคำนึงความปลอดภัย และอื่นๆคับ

ค่าเสียหาย คดีความ ตกลงกันยังไง อยากรู้

ในส่วนค่าเสียหายและคดีความ [รถที่นั่งไปชนท้าย เป็นรถเช่าซื้อ มาใช้ในบริษัท] เท่าๆที่ทราบ ตัวแทนประกันของรถซีวิค ไปตามกับคู่กรณีกะบะช้างเหยียบ ซึ่งเหมือนทะเบียนขาด หาผู้ครอบครองไม่เจอ ที่เหลือไปยังไงต่อก้อไม่ทราบคับ รถซีวิคก้อฝั่งเจ้าของ ขอขายซากกับประกันไปคับ

[promt]

ในแง่เคยผ่านการใช้บริการถุงลมมาแล้ว [นั่งหน้าฝั่งซ้ายมือ] เป็นลักษณะเคสคล้ายๆกัน ของผมเกิดแถวๆหนองแค สระบุรี ไปกลับด้านละ 3เลน ถ้าไม่ผิด กำลังเดินทางกลับเข้าชลบุรีอยู่เลนกลาง โดยใช้รถฮอนด้าซีวิค ขวาสุดมี 6ล้อวิ่งกินลมอยู่ ซึ่งน่าจะบังสายตารถอีกฟากที่จะกลับรถมา พอวิ่งมาถึงจุดยูเทิร์น ปรากฏมีกะบะนิสสันช้างเหยียบ กลับรถมาแล้วมาตั้งลำอยู่ข่างหน้าพอดี วินาทีนั้นตกใจมากยังไม่ทันมีเสียงร้องหลุดมาจากลำคอ เสียงชนดังโครมพร้อมถุงลมระเบิดใส่เต็มหน้าอก วินาทีที่มุดตูดกะบะคิดว่าไม่รอด แล้วทั้งสองคันหมุนไปซักไถลไปหยุดอยู่เลนซ้าย พอรถหยุดขยับแขนขาได้หมด แต่ระบมหน้าอกสุดๆ มองไปในรถไม่มีใครอยู่ คนขับกับคนนั่งหลังลงไปก่อน เนื่องจากคิดว่าผมอยู่ในอาการช็อคแปร๊บนึง สติสตังค์ยังไม่เข้าที่ ไปมุดออกประตูคนขับ ฝั่งซ้ายเสางอเปิดไม่ออก ลงไปดูพบหน้ารถซิวิคมุดท้ายจนกะบะเพลาหลังหลุด เลยเสียบคากัน คนขับกะบะเปิดประตูวิ่งหายลงไปข้างทาง ดูสภาพคนขับหักด้านตัวเองหนีเอาช่วงซ้ายเข้าเต็มๆ [คนขับข้อมือมีรอยไหม้ต้นแขนทั้ง 2ข้างจากการะเบิดของถุงลมกลางพวงมาลัย] ตามที่อธิบายด้านบน นึกถึงที่บอกว่าอุบัติเหตุไม่ใช่เคราะห์กรรม แต่เกิดจากการกระทำ จากเคสของผมกับทีโพสต์ สภาพแวดล้อมใกล้เคียงกัน ในเวลาเสี้ยววินาที คงจะแก้สถานการ์ณคับขันได้ยาก ถึงยากมาก ถ้าเราใช้อุปกรณ์ความปลอดภัยเบื่้องต้น ซึ่งคือเข็มขัดนิรภัย ก้อคงอาจเหมือนผมที่ช่วยผ่อนหนักเป็นเบาได้ ก่อนเกิดอุบัติผมก้อคาดเป็นนิสัยตั่งแต่มีรถขับ ไปจ่ายกับข้าวระยะไม่ถึง
 2 โลก้อคาด ยิ่งเป็นเข็มขัดแบบดึงกลับด้วยนะช่วยได้เยอะมาก ตอนผมโดนหลังพิงแนบชิด คอต้นคอติดที่พิงศรีษะเด๊ะเลย หลังจากชนก้อระบมหน้าอกราวๆ 2-3วัน หลายๆคหสต.ที่กล่าวๆกันไว้ ก้อคงต้องหวังในเรื่องของการบังคับใช้กฏหมาย การปฏิบัติตามกฏหมาย การใช้รถใช้ถนนอย่างไม่ประมาทและมีสติ การสร้างถนนทีคำนึงความปลอดภัย และอื่นๆคับ

ค่าเสียหาย คดีความ ตกลงกันยังไง อยากรู้

ในส่วนค่าเสียหายและคดีความ [รถที่นั่งไปชนท้าย เป็นรถเช่าซื้อ มาใช้ในบริษัท] เท่าๆที่ทราบ ตัวแทนประกันของรถซีวิค ไปตามกับคู่กรณีกะบะช้างเหยียบ ซึ่งเหมือนทะเบียนขาด หาผู้ครอบครองไม่เจอ ที่เหลือไปยังไงต่อก้อไม่ทราบคับ รถซีวิคก้อฝั่งเจ้าของ ขอขายซากกับประกันไปคับ

ขอบคุณครับ