ผมควรทำยังไงดีครับ คุณพ่อผมเจอเซลล์ที่บริษัทตอบกลับมาอย่างนี้เรื่องรถ+GPSติดตาม

TheBestOrNothing

เรื่องมันมีอยู่ว่า คุณพ่อผมเป็นคนที่เป็นห่วงความปลอดภัย+อยากให้เซลล์ที่บริษัทขับรถดีๆ
โดยใน1-2ปีที่ผ่านคุณพ่อผมได้ทำการเปลี่ยนรถยนต์ให้กับเซลล์+การเงิน เป็นรถรุ่นใหม่ในตลาดทั้งหมด

มีตั้งแต่
Ford Focus 2.0TDCI(2010) 2คัน   + 1.8อีก1คัน (2011)  
Camry 2.4Q(2009)
Nissan Teana 2.0(2011)
Vigo Cab รถ service 2คัน
แล้วล่าสุดที่จะมาในเร็วๆนี้ (2เซลล์คนใหม่+1การเงิน) Ford Fiesta 5dr Ultimate 2คัน +Ford Ranger 3.2 อีก1 คัน

โดยค่าน้ำมัน+ค่าซ่อมของตัวรถ+ยาง บริษัทจะรับผิดชอบให้ทั้งหมด
เรื่องมันมีอยู่คือ คุณพ่อผมเริ่มสงสัยในตัวของเซลล์ 1-2 คน ที่ทำการเบิกค่าน้ำมันบ่อยครั้งมากๆ ที่ไม่สมเหตุสมผลกับระยะทางที่ควรใช้เดินทาง
รวมถึงใบสั่งที่ใช้ความเร็วเกินกำหนด ที่ส่งมาเก็บเงินที่บริษัท ค่อนข้างบ่อย

ผมจึงได้แนะนำกับคุณพ่อว่า เราควรที่จะติดเจ้าตัว GPS ติดตามเอาไว้ในรถของบริษัทที่ให้กับเซลล์ทุกๆคัน เพื่อทำการดูข้อมูลการเดินทางคร่าวๆ
เพราะเซลล์หลายๆคนต้องขับรถไปเหนืออยู่บ่อยๆ รวมถึงบางทีต้องจอดรถทิ้งไว้ที่สนามบินต่างจังหวัดนั้นๆ ประมาณ 4-5วัน ก็มีบ้าง
ผมจึงคิดว่าการติดเจ้าตัว GPS ติดตามนี่ ประเด็นหลักๆ ไม่ใช่จ่องจับผิดลูกน้องแต่เพียงฝ่ายเดียว
แต่เป็นการกันกรณีรถหาย หรือดูแลลูกน้องกรณีต้องไปต่างจังหวัดคนเดียว (เซลล์มีผู้หญิงด้วยครับ) ก็อะไรประมาณนั้น  

โดยคุณพ่อผมได้มีการแจ้งกับพนักงานให้รับรู้ รวมถึงให้ผมติดต่อ Supplier ในการติดตั้งตัว GPS ติดตามในเวลาเดียวกัน
โดยคุณพ่อผมแจ้งไว้เมื่อ 1-2อาทิตย์ที่แล้ว แต่ ณ เวลานั้นยังไม่มีใครแสดงอาการอะไรออกมา  
แต่แล้วในอาทิตย์นี้ได้มีการเข้าประชุมตามปกติของบริษัท  
ทางกลุ่มเซลล์หลายๆคนรวมถึง Sale Manager ได้รวมกลุ่มกัน แล้วชี้แจ้งข้อมูลมาค่อนข้างตรงๆประมาณว่า

"พวกผมคิดว่าการติดเครื่องติดตาม GPS มันจะเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ของพวกผมนะครับ  พวกผมไม่ต้องการนะครับ"

คุณพ่อผมถึงกับของขึ้นเลยละครับ  เมื่อเจอการชี้แจ้งเช่นนี้  โดยท้ายสุดแล้ว  
กลุ่มเซลล์ก็ได้ชี้แจงว่า"กลุ่มพวกผมจะพยายามคุมงบให้อยู่ให้ได้เองครับ ไม่ต้องเป็นกังวลหรอกครับ"

คุณพ่อผมจึงกลับบ้านมาบอกรายละเอียดให้ผมฟังอีกทีอะครับ
ผมเลยต้องคุยกับ Supplier ว่า Hold เรื่องไว้ก่อน ประมาณนั้นอะครับ

เลยอยากจะลองถามเพื่อนๆใน HLM รวมถึงสมาชิกบางท่านที่มีประสบการณ์เป็นเซลล์/เคยเป็น อะครับ  ว่า ผมควรทำเช่นไรดีครับ

ผมเลยเห็นใจคุณพ่อเหมือนกันครับ ที่ต้องมาติดใจกับเรื่องของพนักงานอะครับ

ขอบคุณครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 16, 2012, 21:40:38 โดย TheBestOrNothing »



drugprofile

รถแต่ละคัน หรูกว่ารถหน่วยงานผมอีก...  :D

ถ้าเป็นผม ผมก็คงแอบแว๊บ ไปรับสาว สักหน่อย  ;) เพราะขนาดรถหน่วยผม เป็นรถยึด คดียาเสพติด (โทรมๆ เก่าๆ บ้าง) ผมยังแอบแว๊บ เอาไปเที่ยวเลย 555+

มาตรการ เด็ดขาด นั้นแหละครับ ถ้าให้แนะนำ (เพราะท่านเป็นเจ้าของบริษัท) นิสัยคนไทย ส่วนมาก มักหาวิธีหลบหลีก ไม่จบสิ้น

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 16, 2012, 18:27:25 โดย drugprofile »



Schnitzel

ธรรมดาครับ ทุจริตแล้วคนรู้ทัน ก็ไม่อยากให้ใครมาจับตามอง ใครดีก็เลี้ยง ใครจัญไรก็ไม่ต้องเลี้ยงให้เสียข้าวสุก

แต่ผมเห็นด้วย 1000 เปอร์เซนต์ว่าควรติดตั้ง GPS กับรถทุกคัน รถบรรทุกเขาใช้กันเยอะแยะแล้ว

คนเราแน่จริง โปร่งใสจริงไม่ต้องกลัวการตรวจสอบ


เชือดไก้ให้ลิงดูสักตัว ผจก. เซลล์นั่นแหละตัวดีแทนที่จะทำตัวเป็นแบบอย่าง

บอกให้ไปหารายได้จากยอดขาย ไม่ใช่มาหาจาก mileage

แมร่ง คิดได้ไง ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล รถก็รถบริษัท เอาไม๊ ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล กับ จับได้ว่าทุจริตน่ะอันไหนจะไปก่อน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 16, 2012, 18:29:12 โดย Schnitzel »



osment

สำหรับผม รถทุกคันถือเป็นทรัพย์สินของบริษัทครับ ไม่ใช่ทรัพย์สินของพนักงาน
บางที่การที่เราเปิดฟรีให้กับพนักงานบริษัทมากเกินไป ก็จะทำให้เกิดความเคยชินกับพฤติกรรมของตนเอง
รถแต่ละคันก็เป็นรถอย่างดีที่บริษัทอื่นไม่มีให้ขับ น้ำมัน ค่าสิ้นเปลืองบริษัทก็ออกให้ ผมว่าแค่ให้รถดีๆขับ นี้มันก็ถือว่าให้มากแล้วครับ

ถ้าพวกเขาไม่ต้องการ คราวนี้ลองดัดนิสัยให้เอารถออกไปขับเฉพาะเรื่องงานเท่านั้น เรื่องส่วนตัวเอารถตัวเองไปขับ เอาให้ได้จิตสำนึกได้สะดุ้งบ้างก็ดีน่ะคับ

ผมว่าเอาความจริง เอาความรู้สึกที่คุณ Warit ต้องการจะสื่อ บอกไปกับพนักงานเลยครับ ผมเชื่อในวุฒิภาวะของคุณว่าคุณจะเอาอยู่ได้
เพราะลองอ่านที่คุณ Warit เขียนมา ผมว่าสิ่งที่คุณต้องการจะสื่อ ไม่ได้ร้ายแรงอะไรครับ ถ้าพวกเค้าไม่ได้ต้องการจะเอารถไปทำอะไรที่มันไม่ดี ผมว่าคงไม่เดือดร้อนกันหรอกคับ
การใช้อำนาจควบคุมคนมากๆ บางทีก็ต้องเด็ดขาดบ้างครับ



Sykes

เก็บข้อมูล ระยะทาง/น้ำมัน ของเซลส์ที่สงสัยเทียบกับเซลส์ปกติ
ถ้าผลออกมาแตกต่างมาก ก็เรียกพบส่วนตัว (ให้ฝ่ายงบประมาณคุยก็ได้) แล้วแสดงข้อมูล เพื่อเสนอให้ปรับพฤติกรรม และรับฟังคำแก้ต่างดูก่อนนะ
"The things you own, end up owning you" - Tyler Durden



osment

เก็บข้อมูล ระยะทาง/น้ำมัน ของเซลส์ที่สงสัยเทียบกับเซลส์ปกติ
ถ้าผลออกมาแตกต่างมาก ก็เรียกพบส่วนตัว (ให้ฝ่ายงบประมาณคุยก็ได้) แล้วแสดงข้อมูล เพื่อเสนอให้ปรับพฤติกรรม และรับฟังคำแก้ต่างดูก่อนนะ

เห็นด้วยครับ



Oslan

ผมว่ามันชัดเจนอยู่ แค่เด็ดขาดซักหน่อยครับ



Ome-WB

เท่าที่ติดตามอ่านมาตั้งแต่แรก ในการเลือกออกรถแต่ละคันให้เซลล์ ผมชอบบริษัทของคุณพ่อคุณมากครับ แลดูเอาใจใส่พนักงานดีมาก
จนผมอยากจะไปทำงานบริษัทคุณเลยทีเดียว  ;D

ในความคิดเห็นส่วนตัวของผม ผมว่า ทางเรามีแต่เจตนาดี และมันก็เป็นสิทธิ์ของเราครับ รถก็รถของบริษัท ทำไมจะติดตั้ง GPS ลงไปไม่ได้

ในเคสนี้ ถ้าเป็นผม ผมจะไม่ยอมอ่อนให้ครับ เพราะเมื่อมี 1 เดี๋ยวก็ต้องมี 2

ขอบคุณครับ  ;)



applebees

สิ่งที่น่ากังวลคือการที่กลุ่มพนักงานรวมตัวกันต่อต้านนั่นแหละครับ แต่ผมว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะบอกว่าละเมิดสิทธิครับ ไม่เช่นนั้นพวกรถบรรทุกคอนเทนเนอร์ หรืออื่นๆทั่วไปจะมี GPS ติดรถไว้เพื่ออะไรครับ เขาไม่ได้มีไว้ต้องการรู้ว่าพนักงานไปไหน อย่างไร ใดๆ แต่เขาติด GPS ไว้ที่รถเพื่อดูว่าการใช้งานรถนั้นไปที่ไหน สามารถ track ได้ เช่นอยู่ดีๆ วันทำงานก็ track เข้าไปดูเลยว่าคันนี้ไปตามจุดๆนี้ที่พูดไว้หรือไม่ เป็น random check ไปในตัวด้วยครับ และหากรถสูญหาย ถูกขโมย ก็เป็นอีกอุปกรณ์หนึ่งที่สามารถเอาไว้ใช้ได้ครับ แต่ที่ต้องกังวลคือหากติดตั้งเรียบร้อย ก็ต้องคอยดูแลให้ใช้งานได้สม่ำเสมอนะครับ ผมว่าในฐานะที่คุณเป็นเจ้า่ของบริษัท ซึ่งไม่ใช่แค่ผู้ดูแลบริษัท แต่ต้องคอยดูแลทั้งทรัพย์สิน และกิจการของบริษัทคุณครับ เรามีสิทธิอยู่แล้วครับ หากพนักงา่นไม่ตั้งใจโกง เราอธิบายเหตุผลให้เขารู้ว่าเพื่อความปลอดภัย เลี่ยงการบอกว่าเราอยากเช็คเรื่องค่าน้ำมัน ผมว่าเขามีสิทธิห้าม แต่ไม่มีสิทธิตัดสินใจนะครับ



methus zaa

ถ้าเปนผมๆจะไม่บอกกับพนักงานหรอกครับว่าจะติด Gps ผมว่าแอบติดอ่ะจะดี ไม่มีใครรู้ความเคลื่อนไหวตนเองด้วย มีแต่เราเท่านั้นที่รู้ เพราะถ้าบอกไปก็จะเป็นอย่างกรณีคุณพ่อพี่น่ะครับ แต่เมื่อเกิดขึ้นไปแล้ว ก็ดีครับ มันจะได้ไม่กล้าทำอะไร แต่สิ่งที่กลัวก็คือมันจะประท้วงน่ะสิครับ ทีนี้แหละเรื่องใหญ่เลย แล้วทีนี้ต้องมานั่งเคลียร์ยาวเลยทีเดียว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 16, 2012, 18:35:45 โดย Tan W204 »



AauN

วิธีที่ง่ายและเห็นใช้กันหลายบริษัทคือ ให้คู่มือการใช้รถกับพนักงาน แล้วให้จดรายละเอียดการใช้รถว่า เติมน้ำมันเท่าไหร่ ที่ไหน ขอบิลด้วย ตอนเติมเลขไมล์เท่าไหร่ ใช้รถไปไหนระยะทางกี่โลเมตร เวลาเท่าไหร่

แค่นี้ก็น่าจะเป็นการควบคุมการใช้รถได้ประมาณหนึ่งแล้วล่ะครับ เพราะการที่เราให้เค้าจดละเอียดขนาดนี้ เค้าจะตระหนักเองว่าบริษัทต้องมีการตรวจสอบการใช้รถแน่ เค้าจึงมักจะไม่นำรถไปใช้นอกเส้นทาง หรือนำไปใช้ส่วนตัว



NgoH

ให้ค่าน้ำมันเป็นเดือนครับ
ตามราคาความเป็นไปได้



Satanic za'

ตาม คห ด้านบนๆเลยครับ

ส่วนเรื่องละเมิดส่วนตัว ผมว่าไม่นะครับ อย่างรถที่ใช้ขนส่งของต่างๆอย่างพวกรถบรรทุกก็มีติดเยอะแยะไปครับ ทั้ง GPS ทั้งเครื่องควบคุมความเร็ว

ผมว่างานนี้ต้องเลือก 2 อย่าง ระหว่าง กดค่าใช้จ่ายให้ต่ำลงมา หรือ ให้จดสถานที่ที่ไปอย่างละเอียด (อย่างเวลา vender มาหาผมที่โรงงาน เค้าก็จะมีสมุดเล่มนึงมาให้ผมเซ็น เพื่อเช็คว่าเค้ามาหาเราจริงครับ)

หรืออีกอย่างนึงคือ ไม่ต้องสนใจ ติดไปเลย



toonnazaone

มันจะเรียกว่าละเมืดได้ไงรถ+น้ำมัน+การดูแลมันเป็นของเราคุณเป็นพนักงานมีหน้าที่ทำตามทำไม่ได้ก็หางานใหม่ บ.พ่อผมก็มำแบบนี้แต่ขอผมมันรถหัว
ลาก หรือไม่ก็ติดแบบไม่รู้ตัวผมทำอยู่โดยการเรียกรถกับมาและให้หยุดงาน2วันและส่งรถไปทำข้างนอก บ. รองทำดูครับ



Schnitzel

การจด log sheet อย่างละเอียดนั้นเป็นการเพิ่มภาระให้มากขึ้นไปอีก ไม่มีใครอยากมานั่งจดหรอก ต่อให้จดมา เราก็เชื่อถือไม่ได้
ให้ควบคุมตามระยะทางที่เหมาะสมดีกว่าครับ รู้ๆกันอยู่ว่าลูกค้าอยู่ไหน ใกลเท่าไหร่



raytum03

   เห็นควรที่จะติดครับ  เขาออกแบบมาเพื่อการนี้ด้วยครับ

   เช่นที่ติดข้างรถหลวง  ว่าใช้ในราชการเท่านั้น

   ผมรู้จักคนทำงานเอกชนหลายคนเห็นขับรถบริษัทไปธุระส่วนตัวประจำ  เจอบ่อยๆไปหาพ่อ แม่ต่างจังหวัด  ผมถามไม่รุ้สึกอะไรเหรอ  ใช้รถเขาแถมเอาบิลไปเบิกนำ้มันเขาอีกกับธุระส่วนตัว  เขาบอกก็ทำกันอย่างนี้ทั้งนั้น  

   ดุแล้วเหมือนกันทั้งราชการ และ เอกชน เลย  ....



NgoH

เซลมาใหม่นำร่องไปก่อนครับ
ติด GPS หรือให้ ค่าน้ำมันเป็นเดือน
แล้วคนเก่าไม่ยอมรับข้อเสนอ คนไหนโกงมาก เชือดก่อน มันจำเป็นต้องลดค่าใช้จ่าย พนักงานทุกคนต้องยอมรับอยู่แล้ว ถ้ารักบริษัทจริง มันรถของบริษัท จะเมิดได้ไง ให้รถดีดีขับเคยตัวมาก พ่อของคุณไม่แข็งด้วยซิ พนักเลยได้ใจ





Schnitzel

คล้ายๆ กะบริษัทที่ผมทำงานเลย เซลล์ในบริษัทผมมีเยอะมาก แต่ไม่มีปัญหานีเลย..เพราะ

บริษัทไม่มีรถให้เซลล์เลย....แม้แต่คันเดียว

เซลล์ทุกคนต้องใช้รถส่วนตัว..และบริษัทให้ค่าใช้จ่ายเป็นกิโลเมตร เช่น x.xx บาท / กม.

แต่ละเดือนวิ่งไปเท่าไหร่ก็ไปทำเบิกมาเอง...แต่อย่าคิดว่าจะตุกติกง่ายนะ...ให้ตามความเหมาะสมครับเขาเช็ค google earth อยู่ใครเสนอตัวเลขมาไม่สมเหตุสมผลต้องชี้แจงให้ได้นะ

และให้เฉพาะการขับรถไปหาติดต่อลูกค้าเท่านั้น วิ่งมาออฟฟิสไม่เกี่ยวเบิกไม่ได้ และใครวิ่งมากๆ แต่ผลงานไม่ออกยอดไม่ได้ก็ ส่อเจตนาอยู่

วิธีนี้ลดค่าใช้จ่ายแฝงได้เยอะครับ อยู่หมัดทีเดียวแหละ

ไม่ต้องเปลืองค่าน้ำมัน ค่าซ่อมบำรุง ค่าประกัน ภาษี อุบัติเหตุ ค่าปรับ...เพราะแต่ละคนใช้รถเอง ใครจะอยากทำแบบนั้น



Fly to dream

เรื่องใบสั่งปกติครับเพราะคิดว่าใช้ความเร็วในการเดินทางนั้นธรรมดา แต่เรื่องไม่ปกติคือเบิกค่าน้ำมันครับแค่นั้นที่ส่งผลต่อเรื่องความไว้วางใจ
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย



AauN

การจด log sheet อย่างละเอียดนั้นเป็นการเพิ่มภาระให้มากขึ้นไปอีก ไม่มีใครอยากมานั่งจดหรอก ต่อให้จดมา เราก็เชื่อถือไม่ได้
ให้ควบคุมตามระยะทางที่เหมาะสมดีกว่าครับ รู้ๆกันอยู่ว่าลูกค้าอยู่ไหน ใกลเท่าไหร่
ไม่ได้เป็นภาระเลยครับ แค่ก่อนออกรถบันทึกเลขไมล์กับเวลาไว้ พอไปถึงจุดหมายก็จดเลขไมล์และเวลา เติมน้ำมันก็จดเลขไมล์กับขอบิลไว้ การทำงานที่ต้องใช้รถก็ทำแบบนี้เป็นเรื่องปกติ เพราะรถไม่ใช่รถส่วนตัวของเรา เป็นรถบริษัท มันไม่ได้เสียเวลามาก ไม่ถึงหนึ่งนาทีด้วยซ้ำครับ ทำเพื่อให้พนักงานได้ตระหนักไงครับ ว่ามีการตรวจสอบการใช้รถ

เพราะสิ่งที่บันทึกมันต้องสอดคล้องกับภารกิจที่บริษัทมอบหมาย การเมคขึ้นมาอาจมี แต่มีน้อย เพราะต้องบันทึกให้สอดคล้องกับธุระที่จะไป



Entropy

บอกไปเลยว่าเราไม่ได้ติดตามคุณ แต่เราติดตามรถของเรา ไปจอดที่ไหน ใครขโมยไป ใครรับผิดชอบบบบ ห๊าาา ฮ่าๆ



pladaek

บริษัทเก่าผมทุกคันติด GPS หมดครับ..
แล้วแผนกผมก็เป็นแผนกที่คอยมอนิเตอร์รถทุกคันด้วยครับ..

ส่วนตัวผมคิดว่า เหตุผลที่บอกว่า "มันจะเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล" มันดูไม่หนักแน่นพอที่จะไม่ให้ติดน่ะครับ
เพราะรถก็เป็นรถของบริษัทเรา เราก็มีสิทธิ์ที่จะตรวจสอบทรัพย์สินที่เป็นของเราได้..
และถ้าออกต่างจังหวัด ช่วงหลังเลิกงานก็ไม่มีใครคอยมอนิเตอร์หลังตอนเย็นไปแล้วครับ..

ถ้าเป็นผม ผมคิดว่าต้องติดครับ..
ไม่ได้ขับรถเพื่อทำเวลาที่ดีที่สุด.. แต่ขับรถเพื่อเจอช่วงเวลาที่ดีที่สุด..



Schnitzel

การจด log sheet อย่างละเอียดนั้นเป็นการเพิ่มภาระให้มากขึ้นไปอีก ไม่มีใครอยากมานั่งจดหรอก ต่อให้จดมา เราก็เชื่อถือไม่ได้
ให้ควบคุมตามระยะทางที่เหมาะสมดีกว่าครับ รู้ๆกันอยู่ว่าลูกค้าอยู่ไหน ใกลเท่าไหร่
ไม่ได้เป็นภาระเลยครับ แค่ก่อนออกรถบันทึกเลขไมล์กับเวลาไว้ พอไปถึงจุดหมายก็จดเลขไมล์และเวลา เติมน้ำมันก็จดเลขไมล์กับขอบิลไว้ การทำงานที่ต้องใช้รถก็ทำแบบนี้เป็นเรื่องปกติ เพราะรถไม่ใช่รถส่วนตัวของเรา เป็นรถบริษัท มันไม่ได้เสียเวลามาก ไม่ถึงหนึ่งนาทีด้วยซ้ำครับ ทำเพื่อให้พนักงานได้ตระหนักไงครับ ว่ามีการตรวจสอบการใช้รถ

เพราะสิ่งที่บันทึกมันต้องสอดคล้องกับภารกิจที่บริษัทมอบหมาย การเมคขึ้นมาอาจมี แต่มีน้อย เพราะต้องบันทึกให้สอดคล้องกับธุระที่จะไป

โทษทีครับผมคิดลึกไปนิดหนึ่ง จริงๆตอนนี้ที่บริษัทก็ใช้แค่วิธีนี้ เพียงแต่ไม่ได้จด กม. เริ่มเดินทางและ กลับบริษัท
จดแค่วิ่งไปกลับกี่กิโลเท่านั้น

เช่น บริษัทให้ กม.ละ 7 บาท วิ่งไป-กลับ สระบุรี ราว 200 กม. ก็เบิก 200 x 7.00 = 1400 บาท

แต่ไม่จด ว่าเริ่มที่เลข กม.ที่ xxxx ถึง กม.ที่  xxxx กม. ตามหน้าปัทม์ เราจดกันเฉพาะว่า จำนวน กม. ที่วิ่งไปนั้นเท่าไหร่ บางทีเส้นทางที่เคยไปแล้วเราก็ไม่จดเบิกได้เลย
เพราะบริษัทไม่ได้มาตรวจสอบ กม. ตามหน้าปัทม์



NineKlao

ผมว่า รถบริษัทคุณ คุณมีสิทธิติดครับ

ถ้าไม่อยากติดก็ให้ใช้รถของพนักงานเองครับ

แฟนผมก็ใช้รถเอง เติมน้ำมัน เบิกบริษัทได้ เติมแก้สเบิกไม่ได้ แต่ถ้าใช้น้ำมันอย่างเดียว ก็ตายครับ เดือนไม่ต่ำกว่า 20,000 ได้

แต่ค่าน้ำมันบริษัทให้แค่ 10,000 เอง ฉะนั้น จึงต้องซิกเติมแก้สแล้วเอาบิลน้ำมันเบิกแทนซึ่งก็ เบิกไม่เต็มที่บริษัทให้มาอยู่ดี

อ่อ ค่าทางด่วน ทางพิเศษ ค่าจอดรถบริษัทแฟนก็เบิกไม่ได้  ด้วยครับ

เห็นของบริษัทนี้แล้ว น่าทำงานมากครับ



FyGI

ไม่งั้นก็ต้องใช้วิธีการบันทึกเลขไมล์เอาครับ

โดยให้ฝ่ายบัญชี เป็นคนจัดการ

คำนวณคร่าวๆ ค่าใช้จ่าย/กิโลเมตร

มันสามารถยันกันได้ ครับ



DArkMaster

รถเป็นทรัพย์สินของบริษัทครับ ดังนั้นบริษัทสามารถจะทำอะไรกับรถก็ได้ กรณีที่ติดบริษัทคุณอยากติดGPSแล้วพนักงานอ้างว่าละเมิดสิทธิส่วนบุคคลนั้นผมว่าเป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้นเพราะทางบริษัทไม่ได้นำGPSติดตัวไปกับเซลล์ทุกที่ทุกเวลาสักหน่อย ไม่ถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลครับ ถือว่าเป็นการทำไปเพื่อรักษาสมบัติและผลประโยชน์ของบริษัทครับ ถ้าเค้ากระเหี้ยนกระหือรือมากนักก็ต้องมีการเชือดไก่ให้ลิงดูสักหน่อย ;D



udis

ไม่มีความซื่อสัตย์เอาเสียเลยครับ ตั้งแต่ลูกน้องยันผู้จัดการ ทุจริตแล้วมีหน้ามาแถ สุดๆครับ
บริษัทท่าน ถ้าผมเป็นลูกค้า ผมคงไม่เชื่อถือครับ ขายอะไรจะโกงอีกเท่าไหร่ครับ

ขอบ่นล่ะกันครับ ในแง่การบริหาร ถ้าอยากเอาคนพวกนี้ไว้ งานไม่สะดุดก็คงต้องยอมไปครับ
แต่ถ้าไม่ไหวล่ะกับการกระทำ ก็คงต้องเรียกคุยไปรายบุคคลครับ

เพราะเหตุผลที่พูดมา ฟังไม่ขึ้นน่ะครับ
 :'( :'( :'(



GreenG

สวัสดิการที่ให้มาสุดยอดมากครับ  :D

บริษัทเก่าผมหารถเองแต่ให้ค่าน้ำมัน มือถือ และประกัน

เอง

ถ้าไม่ไหวจริงๆ และคิดว่าเราคุมได้ ก็หาทีมขายใหม่ได้ครับ
มีคนอยากทำงานขายอีกมาก แต่ไม่มีโอกาสได้ทำครับ




kimmeng21

ถ้าเป็นผม

ผมติดสติกเกอร์บริษัทรอบคันเลยคับ

ให้คนอื่นเค้ารู้ไปว่าบริษัทเราใช้รถดีขนาดไหน?

ประมาณนี้คับ (เป็นชื่อบริษัทเรา)


บ้างครั้งการให้รถดีเกินไปพนักงานก็อาจจะเอาไปขับอวดคนอื่น ขับไปนู่นไปนี่ว่าเป็นรถตัวเองก็ได้คับ

เช่นไปรับสาว ไป ฯลฯ มันทำให้พนักงานติดนิสัยคับ

เราติดชื่อบริษัทเราไว้เวลาขับไปไหน เค้าก็ยังรู้ตัวบ้างว่ารถของบริษัท ไม่ใช่รถของตัวเค้าเอง

เวลาหายก็ติดตามง่ายด้วยคับ  ถ้าเค้าไม่ยอมให้ติดสติกเกอร์บริษัทให้รู้ไป

ยิ่ง Camry 2.4Q(2010)
Nissan Teana 2.0(2011) นี่  :D

 

"โอกาส มันก็เหมือนสายน้ำ ที่ไหลผ่านมา แล้วก็ผ่านไป ถ้าคุณไม่ตักตวงมันไว้ สายน้ำมันก็จะไม่ไหลย้อนกลับ"



Niceguy_C

แนะนำว่า ต้องติดเพื่อความปลอดภัยครับ

ส่วนเรื่องสิทธิส่วนบุคคล ก็บอกว่า ถ้ายังงั้นก็ให้ใช้รถตัวเอง เบิกได้แต่ค่าน้ำมัน