ผู้เขียน หัวข้อ: ขับรถแบบไหนถึงจะเรียกว่าเกินตัวครับ (แบบนี้ถือว่าเกินตัวหรือเปล่า)  (อ่าน 14092 ครั้ง)

ออฟไลน์ JeansZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,239
    • อีเมล์
ตอนนี้ผมขับ Ford Fiesta ecoboost มาได้ครบ 1 ปีแล้วครับ โดยซื้อในราคาแรกๆ (779,000) ให้พ่อดาวน์รถให้ 25% ครับ ผมผ่อนต่อเอง บางเดือนพ่อก็ช่วยผ่อน แต่ระหว่างที่ใช้มามีกระแสความไม่เห็นด้วยจากญาติพี่น้องหลายคนครับ หลังจากที่ขับได้ไม่นานก็เพิ่งไปรู้ว่า เงินที่พ่อนำมาดาวน์รถให้ และเงินที่ส่งผมเรียน ส่วนใหญ่เป็นเงินที่ยืมมาจากญาติๆ ทำให้ญาติหลายคนไม่เห็นด้วย ส่วนแม่ผมเองก็พูดคำนี้บ่อยมากครับ ว่าขับรถก็เหมือนอวดรวย แต่ผมไม่ได้คิดเรื่องนี้ครับ เพราะคิดว่ารถผมมีไว้ใช้เป็นพาหนะในการเดินทาง ไม่ได้เป็นเครื่องแสดงฐานะอะไรเลย แล้วไม่ใช่รถแบรนด์ premium ด้วย จนกระทั่งเมื่อวานนี้มีเพื่อนผมมาทักว่า "พ่อยังนั่งรถเมล์ไปทำงานอยู่เลย แล้วทำไมพ่อซื้อรถให้ลูกขับอ่ะ" ทำให้ผมเริ่มคิดเรื่องนี้หนักมากขึ้นครับ เพราะเหมือนโดนเหยียด เลยมาถามสมาชิกในนี้ครับว่า รถที่ผมขับนี่ถือว่าเกินตัวไหมครับ

รายได้ครอบครัวต่อเดือน
พ่อ = 25,000
ผม = 17,500
แม่ (ไม่ได้ประกอบอาชีพ)
รวม 42,500 บาท

ค่าผ่อนรถ = 13,400
จริงๆ แล้วต้องการผ่อน 72-84 งวดครับ แต่เนื่องจากเหตุผลบางอย่างแล้วไฟแนนซ์ไม่ยอม เลยต้องผ่อน 48 งวด

ปล. เล่นเอาโครงการที่จะซื้อ Ford Focus Ecoboost หลังจากผ่อนเสร็จ เป็นอันต้องล้มเลิกไปเลยครับ เพราะผ่อนเสร็จแล้วต้องมาช่วยพ่อใช้หนี้และผ่อนบ้าน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 21, 2015, 09:58:50 โดย JeansZ »
Ford Fiesta 1.0 Ecoboost
Toyota Yaris 1.2

ออฟไลน์ Yangyang

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 465
ตอบยากครับ คำว่าเกินตัวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
1. เงินเดือน 100,000 แฟนเป็นแม่บ้านไม่มีรายได้ ลูก 3 รายจ่ายเดือนละ 80,000 ขับ camry ผ่อนเดือนละ 20,000 ก็อาจตีความได้ว่าเกินตัว
2. อีกคนรายได้ 50,000 โสด ไม่มีรายจ่ายอะไรมาก ขับ camry เหมือนกัน ก็อาจจะไม่เกินตัว

ต้องลองประเมินเองครับว่ารถช่วยให้เราเดินทางสะดวกขึ้น แต่ทำให้ชีวิตอีกด้านลำบากหรือไม่ คุ้มกันหรือไม่

ออฟไลน์ Jeeple

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 89
    • อีเมล์
ถ้าคุณยังไม่ซื้อรถผมจะแนะนำว่าอย่าเพิ่งซื้อหรือถ้าจะซื้ออีโคคาร์น่าจะพอ
แต่ซื้อไปแล้วดังที่แจ้งมาถามว่าเกินตัวไปมั้ย ผมว่าเกินครับ
เพราะรายได้ทั้งหมดที่กล่าวมาผมว่าตึงไปครับสำหรับคนสามคน (คหสต)ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 20, 2015, 15:34:14 โดย Jeeple »

ออฟไลน์ Pon76

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 162
ซื้อมาแล้ว ด้วยความเห็นชอบของพ่อ ผมว่าok นะ ขอให้รักพ่อมากๆ ดูแลและคอยบริการรับส่ง ถือเป็นรถครอบครัว
ก็ok      ส่วนโครงการใหม่ หลังผ่อนเสร็จ ถ้าไม่มีเหตุผลอื่น ไม่เห็นด้วยอย่างแรง เก็บเงินสดให้มากนะครับช่วงนี้

ออฟไลน์ ^Yimm@^

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,132
กรณีนี้ผมมองว่าเกินตัวนะ ผ่อนรถเดือนละ13,400บาท หลังจากหักเงินเดือนคุณจะเหลือ4,100บาท
แล้วเติมน้ำมันตีสักสัปดาห์ละ 500x4=2,000 คุณจะเหลือไว้ใช้ส่วนตัว 2,000บาท นี่ผมตีค่าน้ำมันถูกเว่อๆเลยนะครับ
ไหนจะค่าทางด่วน เตรียมตังไว้ดูแลมันอีก
เพราะฉนั้นยังไงผมว่าคุณก็ต้องให้คุณพ่อช่วยบ่อยๆแน่นอน แต่ซื้อมาแล้ว ก็สู้ๆครับ

*เกินไม่เกินตัวอาจต้องดูด้วยว่าทางบ้านคุณมีเงินออมเท่าไรครับ

ออฟไลน์ -nu-

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 168
ตอนนี้ผมขับ Ford Fiesta ecoboost มาได้ครบ 1 ปีแล้วครับ โดยซื้อในราคาแรกๆ (779,000) ให้พ่อดาวน์รถให้ 25% ครับ ผมผ่อนต่อเอง บางเดือนพ่อก็ช่วยผ่อน แต่ระหว่างที่ใช้มามีกระแสความไม่เห็นด้วยจากญาติพี่น้องหลายคนครับ หลังจากที่ขับได้ไม่นานก็เพิ่งไปรู้ว่า เงินที่พ่อนำมาดาวน์รถให้ และเงินที่ส่งผมเรียน ส่วนใหญ่เป็นเงินที่ยืมมาจากญาติๆ ทำให้ญาติหลายคนไม่เห็นด้วย ส่วนแม่ผมเองก็พูดคำนี้บ่อยมากครับ ว่าขับรถก็เหมือนอวดรวย แต่ผมไม่ได้คิดเรื่องนี้ครับ เพราะคิดว่ารถผมมีไว้ใช้เป็นพาหนะในการเดินทาง ไม่ได้เป็นเครื่องแสดงฐานะอะไรเลย แล้วไม่ใช่รถแบรนด์ premium ด้วย จนกระทั่งเมื่อวานนี้มีเพื่อนผมมาทักว่า "พ่อยังนั่งรถเมล์ไปทำงานอยู่เลย แล้วทำไมพ่อซื้อรถให้ลูกขับอ่ะ" ทำให้ผมเริ่มคิดเรื่องนี้หนักมากขึ้นครับ เพราะเหมือนโดนเหยียด เลยมาถามสมาชิกในนี้ครับว่า รถที่ผมขับนี่ถือว่าเกินตัวไหมครับ

รายได้ครอบครัวต่อเดือน
พ่อ = 25,000
ผม = 17,500
แม่ (ไม่ได้ประกอบอาชีพ)
รวม 42,500 บาท

ค่าผ่อนรถ = 13,400

ปล. เล่นเอาโครงการที่จะซื้อ Ford Focus Ecoboost หลังจากผ่อนเสร็จ เป็นอันต้องล้มเลิกไปเลยครับ เพราะผ่อนเสร็จแล้วต้องมาช่วยพ่อใช้หนี้และผ่อนบ้าน

สรุปคือ เงินดาวน์คุณเองก็ไม่มี  เงินจะผ่อนแต่ละเดือนก็ไม่พอต้องให้พ่อช่วย
ผมเดาเลยว่าคุณยังอาศัยอยู่กับพ่อแม่ มีค่าใช้จ่ายแค่ส่วนตัวกับรถ ค่าใช้จ่ายทุกอย่างในบ้านพ่อคุณออก

เงินดาวน์ที่พ่อช่วยก็ยืมมาจากญาติ เงินที่ส่งคุณเรียนก็ยังต้องยืมมาจากญาติ

ขนาดนี้ยังต้องถามอีกหรือครับว่าเกินตัวหรือเปล่า

ผมว่าคุณควรตั้งสติในการใช้เงินให้มากๆนะ อย่างวิธีเลือกรถถ้าคุณคิดว่ารถเป็นยานพาหนะเพื่อใช้งานจริงๆอะนะ  ecocar ราคาถูกกว่ามีเยอะแยะหลายรุ่น ทำไมไปเลือก Fiesta ecoboost ซึ่งแพงสุดในกลุ่ม a-b segment ผ่อนยังไม่ทันไรชักหน้าไม่ถึงหลังวางแผนจะเอาคันแพงกว่าอีกแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 20, 2015, 08:26:13 โดย -nu- »

ออฟไลน์ rega

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 388
หาจุดร่วมก่อนครับ

หากทำแล้วไม่เดือดร้อนใครหรือเบียดเบียนใคร อันนี้สมควร

เรื่องราวเล่านี้เป็นพื้นที่สีเทา ไม่มีถูกผิดครับ

หลายเรื่องราวเป็นเรื่องใหม่ไม่คุ้นชิน ถือเป็นประสพการณ์ครับ

ขอให้มีความสุขกับปัจจุบันครับ
มีเงาไม่มีตน

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,732
  • Nine & Knight
ในเมื่อมาขอความเห็นก็ให้ความเห็นกันไปอย่าว่ากันนะครับโดยอิงพื้นฐานจากข้อมูลที่คุณให้มาเท่านี้

ผมมองว่าเกินตัวครับ ทางบ้านส่งเสียให้เรียนจบก็น่าจะเพียงพอแล้วทำงานหาเงินได้เองก็ไม่ควรจะรบกวนทางบ้านอีกโดยเฉพาะยิ่งทางบ้านไม่ค่อยมีฐานะอะไร (คุณพ่อเงินเดือน 25,000 คุณแม่ไม่มีรายได้ ผ่อนบ้าน) แม้แต่เงินดาวน์ยังต้องหยิบยืมญาติๆอีกถ้าไม่ได้ยืมเค้าก็ไม่จำเป็นต้องฟังอะไร (ถ้าผมเป็นญาติผมไม่ให้ยืมไปดาวน์รถ ส่วนเรื่องยืมเพื่อส่งลูกเรียนผมให้ยืม) ส่วนเรื่องคุณพ่อนั่งรถเมล์อันนี้ไม่มีความเห็นเพราะอาจสะดวกกว่ารถส่วนตัวก็ได้

ถ้ายังไม่ซื้อรถผมคงแนะนำให้เอา Eco Car ก็พอเงินดาวน์ก็ไม่แพงนักเก็บไม่กี่เดือนก็ได้แล้ว งวดรถก็ไม่สูงนักผ่อนได้สบายๆไม่ต้องรบกวนทางบ้านอะไรเลยแต่นี่ซื้อมาแล้วก็ต้องเดินหน้าต่อไป อย่าให้ขาดส่ง ดูแลรถให้ดีอย่าให้มันพัง ขับรถดีๆอย่าให้ไปชนอะไรเพราะตอนนี้ไม่มีอะไรดีไปกว่าเอาตัวรอดให้ได้แล้วละ


ป.ล. เป็นเพียงความเห็นของคนนอกคนนึงเท่านั้นนะครับ ซึ่งความจริงพ่อคุณคงยินดีที่ทำอะไรให้คุณ ดังนั้นคุณความตอบแทนท่านด้วยการตั้งใจทำงาน ตั้งตัวให้ได้ มีโอกาสก็พาไปเที่ยว ให้ท่านได้ภูมิใจในตัวคุณก็เพียงพอแล้วหละ
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

ออฟไลน์ Pasakorndvm

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,310
ไม่ครับ

เกินตัวคือ มีรถคนละ 2 คัน เพราะจะเกินตัวไป 1 คัน
'19 Honda Civic EL

ออฟไลน์ Nikle_pk

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,678
รักพ่อให้มากๆนะครับ
My Review !!! New Vellfire 2.5ZG Edition !!!
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=44242.0

ออฟไลน์ SETTHASART

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,306
  • รักชาติ ไม่คลั่งชาติ
ถ้าผมมีเงินเดือน 1.7 หมื่น ผมไม่กล้าผ่อนรถเดือนละ 1.3 หมื่นครับ
ถ้าจำเป็นต้องใช้รถจริงๆ ผมอาจหาเอายาริสรุ่นล่างๆราคาราว 470k คันนึงพอ
อันนี้ คหสต ในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้แล้วน่ะครับ

ออฟไลน์ taweek

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 223
    • อีเมล์
ที่บ้านมีรถใช้คันเดียว ไม่เกินตัวครับ

พ่อนั่งรถเมล์ บางครั้งท่านก็พอใจ จุดนั้น

ที่สำคัญ พาท่านนั่งรถไปเที่ยว หรือ ธุระ บ้างครับ

ออฟไลน์ lufy

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 256
    • อีเมล์
เกินตัวครับ ผมเห็นทฤษฎีในเว็บนี้ล่ะครับ  บอกว่าควรผ่อนรถไม่เกิน 30 % ของรายได้หรือมากกว่านั้นนะผมไม่ค่อยจำตัวเลข เพราะเงินที่เหลืออย่างที่ท่านอื่นว่า ค่าน้ำมัน ทางด่วน ค่าดูแลบำรุงรักษา  ค่าประกัน ไหนจะค่าใช้จ่ายส่วนตัว เงินเก็บ ถ้าเงินเดือน 17500 ที่บอกว่ารายได้รวม 42000 ไม่ควรเอาของพ่อมารวมนะครับ ต้องดูว่าเราไหวแค่ไหน ถ้ารายได้ที่เหมาะกับ จขกท ผมว่าน่าจะเป็นพวกอีโคคาผ่อนซักเดือนละ 4000-6000 เพราะดูแล้วบางเดือนยังต้องกวนคุณพ่ออยู่ ต่อให้เป็นรถของครอบครัว มันก็ต้องตามอัตภาพครับ วันข้างหน้าเงินเดือนมากขึ้นจะขยับขยายมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

ออฟไลน์ hayabusa

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 80
ถ้าเอาภาพที่คนอื่นมอง เกินตัวครับ รายได้ของคุณแทบๆพอๆกับค่าผ่อนรถเลย

แต่ถ้ามองในอีกแง่ ซึ่งผมมองคือ มีรถไว้สำหรับเป็นรถของที่บ้าน 1 คันไว้ใช้ยามฉุกเฉิน พาครอบครัวไปเที่ยว ออกต่างจังหวัด เดินทางไกลโดยที่ไม่ต้องใช้บริการรถทัวร์ แต่ในขณะที่คุณพ่อยังต้องนั่งรถเมล์ เพราะอะไร ตรงนี้คุณน่าจะเข้าใจดี รายละเอียดที่ให้มาไม่ครบเลยไม่อยากคิดเผื่อครับ

สรุป ต่างมุมมองของแต่ละคนครับ ไม่ต้องไปสนใจเรื่องที่คนอื่นเขาพูดๆกันหรอก ผมคิดว่าอีกไม่นานคุณคงมีรายได้เพิ่มขึ้นโดยที่สามารถแบกรับภาระตรงนี้คนเดียวได้

ออฟไลน์ nuntapon.s

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,910
    • อีเมล์
ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องเกินตัวไม่เกินตัวหรอกครับ   แต่มันผิดหลักการการผ่อนตั้งแต่ไปยืมเงินคนอื่นมาดาว์นรถแล้ว  ญาติพี่น้องไม่พอใจก็ไม่แปลก

ถ้าถือว่าเป็นรถสำหรับครอบครัว เพื่อความสะดวกสบายของครอบครัวก็ใช้ไปเถอะครับ  ซื้อมาแล้วถอยไม่ได้แล้ว

ออฟไลน์ nl2br

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,019
    • ร้านค้าออนไลน์
มาขอความคิดเห็นก็จัดให้ครับ สำหรับผมคือเกินตัว ค่ารถ 13.xxx ค่าน้ำมัน ผมว่าอย่างต่ำๆก็เดือนละ 2500-3000 บาท
เงินเดือน 17.xxx เหลือเงินใช้กี่บาท แน่ๆ พ่อก็ต้องช่วยอยู่แล้ว คุณบอกว่าพ่อต้องผ่อนบ้านด้วย พ่อเงินเดือน 25.xxx ผ่อนบ้านเท่าไหร่ครับ
เดาๆก็สัก 10.xxx เหลือเงิน 15.xxx ในการใช้จ่ายของคน 3 คน ผมว่าฝืดสุดๆเลยแหละ
ไหนหนี้ที่ต้องจ่ายจากการไปยืมมาดาวน์รถอีก เป็นผมคงมองแค่ ecocar เท่านั้นแหละ ผ่อนเดือนละ 6-7000 กำลังดี
แต่ไหนๆก็ซื้อมันมาแล้ว จะขายไปออกอีโคคาร์ก็คงราคาตกสุดๆ เพราะตอนนี้ ecoboost ก็ลดเป็นแสนแล้ว
ฉะนั้นคุณต้องหาทางเพิ่มเงินเดือนของคุณเอง หารายได้เสริม อย่างน้อยเดือนละ 4-5000 ครับ
พอผ่อนเสร็จก็หยุดโครงการ focus ไว้เลยครับ รถมันเป็นสิ่งฟุ่มเฟือย เก็บเงินช่วยพ่อผ่อนบ้าน จ่ายหนี้ให้หมดก่อน
หรือรอให้คุณมีเงินเดือนเป็น 2 เท่าของตอนนี้ก่อน ค่อยว่ากันครับ
บล็อกข่าวไอทีกากๆ >> https://thaimobiletricks.blogspot.com/ << ข่าวมือถือ มือถือรุ่นใหม่

ออฟไลน์ Eddy5659

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,619
ต้องขออภัยหากผมพูดตรงไปนะครับ

เป็นบทเรียนครั้งสำคัญในชีวิตเลยนะครับ เก็บไว้คอยย้ำเตือนตัวเอง การมีรถในครอบครองมันคงไม่ใช่แค่รายรับพอผ่อนรายเดือนไหม แต่มันยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆอีกมากมาย ค่าน้ำมัน ค่าซ่อมบำรุง ค่าภาษี ค่าประกัน

ขับแบบไหนถึงจะเกินตัว ตอบตามตรงก็แบบเจ้าของกระทู้นี่แหละ เกินตัวไปมากเลยครับ
รายรับทั้งครอบครัว 42,500 บาท
ผ่อนรถ 13,400 บาท

เหลือเงิน 28600 บาท
ใช้กินอยู่ 3 ชีวิต ค่าน้ำมัน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ นี่ไม่เผื่อป่วยหรือไม่สะบายเลยนะครับ เป็นการใช้เงินที่เสี่ยงมากครับ จริงๆรายรับประมาณนี้น่าจะซื้ออีโค่คาร์มาใช้มากกว่า ดังนั้นต้องมีสติในการใช้ชีวิตช่วงกำลังผ่อนนี้ให้มากๆครับ ผ่อนหมดแล้วก็ช่วยหาเงินชำระหนี้ที่คุณพ่อสร้าง และรักคุณพ่อให้มากๆ ครับ ท่านคงต้องเข้มแข็งมากเพียงเพื่อให้คุณได้ใช้รถ

ส่วนตัวผมรายรับหา 2 คนกับภรรยา และมีอาชีพเสริมอีก 2 อย่าง เดือนนึงๆ ผมรับขั้นต่ำที่ 155 K เงินเก็บผมอีก ผมยังคิดแล้วคิดอีกเรื่องจะซื้อรถ เพราะต้องดูแลลูกชาย 2 คน และคุณพ่อ คุณแม่ของผมและภรรยาก็อายุเริ่มมากแล้ว ต้องเตรียมไว้เผื่อท่านไม่สะบาย ความเสี่ยงในชีวิตรอบตัวเรามีมากครับ ถ้าคิดจะสร้างภาระ เช่น การมีครอบครัว มีลูก มีรถ คุณก็ต้องพร้อมจะรับและจัดการกับความเสี่ยงจากภาระนั้นๆ ได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 20, 2015, 09:30:46 โดย Eddy3585 »
2007 Toyota Vios
2009 Toyota Hilux Vigo
2010 Toyota Camry
2011 Ford Ranger
2011 Isuzu Dmax
2011 Toyota Hilux Vigo
2015 Ford Ranger
2015 Ford Everest 2.2 Titanium
2015 Ford Everest 3.2 Titanium+
2016 Toyota Hilux Revo 2.4 J m/t (5 คันจะที่รัก)
2017 BMW 320d iconic

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,475
คำว่าเกินตัว  มีหลายความหมาย และหลายมิติ อยู่ที่วัย  วุฒิภาวะ นิสัยการใช้เงิน  ความจำเป็นในการใช้  ฯลฯ

     ในกรณีของคุณ  เมื่อมองในมุมมองของผม  อาจจะเกินตัวอยู่บ้าง  แต่ไม่มากนัก  เนื่องจากทั้งบ้าน  มีรถอยู่คันเดียว  หากมีความจำเป็นขึ้นมา  คุณจะเห็นคุณค่าของมัน  แต่อย่าไปปีนป่ายขึ้นไปอีก.....

      แต่หากเทียบกับผม  ถ้าจะซื้อรถ ผมสามารถรวบรวมงินส่วนที่ลงทุนมารวมกันพอที่จะซื้อรถอีคลาสเงินสดได้สบาย ๆ   แต่ผมก็พอใจที่จะนั่งรถมือสอง เป็นหลัก  เนื่องจากผมใช้เป็นพาหนะ เท่านั้น 

      แต่บางคนไม่ใช่  พาหนะที่เขาใช้นั้น  เป็นตัวส่งเสริมกิจการงานที่ทำ และฐานะทางสังคม แบบนี้ ก็เป็นความจำเป็นของเขา   ซึ่งเขาจะมาขี่แบบผมก็คงไม่ได้...

ออฟไลน์ UpToGu

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 210
ด้วยความเคารพ ผมมองว่ามัน ผมมองว่ามันเกินตัวไปนะครับ ค่าผ่อน13000 ค่าน้ำ2000 เหลือเงินไว้ใช้จ่าย+เก็บสำรอง น้อย ไหนจะค่าบำรุงรักษาตามระยะ ไหนจะค่าประกันรถอีก ถ้าเป็นผมคงนั่งรถเมล์รถตู้ไปทำงานดีกว่าครับ หรือจำเป็น ต้องมีรถจริงๆ คงเอาแค่ecocar สักคัน เป็นเกียร์ออโต้ ต่ำสุดพอครับ ผ่อนไม่หนัก ผู้ใหญ่ที่พูด ก็ถูกของเขาอะครับ

ขออนุญาตเปรียบเทียบกับตัวผมเองนะครับ ที่บ้านไม่มีหนี้ พ่อกับแม่ ฐานะของเขาไม่ลำบาก ผมจบใหม่ทำงานมา 2 ปี เงิน25000 ที่บ้านช่วยดาวน์ 100000
ที่เหลือ ออกเอง ผ่อนเดือนละ 9500 5 ปี civic fb ค่าน้ำมัน2000 ที่พักฟรี ไม่กินไม่เที่ยว เก็บได้เดือนละ10000 ผมยังรู้สึกว่าเกินตัวเลยครับ(หลังจากทำงานไม่เคยขอเงินที่บ้านเลยครับ) ถ้าเลือกได้คงนั่งรถเมล์รถตู้ไปทำงาน หรือถ้าจะเอารถคงถอย รถเล็กๆผ่อนสบาย เก็บตังไว้ดาวน์บ้าน ขอแฟน หรือ เก็บไว้ลงทุนดีกว่าครับ

คหสต.

ออฟไลน์ h22a

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 705
    • อีเมล์
อ่านดูแล้ว จขกท. ก็รู้ตัวระดับนึงแล้วครับ

คงอยากได้คำแนะนำจากสมาชิกในนี้

คุณ จขกท. โชคดีที่มีพ่อที่รักลูกมาก ขอให้ตอบแทนท่านอย่างเต็มความสามารถครับ ;)

ออฟไลน์ nemus

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 68
ว่ากันตามตรง ก็ถือว่าเกินตัวไปเยอะเลยล่ะครับ สำหรับรายได้ ที่ต้องจ่ายค่างวดรถถึง 75%  ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ
ซึ่งรายจ่ายอื่นๆ ของคุณ ก็ถูกโยนไปเป็นรายจ่ายที่ คุณพ่อของคุณต้องจ่ายแทน
ในขณะที่คุณพ่อของคุณเอง ก็มีภาระในการผ่อนบ้าน และชำระหนี้กู้ยืมต่างๆอยู่แล้ว

ดังนั้น อย่าไปโกรธเพื่อนคุณเลยครับ ต้องขอบคุณเขาซะอีกที่ช่วยเตือนสติเรา
เขาไม่เหยียดอะไรหรอก มันเป็นไปตามเนื้อผ้าอย่างนั้นจริงๆ

อันดับแรก ตั้งสติ มองดูว่ารถยังจำเป็นอยู่ไหม แต่เชื่อว่าคุณคงบอกว่าจำเป็น
ถ้าคุณอยากจะเก็บรถไว้ ต้องหารายได้เสริมโดยด่วน หรือหางานที่มีรายได้มากขึ้นครับ
 
ต่อมาลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นทั้งหมด กิน เที่ยว ดูหนัง  แม้แต่การใช้รถเอง เก็บไว้ใช้เวลาไปไหนทั้งครอบครัว
ส่วนวันปกติก็ใช้รถสาธารณะ

แต่ถ้ามันตึงมาก แนะนำว่าขายครับ ถ้าไม่ติดสัญญารถคันแรก ลดภาระค่าใช้จ่ายก่อนครับ
แล้วช่่วยคุณพ่อ ชำระหนี้ต่างๆให้หมด แล้วค่อยกลับมาซื้อรถก็ได้ครับ
หรือหามือสอง ที่ค่างวดไม่เกิน 5-6000 ใช้แทนครับ  แล้วเอาส่วนต่างไปชำระหนี้สิน ถ้ายังอยากมีรถอยู่

สุดท้ายนะครับ การไม่มีเงินเก็บติดตัวเลย เป็นเรื่องที่น่ากลัวมากนะครับ ยิ่งหากมีเรื่องฉุกเฉินขึ้นมา
เรื่องเสียหน้า ไม่เสียหน้า ที่ขายรถ หรือ เปลี่ยนมาใช้รถเก่า มันอยู่ที่ตัวเราครับ
อย่าลืมว่าคนที่มาพูดเหน็บแนม พวกนี้ เค้าไม่ได้มาช่วยเราจ่ายนะครับ

ลองหาทางออกดูครับ ผมเข้าใจนะ ว่าเราชอบรถ อยากขับรถ
ตอนผมเจอปัญหา รายได้ลดลง ผมก็เปลี่ยนมานั่งรถเมลล์แทนครับ
แรกก็เก้ๆกังๆ หน่อย เพราะไม่ได้นั่งนานเป็นสิบๆปี
ต้องออกจากบ้านเช้ามืด กลับถึงบ้านสาม สี่ทุ่ม 
พอปรับตัวได้ สุดท้ายมันก็ไม่ได้ลำบากอะไรมากมาย
ของผมโชคดีหน่อย ที่ตอนนั้นรถไม่ต้องผ่อนแล้ว พอมีเรื่องฉุกเฉินเข้ามาอีก ก็ขายออกไป
พอวันที่พร้อมจริงๆ ก็หาใหม่ครับ

สู้ๆครับ





ออฟไลน์ Napat14

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 351


ถ้าเอาตามหลักการเงิน การผ่อนสินค้าอะไรก็ตามต้องมีเงินดาวน์ 1 ใน 3 ของมูลค่าสินค้านะครัย ส่วนเงินที่ผ่อนนั้น ต้องไม่เกิน10 % ของรายได้ทั้งหมด ลองไปคำนวนเอาดูนะครับ ถ้าทำได้ก็จะดีมากๆกับชีวิตที่ไม่เดือดร้อนอะไรมาก สามารถ เพื่อเงิน ในการเจ็บป่วยหรืออะไรก็ตามความจำเป็น แต่ในความเป็นจริงไม่ค่อยมีใครอยากจะทำเพราะ มันเป็นไปได้ค่อนข้างยาก
Bmw E30 coupe 1989
Volvo 940 estate 1997
Nissan Navara 2007
Toyota CHR 2019
Benz w212 2012
volvo v90 2018

ออฟไลน์ NS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,718
  • การเดินทางครั้งใหม่
หลายท่านได้แนะนำไปเยอะแล้ว ต่อจากนี้ก็จะต้องมีวินัยหนักๆในทุกๆเรื่องละครับ เป็นกำลังใจให้ผ่านไปด้วยดีครับ อย่างน้อยเวลาพาพ่อกับแม่เราและคนในครอบครัวไปไหนมาไหนก็สะดวกขึ้น เรื่องนี้สร้างประสบการณ์ได้เป็นอย่างดีเลยครับ
จะเลือกรถหรือเมีย....

...รถสิคร๊าฟ

ออฟไลน์ mongolias

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,368
ถามว่าเกินตัวไหม ผมตอบเลยว่าเกินตัวครับ
เพราะส่วนตัว ผมมองว่า การที่คุณซื้อรถนั้น คุณควรจะมีเงินเดือนมากกว่าค่าผ่อนรถ 2 เท่าเป็นอย่างต่ำ
เคสของ จขกท ผมมองเฉพาะรายได้ของคุณคนเดียวนะ รายได้ของคุณพ่อคุณ ผมไม่ได้มอง เนื่องจากถือว่ารถเป็นของคุณคนเดียว
ตอนผมซื้อรถคันแรก เงินเดือน รวมโอทีต่างๆ แล้วรับอยู่ระหว่าง 1.5-2 หมื่น ผ่อนเดือนละ 6,100 บาท ยังรู้สึกตึงๆมือเลยครับ(9 ปีที่แล้ว ค่าครองชีพถูกกว่าปัจจุบันอีกต่างหาก)

อย่างไรก็ตาม คุณก็ซื้อรถมาแล้ว ตอนนี้ก็ต้องกัดฟันผ่อนต่อให้หมดล่ะครับ แต่ถ้าเป็นไปได้ หาอาชีพเสริมให้มีรายได้เพิ่มเติมมากกว่านี้หน่อยก็จะดีนะครับ

อ้อ พออ่านแล้วผมรู้สึกได้ว่า พ่อแม่คุณ รักคุณมาก รักท่านให้มากๆนะครับ

ออฟไลน์ ๒ มาตรฐาน..อิอิ

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 188
พ่อรักคุณมาก คุณก็รักพ่อให้มาก ๆ เรื่องรถมันผ่านไปแล้ว คุณควรหารายได้เพิ่ม เพื่อมาช่วยเหลือครอบครัวของคุณ

ออฟไลน์ Activehybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,554
พ่อรักคุณมาก ผมละอิจฉาจริงๆ

แต่คุณรู้ไหมว่ารถที่ซื้อมาปีแรกเท่านั้นที่เรามีความสุขและเห่อมันมากๆ หลังจากนั้นพอครบ1.5-2ปีเราจะเบื่อหน้ามันมาก คุณยังต้องรู้สึกแย่กว่านี้อีกขอให้เตรียมใจไว้

เรื่องเกินตัวผมมองว่า รถก็ซื้อมาแล้ว คิดมากไปก็มีแต่ผลเสีย เอาคำบ่นด่าของคนอื่นมาทำให้คุณเป็นลูกพ่อที่ดีกว่าเดิมให้ได้ คิดบวกไว้นะครับ

เรื่องรถมันเป็นเรื่องของคนที่มีเงินเหลือเฟือจริงๆ ทุกวันนี้มันล่อตาล่อใจก็ต้องหักห้ามใจให้ได้ ลืมๆเรื่องรถไปบ้างก็ดี

ทุกอย่างต้องเป็นไปตามลำดับ ไม่อย่างนั้นครอบครัวเราอาจจะล้มละลายได้ ถ้าคุณอยากจะขับ Focus ecoboots ก็ต้องรอวันที่รายได้คุณเกิน 100,000

ตอนนี้ต้องอดทนอย่างเดียว ซื้อมาแล้วเบื่อแค่ไหนก็อย่าผลักภาระไปให้พ่อเด็ดขาด ขับเองผ่อนเอง บทพิสูจน์นี้หนักหนาแสนสาหัส แต่คุณต้องผ่านไปให้ได้ ผมเชื่อว่าคุณเป็นคนเก่งพอ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 20, 2015, 10:39:24 โดย Activehybrid »

ออฟไลน์ beebird

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,058
    • อีเมล์
เกินจ้า ... คนเป็นพ่อ/แม่ ทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ลูกสบายครับ
แต่เคสคุณผมว่า มันเสี่ยงไปน่ะครับ หากวันนึงคุณพ่อไม่อยู่แล้ว รถคันนี้จะเป็นของคุณอยู่รึเปล่าครับ คุณพ่อมีการทำประกันชีวิตไว้มั่งรึเปล่าครับ นี่ยังไม่รวมเจ็บป่วยค่ารักษาพยาบาลสมาชิกในครอบครัวนะครับ

ผมว่ารีบๆผ่อนให้หมดดีกว่าครับ และหาทางเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัวคุณครับ ใช้งานของที่มีอยู่ให้คุ้มค่า ( ขายก็คงไม่คุ้มอยู่ดี ) ดูแล และรักคุณพ่อให้มากๆนะครับ


ออฟไลน์ applebees

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 750
คุณซื้อแล้ว ณ ตอนนี้ผ่อนแล้ว

อ่านความเห็นคนอื่นเยอะๆแล้วจะปวดหัวครับ อยู่ที่ตัวเราเองดีกว่าว่าคิดอย่างไร คุยกับพ่อให้รู้เรื่อง ถ้าคุณบอกว่าแม่พูดอยู่ทุกวัน ผมคิดว่าเขาคงเครียดว่าอาจโดนดูถูกดูแคลนจากคนรอบข้าง ถามว่าเงินที่พ่อไปยืมญาติๆ เขาเต็มใจให้ยืมเราไม่ได้เอาปืนไปจี้ปล้น ยอ่งเป็นพี่น้อง ก็ต้องช่วยเหลือกัน ให้ยืมฟรี ไม่มีดอก เขาจะพูดอย่างไรก็ช่างเขาครับ ทำงานเก็บเงินคืนเขา แล้วความโล่งอกสบายใจจะตามมาเอง ใครจะไปรู้ที่คุณพ่อไปยืมอาจเสียดอกเบี้ยให้ด้วยซ้ำไป ถ้าทนไม่ไหวก็ลองกู้ผ่านสถาบัน น่าจะเสียดอกเยอะกว่าแต่จะไม่มีคำสบประมาทของญาติๆมาให้รำคาญหู ที่สำคัญถ้ารักษาประวัติการเงินดี สร้างเครดิตให้ตัวเองได้อีก

ปัญหาที่ผมอ่านของคุณ ผมว่าไม่เกินตัวครับ แต่ที่คุณบอกว่าโครงการเตรียม Focus EcoBoost อันนี้ผมว่าไม่ควรแล้วครับ ผ่อนให้หมดก่อนดีกว่า ในเมื่อรถไม่มีปัญหาอะไร

**ขออภัยครับ ผมอ่านเป็นรายรับเดือนละ 14x,xxx !!!!!!!!!!!!! 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 20, 2015, 10:17:25 โดย applebees »

ออฟไลน์ Trigger-Happy

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 383
  • I am different
เป็นผมคงไม่กล้าทำแน่ เห็นพ่อขึ้นรถเมล์ไปทำงานทุกเช้าในขณะที่ตัวเองขับรถที่พ่อไปกู้เงินคนอื่นมาดาวน์ให้ มันโคตรขัดความรู้สึก รถไม่ใช่ของจำเป็นของครอบครัวขนาดนั้นหรอกครับ ขนส่งมวลชนมีเยอะแยะ มันก็เป็นพาหนะที่พาคุณไปไหนมาไหนได้เหมือนกัน ถูกกว่าด้วย ช่วยพ่อแม่ใช้หนี้ ผ่อนบ้านให้สบายตัว เก็บเงินสำรองไว้ดูแลพวกท่านยามเจ็บป่วยก่อนค่อยคิดถึงความสะดวกสบายของตัวเอง ที่แม่พูดน่ะถูกแล้ว ถ้าอยากมีจริง ก็ดูรถมือสองไปก่อน นี่ยังจะมาคิดถอยรถใหม่ตอนผ่อนหมดอีก ลองทบทวนดูใหม่ครับ....  :-\
รถทุกคันดูดีเมื่อมีผมขับ

ออฟไลน์ dht_tubes

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,641
    • อีเมล์
มาให้กำลังใจครับ สู้ต่อไป

ผิดเเล้วเป็นบทเรียน อย่าผิดซ้ำ

ที่สำคัญในความเห็นผมคือ อย่านำเรื่องนี้ไปเป็นประเด็นให้เกิดการมีปากเสียง หรือมีข้อขัดเเย้งใดๆเพิ่มขึ้นระหว่างตัวคุณกับญาติคุณ

เค้าติงมา ผมมองว่าเพราะเค้าห่วงพ่อคุณ ซึ่งเป็นความหวังดี เราต้องเข้าใจตรงจุดนี้ด้วย

ดังนั้นสิ่งที่ควรทำที่สุด คือ พยายามทำให้ปัญหานี้ผ่านไปให้ได้ หรือถ้ามีเหตุที่จะทำให้ไม่ได้ ก็ต้องบริหารจัดการและตัดสินใจในสิ่งที่ถูกต้อง และเหมาะสมที่สุดครับ เช่น ถ้าไปไม่ไหวขึ้นมากลางคัน คุณอาจจะคิดว่า เฮ้ยยอมไม่ได้ พ่อลำบากมาให้ขนาดนี้แล้ว จนคุณเกิดไปสร้างหนี้ก้อนใหม่เพิ่มมาอีก โดยไม่คำนวนให้เหมาะสม จนบานปลายกันไปใหญ่ อะไรประมาณนี้ครับ

ขอให้มีสติ แก้ปัญหาเป็นเปลาะไปครับ

สิ่งสำคัญที่สุดที่ผมอยากบอกคือ คุณโชคดีมากที่มีคุณพ่อที่รักและยอมเสียสละให้คุณได้ขนาดนี้

ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นข้างหน้า ระลึกถึงข้อนี้ไว้เป็นสำคัญครับ

ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดีครับผม เอาใจช่วย