« ตอบกลับ #22 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2015, 21:04:48 »
น่าสนใจดีครับ หัวข้อที่คุณ Ivy Modernist เสนอมา
คุณภาพที่หลายๆคนกล่าวมา หมายถึงอะไรครับ? คุณภาพการประกอบ? หรือว่าอุปกรณ์เสริมที่ใส่มาให้? ทั้งสองไม่ใช่สิ่งเดียวกัน มีเหตุผลที่ต่างกัน และมีที่มาที่ไปจากคนละจุดนะครับ
คุณภาพการประกอบ อันนี้จากที่หลายๆคนเคยได้สัมผัสกันมา รถยนต์ที่ประกอบในประเทศมีคุณภาพการประกอบ ถ้าเกิดไม่เทียบเท่า ก็ดีกว่ารถยนต์ที่ส่งออก หรือว่ารถที่มีการประกอบในต่างประเทศเสียอีก ผมไม่แน่ใจว่าพวกคุณเคยได้สัมผัสรถ ฮอนด้า ซีวิค ที่ประกอบในบราซิลกันบ้างหรือเปล่า? ครับ ผมรู้ ผมก็ไม่เคยหรอก ผมไม่เคยไปบราซิล แล้วก็ไม่เคยคิดที่จะไปบราซิลด้วย แม้แต่คนที่อยู่ในบราซิลเองก็บอกว่ามันเป็นประเทศที่แย่ เช่นเดียวกับรถฮอนด้า ซีวิค ที่ประกอบในบราซิลครับ แม้กระทั่งในมาตรฐานคนบราซิล ซึ่งใช้รถอย่าง โฟล์กสวาเกน โกล ซึ่งเป็นรถที่แซยิดมานานพอๆกับกฎหมายขนส่งบ้านเรา หรือว่ารถเชฟโรเลท เซลต้า ซึ่งเช่นกัน พื้นฐานนั้นมาจากโอเปิ้ล คอร์ซ่า รุ่นที่เคยมีการขายในบ้านเรา ซึ่งถ้าจำไม่ผิดหมอบรัดเลย์เคยใช้อยู่คันนึง รถพวกนั้นถูกผลิตขึ้นจากทูลลิ่งที่ถ้ามีคนขุดเจอใต้ดิน คนก็คงจะนึกว่ามันถูกสร้างขึ้นจากไดโนเสาร์ คนบราซิลที่คุ้นเคยกับรถพวกนี้ บอกว่ารถฮอนด้า ซีวิค ที่ชาวบราซิลประกอบ คุณภาพนั้น งั้นๆมาก เหมือนกับการที่คนไทยทุกคนบอกว่า คุณภาพรถฮอนด้าซีวิคที่ประกอบในประเทศไทย งั้นๆมาก แต่ว่าคนไทยในปัจจุบันยังต้องใช้รถอย่าง โอเปิ้ล คอร์ซ่า อยู่ไหมครับ?
ครับ ลองคิดดูนะครับ ถ้าเกิดพวกเขาประหยัดได้กับชิ้นส่วนบางส่วน ชิ้นละ ไม่รู้สิ พันนึง? สองพัน? แต่ว่าพวกเขาจะต้องจัดตั้งทูลลิ่งใหม่ ซึ่งใช้เงินเป็นจำนวนหลายพันล้าน พวกเขาจะทำไหมครับ? และอีกอย่าง คุณภาพมันแย่กว่าจริงๆเหรอครับ? แล้วรถเก่าที่ยังวิ่งได้ดีอยู่บนถนนทุกวันนี้ล่ะ? มันควรจะพังไปนานแล้วไม่ใช่เหรอถ้าคุณภาพการประกอบ และชิ้นส่วน มันห่วยแตก? ถ้าเกิดมันห่วยแตกจริง มันก็ไม่ได้เพิ่งมาห่วยแตกกันตอนนี้หรอกครับ ยิ่งในอดีตที่ไม่มีอินเตอร์เน็ต ข่าวสารมันกระจายไปได้ในอัตราที่ช้ากว่าในปัจจุบันมาก บริษัทรถยนต์ไม่ได้โง่นะครับ คิดเหรอครับว่าพวกเขาจะยิงขาตัวเองทิ้งข้างหนึ่ง? บริษัทอย่างจีเอ็มอาจจะไม่ทำเช่นนั้นครับ พวกเขายิงขาตัวเองทิ้งทั้งสองข้าง แต่อันนั้นมันเรื่องเอาไว้ให้พูดกันในวันอื่นเพราะมันเป็นกรณีพิเศษ
งั้นเรามาพูดถึงเรื่องอุปกรณ์เสริมกัน ถ้าเกิดคุณภาพของรถที่ประกอบในประเทศไทยนั้นมันเทียบเท่ากับรถที่ประกอบในประเทศอื่นๆ ถ้า ไม่ดีกว่าเสียด้วยซ้ำ สิ่งที่ทุกคนกำลังพูดถึงก็คงจะเป็น อุปกรณ์ต่างๆที่ให้มากับรถยนต์ซักหนึ่งคัน เอาละครับ ผมได้เห็นกระทู้ที่มีคนเรียกร้องหา ดิฟล็อก ซึ่งไม่มีมาใส่ให้กับฟอร์จูเนอร์ใหม่ ซึ่งผมก็ยังไม่แน่ใจว่ามันคืออะไรกันแน่นะครับ แต่ผมขอถามอะไรเล็กน้อยซักนิดนึง พวกคุณคิดว่าจะมีลูกค้าที่จะคิดซื้อรถฟอร์จูเนอร์ใหม่ซักกี่คนครับ ที่เข้าใจความแตกต่างระหว่าง วิสคัส ดิฟ, ทอร์เซน ดิฟ, ล็อกกิ้ง ดิฟ, เฮลิคัล ดิฟ, ฮัลเด็กซ์ แล้วก็ คลัช ดิฟ สังเกตอะไรบางอย่างไหมครับ? ทอร์เซน ดิฟ กับ เฮลิคัล ดิฟ มันเป็นสิ่งเดียวกัน ถ้าเกิดคุณไม่รู้ความแตกต่าง คุณก็ไม่ต้องใช้มันหรอกครับ เพราะว่าคนที่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้พวกมัน พวกเขาต้องศึกษาความแตกต่างมาก่อนหน้านี้แล้ว
ประเด็นที่ผมอยากจะบอกคือ หลายๆคนเรียกร้อง อยากจะได้นั่น ได้นี่ โดยที่ยังไม่รู้เสียด้วยซ้ำครับว่ามันคืออะไร มีประโยชน์อะไร เอาไปใช้ทำอะไรได้ แน่นอนว่าต้องมีคนที่รู้ แล้วก็จะมาเถียงผมว่า นี่ผมรู้นะนี่คืออะไร แต่คนที่ไม่รู้คือคนส่วนมากครับ คนหลายคนไม่สนใจ คนหลายคนไม่ได้ใช้ก็ไม่เรียกร้อง อันนั้นผมไม่ว่าอะไรหรอก แต่คนที่รู้ว่าตัวเองจะไม่ได้ใช้ แล้วก็ยังเรียกร้องอยู่ ลองคิดดูอีกทีนะครับ ว่ามีเหตุผลที่บริษัทรถไม่ใส่อะไรบางอย่างมาให้คุณ ผู้ซึ่งไม่เข้าใจว่าสิ่งที่ตนเองกำลังเรียกร้องนั้นคืออะไร ไก่ได้พลอย มีคนกล่าวไว้ ในทางกลับกัน ถ้าเกิดมีใครอยากเอาฟอร์จูนเนอร์ไปขับเข้าป่า อ็อฟโร้ดจริงจัง พวกเขาจ่ายเงินซื้อล็อกกิ้ง ดิฟ Aftermarket ดีๆ มาใส่เองอยู่แล้วครับ ในขณะที่มันจะไม่มีความจำเป็นสำหรับแม่บ้านที่ซื้อมารับส่งลูกเลย
ผมไม่ได้กำลังเถียงนะครับ แค่เสนอมุมมองของผม
เมื่อลองในมุมมองแบบเดียวกับคนที่ติดตามเรื่องรถ รู้ว่ารถบางคันถูกถอดคานกันชนออกไป ผมก็เข้าใจดีครับ ความรู้สึก สิ่งที่ควรจะมีให้ กลับไม่มีให้ แต่อย่าคิดว่ามันเป็นปัญหาแค่ของคนในประเทศไทยเท่านั้นนะครับ ผมไม่แน่ใจว่ามีใครซักกี่คนจำได้ว่า เมื่อสหรัฐฯประกาศกฎหมายกันชน 8 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นมา มุมมองของผู้ซื้อรถนั้นมีไว้อย่างไร แต่ผมจำได้ครับ พวกเขาบอกว่ามันเป็นกฎหมายที่งี่เง่าสิ้นดี เพราะว่าเมื่อสหรัฐฯตั้งกฎหมายว่า รถทุกคันที่จำหน่ายจะต้องมีกันชนที่สามารถรับแรงกระแทกที่ความเร็ว 8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยที่ไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นกับตัวเนื้อเหล็กเลย ทางออกของบริษัทรถคือการเอาเครื่องกระทุ้งขนาดใหญ่ไปแปะไว้ที่หน้ารถและหลังรถ ซึ่งมันก็ดูสวยงามอย่างที่คิดนั่นแหละครับ แล้วมันก็ได้ผลด้วยนะ สำหรับรถหลายๆคัน มันได้ผลดีเกินกว่า 8 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่กำหนดมาเสียอีก จนในที่สุดรัฐบาลก็ทนคำเรียกร้องไม่ไหว ลดกำหนดลงมาเหลือ 4 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง อะไรคือประเด็นครับ? ผมก็ไม่รู้หรอก มันมีอยู่ตอนผมเริ่มย่อหน้านี้ แต่ตอนนี้มันบอกว่าลาก่อนไปแล้ว
อ่า ใช่ครับ ประเด็น เหตุผลที่ประเทศสหรัฐอเมริกาประกาศใช้กันชน 8 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ก็เพราะว่ามีกลุ่มคนบางกลุ่ม ต้องการที่จะให้ค่าซ่อมรถเมื่อถูกชนนั้นถูกลง ผมไม่ทราบหรอกนะครับว่าคนกลุ่มนั้นคือใคร แต่ผมรู้ว่ามันเกิดขึ้นเพราะว่าประกันภัยรถยนต์ในสหรัฐฯนั้น มีมูลค่าสูงมากเมื่อเทียบกับมูลค่ารถ และมันมักจะเป็นไปตาม รุ่น "ย่อย" ของรถทุกรุ่น เหตุผลมีหลายอย่าง แต่เมื่อลูกค้าที่ใช้รถทนค่าใช้จ่ายส่วนนั้นไม่ไหว ก็ย่อมที่จะมีคนเรียกร้องออกมา ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ประกันรถบ้านเรานั้นค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับมูลค่าของรถ และผมไม่ได้เข้าใจธุรกิจประกันมากหรอกนะครับ แต่ที่ผมเข้าใจคือ ประกันรถในบ้านเรานั้นค่อนข้างที่จะล้าหลัง และไม่มีความสำคัญเท่าประเทศอื่นๆ ที่อาจจะมีการกำหนดไว้ว่า ประกันรถ เป็นของบังคับ รถทุกคันต้องมี นั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้บ้านเราโดนตัดคานกันชนออกไป บริษัทรถยนต์ไม่ได้กำลังทำการกุศล และถ้าบางสิ่งมันไม่จำเป็น จะใส่มาทำไม? และคานกันชนมันก็จะไม่มีความจำเป็นครับ ถ้าเกิดประกันรถบ้านเรายังมีราคาถูกอยู่ มันเป็นเรื่องของการบัญชี เพราะว่าคานกันชนมันไม่ได้เพิ่มความปลอดภัยอะไรให้กับผู้โดยสารมากขนาดนั้นหรอกครับ ตราบใดที่ไม่มีกฎหมายกำหนดไว้ คานกันชนของรถที่ขายในยุโรปส่วนมาก ก็รองรับการกระแทกได้ไม่ดีพอที่จะสร้างความแตกต่างระหว่างความเป็นกับความตาย ไม่เหมือนกับคานกันชน 8 กิโลเมตรต่อชั่วโมงของสหรัฐฯ ซึ่งนั่นสร้างความแตกต่างได้อย่างเห็นได้ชัด นั่นทำให้ผมนึกอะไรบางอย่างออกนะ ในยุคหนึ่งสมัยหนึ่งประเทศไทยก็นิยมกันชนสไตล์เครื่องกระทุ้งกับเขาเหมือนกันนี่หว่า ในยุคสมัยที่คนอเมริกันทุกคนบอกว่า ไร้สาระ ไม่จำเป็น ทำให้รถหนักแล้วก็เปลืองน้ำมัน
อุตสาหกรรมรถยนต์เป็นอุตสาหกรรมที่ขึ้นอยู่กับการประณีประนอมครับ ผู้ใช้ บริษัทประกัน รัฐบาล ฯลฯ และหลายๆครั้งพวกเขาก็ไม่สามารถทำให้ทุกๆคนพอใจได้
แต่ว่าเรื่องอุปกรณ์ของเล่นอื่นๆ หรืออุปกรณ์ความปลอดภัย ผมไม่กล่าวถึงแล้วกันนะครับ ผมรู้ว่าทุกคนคงจะรู้ว่าเป็นเพราะว่าอะไร ทำไมถึงมีมาให้น้อยกว่า ไม่ต้องไปคิดเรื่องนั้นมากหรอกครับ ที่นี่คือประเทศไทย และความเปลี่ยนแปลงจะไม่เกิดขึ้นได้ข้ามวันข้ามคืนหรอกนะ ไม่ใช่แต่อุตสาหกรรมรถยนต์ แต่ว่าเป็นปัญหาของทั้งประเทศ ผมไม่สามารถพูดเรื่องนี้มากได้เพราะมันอาจจะไปเกี่ยวกับเรื่องการเมือง ผมบอกได้แค่ว่า ในมุมมองของผม มันก็เกี่ยวข้องกันอยู่ ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกี่ยวข้องกันอยู่นั่นแหละครับ
นั่นแหละครับ ความเห็นของผม มันอาจจะไม่ชัดเจน ไม่ได้ให้ประโยชน์อะไรมากมายกับคนอ่าน แต่ผมอยากให้ทุกคนมีประเด็นได้พูดคุยกันมากขึ้น เพราะว่ากระทู้นี้ ผมก็เห็นด้วยกับหลายๆจุดที่มีคนว่ามาเลยนะ