Review : REMAP เรียกความแรงด้วยงบเบาๆ All New D-Max 2.5 AT

[the kit]

ตอนได้ “ม้าป่า” มาใหม่ๆ ก็ “เห่อมาก”
ใช้มันเกือบทุกครั้ง เท่าที่มีโอกาสให้ใช้มันได้ 

ได้ม้ามา ก็เอาไปอวดปู่

วันที่เอาไปอวด ท่านเห็นผมขับไป กับคุณศรีภรรยาและลูกๆ
ท่านก็ยิ้มกว้างเลยทีเดียว...

เดินออกมาดู ด้วย “ตาเป็นประกาย” เหมือนนี่คือ “Wish List” อันหนึ่ง
ท่านขอลองนั่ง ขอลองขับ ดูนู่นนี่นั้นไปเรื่อย เหมือน “เด็กได้ของเล่นชิ้นใหม่”

เราออกไปขี่ม้าเล่นกัน “สองปู่หลาน”
“อือ มันขับดี ขับมันกว่า Cayenne อีกนะ!!
แตะเป็นมา พุ่งดีเหลือเกิน
แต่มันไม่นิ่ม เหมือนมัสแตงยุคเก่านะ  มันจะกระโดดๆ หน่อย
ภายในสวย ทันสมัยมาก แต่ยังคงมี “กลิ่นอาย” ของรุ่นเก่าอยู่
เส้นสาย ดูปุ๊ป แม้ไม่เห็นยี่ห้อ ก็รู้ว่านี่คือ มัสแตง
มันสวย มันเฉี่ยวมาก ทรวดทรงองค์เอว สวยจริงๆ

ขับรถสวยๆ ขับรถดีๆ ก็ต้องขับให้มันดี
ถ้าขับรถไม่ดี ขับแย่ เขาก็จะด่าเราได้

ยิ่งป้ายสวย เลขสวย ยิ่งต้องขับให้มันดี
ถ้าเราขับไม่ดี คนมันก็จำเราง่าย”
นี่คือ ที่ท่านว่า...



ลืมบอกไป...
เมื่อก่อน  สมัยปู่ผมในช่วงวัยกลางคน ตอนนั้นผมยังเด็ก
ท่านก็มี ม้าป่า มัสแตง เช่นกัน
สีเหลืองสดใสเลยทีเดียว
ผมเคยนั่ง ไปไหนด้วยกันกับท่านบ่อยเลยทีเดียว..

รถสปอร์ต ก็ยังคงเป็นรถสปอร์ต
“นั่งก็ยาก ลุกก็ยาก”
แม้มัสแตง จะมีประตูที่ยาว ที่สามารถเปิดกว้างได้มาก รวมถึงมีเบาะนั่งที่ค่อนข้างใหญ่
เมื่อเทียบกับรถสปอร์ตในคลาสเดียวกัน แต่เนื่องจากเบาะที่นั่ง ค่อนข้างต่ำ แถมช่วงล่างที่ค่อนข้างแข็งกระด้าง

รถประเภทนี้  จึง “ไม่เหมาะ” กับ สว. สักเท่าไรนัก
คือ ถ้าคิดจะขับ คิดจะขี่ คิดที่จะมีรถประเภทนี้ครอบครอง
ถ้าไหว รีบซื้อซะตั้งแต่ ตอนที่พอจะขับมันได้  ถ้าเวลา “เลยล่วง” ไปแล้ว
“แค่ดู” น่าจะเป็นคำตอบที่เหมาะสม..



ปู่ผม อายุท่านมากแล้ว เก้าสิบกว่าปี แต่ยังคงสุขภาพดี แข็งแรง ความจำยังดีเป็นเลิศ
ยังเดินได้ตามปกติ ไม่ต้องใช้ไม้เท้า หลังยังค่อนข้างตรง ยังสามารถขับรถเองได้
ท่านชอบรถยนต์และมอเตอร์ไซค์มาก รวมถึงเครื่องเสียงและนาฬิกาด้วย ชอบมาตั้งแต่ตอนเป็นหนุ่ม
ทั้งเคยเป็นเจ้าของ และยังคงเป็นเจ้าของ สิ่งของที่ว่า ยี่ห้อดัง รุ่นยอดนิยมมาหลายรุ่น
รุ่นเท่ๆ รุ่น “มะๆ” โดยมาก จะเคยผ่านมือท่านมาเยอะพอสมควร
ขนาด Caddilac เปิดประทุน Big Block ที่ว่า “ซดน้ำมัน” 3 โลลิตร, BMW R60, เครื่องเสียง McIntosh, นาฬิกา Rolex หลากรุ่น หลายเรือน ก็เคยผ่านมือมาแล้ว


ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ท่านคุยกับผมว่า
อยากได้รถใหม่มาแทน Cayenne ที่ใช้มาหลายปี แต่วิ่งไปแค่ “สามหมื่นกว่า กม.” เห็นจะได้
ชวนผม “เข้ากรุงฯ” ไปหาดูรถกัน
โดยท่านให้ “การบ้าน” มาล่วงหน้าก่อน 2-3 วันว่า อยากได้ SUV แบบเดิม ไม่เอาเก๋งและไม่เอารถที่สูงมาก
ดูที่มันง่ายต่อการขึ้น-ลง
ยี่ห้อไหนดี ยี่ห้อไหนเหมาะ ช่วยหามาให้หน่อยนะ จะได้ไปดูกัน
ถ้ามันมีรถ ถ้าถูกใจ ถ้าเป็นไปได้ ก็จะเอากลับมาในวันนั้นเลย!!

ถึงวันก็ไปดูกัน คำตอบของการบ้านผมมีแค่ 2 ยี่ห้อในใจ ที่ราคาและทุกอย่างเหมาะสม
แต่ไม่ใช่ 2  ยี่ห้อดัง ยอดนิยมของคนไทย ที่จะนึกถึงเป็นลำดับต้นๆ นะ

มีอะไรบ้างไปดูกัน..
...
...
...
เริ่มที่ Porsche Cayenne ท่านก็ว่า มันเหมือนเดิม มันคล้ายเดิม “ไม่ว้าว”
ซื้อมาได้ก็ใกล้เคียงเดิม!! เมื่อ “มอเตอร์เซลล์” ครั้งที่ผ่านมาไปดู ก็ “งั้นๆ”

ไปต่อที่ยี่ห้อไหนดี...
...
...

Bentley Bentayga เป็นคำตอบที่ดี  อันนี้ “ว้าว” โดนใจท่านมาก
แต่ต้องรอรถ “ขั้นต่ำ” 7-8 เดือนขึ้นไป
ในกรณีที่ “ไม่เลือก” สีและ Option
และถ้ามีผู้จองท่านใดไม่พร้อม ทางศูนย์จะติดต่อไป ถ้าเรา “พร้อม” สามารถรับรถได้ทันที
แต่ทั้งนี้ ยังไงก็ต้องรอรถ 7-8 เดือนขึ้นไปเท่านั้น!!
แต่ถ้าเรา “สั่งตัดเฉพาะ” คุยกันเป็นปีขึ้นไป ไม่เร็วกว่านั้น!!

ไปดูแค่นี้ก็ “หมดวัน”
กลับมาในรถก็คุยกัน
ผมว่า : ถ้าผมเป็นปู่ ผมไม่รอ.. รถศูนย์ รถ AD มันอาจจะสำคัญ ในเรื่องการดูแลและเซอร์วิส 
แต่ “ค่า” ของมันไม่สูงพอ ที่จะเสียเวลา ในการ “รอ”  เพราะ “เวลา” ของปู่กับเวลาของผม “มันไม่เท่ากัน”!!??


ท่านเป็นคนชอบฟัง ชอบคิด ดังนั้นท่านจึงเข้าใจความหมาย ในทุกๆคำที่ผมพูดอยู่แล้ว 
เวลาของผม มันอาจจะอยู่ แค่ช่วง “บ่ายสอง”
แต่ของปู่นี่ มันเลย “หนึ่งทุ่ม” มาพอสมควร

ปู่ว่า  : ใช่ เรานอนไปคืนนี้ พรุ่งนี้ไม่รู้ว่า เราจะตื่นขึ้นมาหรือเปล่า...
ตื่นมาที ก็ดีใจ มีใจไปอีกวัน
งั้นช่วยหา ที่ขาย ที่มันดีๆ มีที่ซ่อม มีรถพร้อมขายให้หน่อยนะ แพงกว่าหน่อยก็ช่างมัน แล้วอีก 2 อาทิตย์ เข้าไปซื้อเลย



โจทย์ไม่ยาก แต่ ไอ้รถรุ่นนี้ มันจะมี “พร้อมรับ” ได้กี่ที่?
ไล่หาตามเน็ท ถามเพื่อนฝูง ก็ได้มา แค่ 2-3 ที่
เพราะรถพวกนี้ มันมีในตลาดที่พร้อมขายไม่เยอะนักหรอก..

เมื่อเจอแล้ว ก็โทรเช็คราคาและ option
Print รูป เอาไปให้ปู่ดู
ราคาได้ สีได้ option ok! แพงกว่า AD พอควร แต่อยู่ในช่วงที่ “รับได้” แถมยังสามารถรับรถได้ทันที
“เอาสิครับ  ซื้อสิครับ”  อีก 4-5 วัน จะเข้าไปดู
ไม่โอนจอง หรืออะไรทั้งนั้น  วันที่เข้าไปดู ถ้าถูกใจคันไหน ก็รับกลับมาเลย

ที่ต้องอีก 4-5 วันไปรับ เพราะ มีธุระที่ต้องเคลียร์ และอีกส่วนหนึ่ง “เงินจำนวนมาก” ถ้าจะเบิก จะถอน ต้องแจ้งธนาคารก่อน เขาถึงจะมีให้  “พร้อมจ่าย”

ปู่ผมชอบจ่ายแบบนี้!!



แต่หลังจากที่ผมเข้าไปคุย เข้าไปหาปู่ เข้าไปร่วมตัดสินใจ ผ่านไปแค่ 2 วัน!!
ก็มีเสียงตามสายจากคุณย่าผมมาว่า... “ปู่ล้ม ท่านลื่นล้ม หัวฟาดพื้น ตอนนี้รถโรงบาลมารับไปแล้ว”
ผมนี่ ทิ้งทุกอย่าง กระโดดขึ้นรถ “รีบบึ่ง” ทันที รถวิ่งเร็วแค่ไหนไม่รู้
แต่รู้ว่า ใจผมไปอยู่ที่ “โรงบาล” แล้ว

ICU ผ่านไป “ชั่วโมงกว่า” แต่ทำไมรู้สึก “นานเหลือเกิน”
เข้าใจว่า ไม่ช้าก็เร็ว  เพราะทุกคนหลีกหนีสิ่งนี้ ไม่พ้น
เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ ผมกับปู่ หรือคนในครอบครัว สามารถพูดกันได้ เป็น “เรื่องปกติ”
แต่ไม่คิดว่า มันจะเร็ว เร็วมากขนาดนี้
ในที่สุด วันนี้ก็มาถึง..



ปู่ของหลาน  ใจดี  เป็นที่หนึ่ง   
เป็นที่พึ่ง  ยิ่งใหญ่  หาใดเหมือน

คอยชี้แนะ  ชี้นำ  คอยพร่ำเตือน
อยู่เป็นเพื่อน  ให้อาศัย  เมื่อภัยมา

มาบัดนี้  ปู่ล่วงลับ  ดับขันธ์แล้ว
ไร้วี่แวว  ถามไถ่  ไม่สนอง

ทั้งลูกหลาน ร้องเรียกหา  น้ำตานอง
ปู่ฉันนอน  ล่วงลับ  ไม่กลับมา

จึงกราบก้ม  ประนมนึก  อธิษฐาน
ให้ปู่ฉัน  สู่สุคติ  ที่หรรษา

สุขสดชื่น  รื่นรมย์  สมอุรา
เสวยสุข  บนชั้นฟ้า  นานเท่านาน

ลูกหลานปู่  อยู่ข้างหลัง  ขอตั้งจิต         
น้อมอุทิศ  กุศลไป  ให้ไพศาล

ส่งถึงปู่   ผู้ดับขันธ์  เมื่อวันวาน
จงเบิกบาน  ให้เปี่ยมสุข  ทุกคืนวัน

ถ้าตกทุกข์  ขอให้พ้น  ไปจากทุกข์   
ได้ถึงสุข  ปรีดิ์เปรม  เกษมสันต์

มีสุขแล้ว   ขอยิ่งสุข  ทุกคืนวัน         
ตราบนิรันดร์ นิรันดร ตลอดกาล..

ด้วยความรักและความเคารพยิ่ง
ลูก หลาน และเหลน

[the kit]

เคยไหม?
แค่อยากขับ แต่ไม่อยากเป็นเจ้าของ..

“รถดี รถหรู”  ใครก็อยากได้ อยากเป็นเจ้าของ??
ยิ่งถ้าได้มาแบบ “ฟรีๆ” มีไหมใครไม่อยากได้!!??

ที่อื่น คนอื่น “ไม่รู้เป็นไง”
แต่กับครอบครัวของผม “ใช่ มันเกิดขึ้นแล้ว..”

รถของปู่ 2 คัน 1.Vellfire 2.5 กับ 2.Cayenne
Vellfire ได้ไปต่อ เอาไว้รับส่ง “คุณย่า”

แต่
“Cayenne” ของปู่ สภาพดีๆ วิ่งน้อย ใหม่กริ๊บ กลับไม่มีใคร อยากได้!!??

พ่อแม่ผมก็ไม่เอา บรรดาน้องก็ไม่รับ
ตัวผมเองก็ ไม่เอา

ที่ทุกคนไม่อยากได้  ไม่ใช่ กลัวคุณปู่หรืออะไร แต่อย่างใด
แต่เพราะกลัวค่าซ่อม, ขี้เกียจดูแล และเสียดายเวลากันซะมากกว่า..
ทั้งๆ ที่น้องๆ ผม อยู่ที่กรุงเทพ มีบ้านที่กรุงเทพ กันทั้งนั้น
อยู่ใกล้ที่ซ่อม มีที่ดูแล แต่ไม่มีใคร อยากเสียเวลาไปกับมัน

ผิดกันกับ ตอนที่ “คาเยน” คันนี้ เข้ามาอยู่ในบ้านใหม่ๆ
“เห่อ” ถ่ายรูปคันนี้ มากกว่าคันไหน
ผลัดกัน ขยับกันคนละนิด คนละหน่อย
“ปอร์เช๊ ปอร์เช่”

แต่ตอนนี้ ให้ฟรีๆ กลับไม่มีใครเอา..!!

ยังจำวันที่ไปซื้อมันได้
เป็นวันธรรมดาวันหนึ่ง ที่ปู่ชวนผม ไปนั่งรถเล่น ดูรถและหาของกินที่กรุงเทพ!!
เรามากันสองคน ไม่ชวนย่า!!
เพราะย่า ไม่ชอบรถแพง
รถอะไร ที่แอร์เย็น วิ่งได้ แม้สะเทือนมากหน่อย
ย่าผม ถือว่า “ใช้ได้”

บนรถ ท่านหยิบ นสพ.มาให้ดู ที่นี่ เขาลดราคาอยู่ ไปดูกันไหม??
นี้ไม่ใช่ ประโยคคำถาม แต่เป็นประโยคคำสั่งและบอกเล่าปนกันอยู่!!
เมื่อไปถึงโชว์รูม

มันก็มีรถอยู่จริงๆ ราคาก็ตามโฆษณา นั้นแหละ

ท่านก็ดูด้วยความเพลิดเพลิน
ผมก็ดูด้วย ความแปลกตาของตัวรถ เพราะตั้งแต่เกิดมา ก็เพิ่งได้ “ลูบคลำ” แบบเป็นเรื่องเป็นราวก็คราวนี้
เซลล์ก็มา “พะเน้าพะนอ” บรรยายสรรพคุณ

ท่านก็ให้ผม “คุยราคา” ให้หน่อย
ผมก็บอกท่านว่า “อย่า เพิ่งต่อรองเลย ถ้าเรายังไม่ซื้อเขา เดี๋ยวจะเสียเวลากันเปล่าๆ”
ท่านว่า “ใครบอกว่า ไม่เอาล่ะ  ถ้าได้ราคาเหมาะสม ก็เอากลับบ้านเลย!!”
ผม “.................เร็วไปไหม ยังไม่ได้เช็คข้อมูลเลยนะ”
ท่านว่า “เราเช็คดูแล้ว ที่นี่ถูกสุด เพียงแต่บาง option ขาดหายไป  ต่อรองเลยนะ ถ้าได้ก็เอาเลย!!”


ใจร้อนจังแหะ ปู่ผม..
เงินตั้งหลายล้าน ตัดสินใจเร็วยังกับของไม่กี่ร้อย!!

ต่อรองเสร็จ ไม่ต้องลองขับ มีช่างมาติดฟิลม์ให้ที่ศูนย์เลย!!
อีก 4 ชม. มารับ หรือจะให้ “สไลด์” ไปส่งก็ได้

แต่ปู่บอกว่า “เดี๋ยวเราขับกลับกันเองนะ ไม่ต้องขึ้น “รถยก” ให้ยาก!!”
ผมนึกในใจ ที่ไม่มีทางเลือก “เอาก็เอา..”

ขับกลับบ้านนอกแบบ “เกร็งๆ”
แต่รู้เลย “บารมี” ปอร์เช่  นี่มันพอควรเลยทีเดียว..

รถคันนี้ปู่รักมันพอควรเลยทีเดียว อยู่กับท่านมาหลายปี แต่วิ่งไปแค่สามหมื่นกว่าโล
และโดยมากท่านจะขับเองตลอด ขับเล่น ขับออกไปหาของกิน
ท่านขับรถไม่เร็ว ตามสภาพอายุของท่าน โดยมากจะขับแค่เพียงไม่เกิน 100

ตัวรถไม่ถึงกับจุกจิก แต่ถ้าซ่อมทีก็มีแบบจุกๆ
เพราะค่าดูแลไม่เบา!!
แถมตาม “บ้านนอก” ที่ผมอยู่
“ไม่มีศูนย์” ก็ต้องดูแลตามอู่ทั่วไป
ซึ่งก็พอมีอยู่ แต่ราคา “แล้วแต่จะสับ แล้วแต่จะโขลก!!”
และไม่ต้องกังวลว่า อู่ที่ว่าจะไม่สับโขลก
“ไม่มีพลาด” รถหรูพิเศษ“ เหยื่อ” อันโอชะ

ผิดกับใน กทม. อันนี้มีตัวเลือกเยอะ ถ้าขยัน “เข้ากรุง” ก็ทำได้

ทำไมพูดแบบนี้??
ไหนว่า ก่อนปู่ท่านเสีย ยังจะไปเอา Bentayga อยู่เลย

ใช่ครับ เพราะ ปู่ผมท่านชอบเล่นรถมาก

ท่านบอกเสมอว่า “เกิดมาทั้งที ถ้าเราหาเอง ถ้าเราไหว ไม่เบียดเบียนใคร ไม่เดือดร้อนใคร
ทั้งตัวเองและครอบครัว อยากได้อะไรก็ซื้อนะ

หาเงินมาได้ ถ้าไม่ใช้ มันก็ไม่มีค่าอะไร มันเป็นแค่ตัวเลข
ถ้าเราใช้มันซื้อความสุขให้เรา  เราก็เหมือนต้นไม้ ที่ได้น้ำ ที่ได้ปุ๋ย มันก็จะสดชื่น และมีกำลังที่จะไปต่อ...”

ดังนั้น ถ้าท่านอยากได้ ที่ว่าเหมาะสม ท่านก็ซื้อ
ท่านพูดเสมอว่า “เรานอนไปคืนนี้ พรุ่งนี้ไม่รู้ว่า เราจะตื่นขึ้นมาหรือเปล่า...
ตื่นมาที ก็ดีใจ มีใจไปอีกวัน”

ตอนที่เขียน ตอนที่พิมพ์นี่ก็ นึกถึงปู่
นึกถึงรถ เสียดายก็เสียดาย..
แต่เมื่อ “คิดย้อน ย้อนคิด” เลยนึกได้ว่า..

ท่านแนะ ท่านสอน ว่า
บางอย่าง ขายไปเพื่อ “ไปต่อ”
บางอย่าง ซื้อเข้ามาเพื่อ “ต่อยอด”
บางอย่าง ต้องตัดใจเพื่อ “ตัดรำคาญ”
บางอย่าง ต้องยอมเพื่อ “ความก้าวหน้า”
และอีกมาก..

คุยกันแล้ว ปรึกษากันแล้ว
“ต้องปล่อย..”

เก็บไว้ก็ไม่ค่อยได้ใช้ จะให้คนในครอบครัว ก็ไม่มีใครรับ เก็บเอาไว้ก็ต้องหมั่นดูแล
รถดี ใช้น้อย รู้ประวัติ ขายเต็นท์ก็เสียดาย
จะขาย ขายใครดี?
เครือญาติดีกว่า

ให้คนกันเองไปใช้ ให้คนที่อยากได้เอาไปขับ มันคงจะดีกว่า
ก็จบไปด้วยดี “Happy Together”

 


"สิ่งต่างต่างจะเปลี่ยนแปลงไป เธอเองจะอยู่ที่ไหน
อยากจะบอกให้เธอรู้ไว้ นานเท่าไร ฉันยังอยู่" - ฉันยังอยู่ อิงค์ อชิตะ



"It’s not the years in your life that count. It’s the life in your years." – Abraham Lincoln



Make it count!!

[the kit]

ศูนย์ที่ผมซื้อ “มัด-แตง” โทรมา
“ขอเชิญลูกค้า VIP ที่เป็นเจ้าของมัสแตง มาทดลองขับ New Raptor ค่ะ....บลาๆๆๆ ”

พอดี มีธุระ “เข้ากรุงฯ” เช่นกัน
เชิญมาก็ไปสิคร๊าบบ..

หัวหน้าเซลล์ : สามารถลองได้เต็มที่เลยนะครับ เพราะ คุณลูกค้าเป็นเจ้าของมัสแตงอยู่แล้ว เล่นรถแรงอยู่แล้ว ย่อมสามารถคุมรถแรงได้ดี
ผม  : ได้ๆ
แต่คิดในใจว่า   ใช่ว่า คนขับรถแรงแล้วต้องขับรถเก่งเสมอ?? และอีกอย่างคุณมั่นใจแค่ไหนว่า เขาไม่พาคุณไปเจออุบัติเหตุ!!

ตอนลอง โหมดต่างๆ ที่ให้ก็ใกล้เคียงกับในมัสแตงที่มีเลย เล่นได้ใกล้เคียงกัน

รถแรงนะ กดแป๊ปๆ 140-160
ช่วงล่าง “ดีมากกกก” ไม่แข็งเท่ามัสแตง แถม “รูด” ได้ด้วย

ผมว่า “แรงใกล้เคียงกับมัสแตง” เลยนะ
“มัสแตง ยกสูง”

ลองพอ “หอมปาก หอมคอ”
กดๆ อัดๆ แบบนี้ “แดกเช็ด” นะเนี่ย
กินกว่า “มัสแตง 2.3” เยอะเลย

เห็นฟังมาจากในกลุ่มเฉพาะมัสแตง
“เขาว่า” ซดกว่า มัสแตง 5.0 พอควร

5.0 อัดๆ จะอยู่ประมาณ 5.5-6 กม./ลิตร
แต่ Raptor Benzine 3.5-4 กม./ลิตร
ส่วน มัสแตง 2.3 Ecoboost จะอยู่ประมาณ 7-8 กม./ลิตร

โดยรวม Raptor Benzine
อัตราเร่งดีมาก
ช่วงล่างดีมาก
เบรกดี
ติ อย่างเดียว คือ “แดกเช็ด”

จ่ายเงิน “แค่นี้!!” ได้เยอะขนาดนี้ เอาไว้ “ขับเล่น ขับลุย”  ผมว่า “คุ้ม”
แต่ถ้าใช้เป็น “Daily Use” คงบอกได้แค่ว่า “แล้วแต่อัฐ”
เพราะเรื่องเงินนี่ มันเปรียบกันยาก เงินหลักหมื่นของบางคน แค่เพียงไม่กี่ชั่วโมง หรือไม่กี่นาที เขาก็หาได้!!
เพราะ เห็นเจ้าของหมู่บ้าน “เพื่อนซี้ (ซั๊ว)” ของผม เจ้าของรถตัวจริง บอกมาว่า...
ขับแบบประคองๆ เบาๆ ยังไงก็ไม่ดีไปกว่า “8 โลลิตร!!” นะ

Raptor นี้ มันสามารถใช้ได้ทุกวันจริงๆ รถสูง ขับสบาย ไม่ต้องระวังมาก
มันไม่เหมือนพวก “ซุป-คาร์” ที่เห็นไม่ค่อยเอาออกมาวิ่ง
ไม่ใช่เพราะอะไร..

รถมันเตี้ย-แบน-กว้าง ราคาสูงมาก และ ถ้าผู้ที่เป็นเจ้าของ ที่ค่อยๆ สะสม ค่อยๆ หามาเอง
ไม่ใช่ “เงินเตี่ย-เงินม๊า-เงินอากง-เงินอาม่า” อาจจะรวมไปถึง “เงินพิเศษ”  และอื่นๆ สายเทาๆ ดำๆ ก็ตาม”

กว่าจะได้ขับ ก็มักจะ “ส.ว.” พอควร
พอถึงวัยนี้ การขึ้น-ลง รถ เตี้ยๆ แบนๆ
“ไม่ง่าย”

แต่ก็อย่างว่า “ความฝันในวัยเยาว์ เป็นแรงผลักดัน ให้ซื้อความสุข ในช่วงสูงวัย” ได้
ถึงแม้ว่าตอนนี้  ได้ขยับนิดๆ ดูๆ ดมๆ ก็คงจะ “ชื่นใจ” แล้ว

อย่างว่า มี “3 สิ่ง” ที่น้อยคนจะได้มันมาพร้อมกัน
นั่นคือ “เงิน, เวลา และสุขภาพ”
มันจะมา ไม่ค่อยพร้อมกัน “ต่างกรรม ต่างเวลา”
ยกเว้น คุณจะเป็น “กุมารเศรษฐี”


ไหนๆ ไปลองรถที่โชว์รูม Ford แล้วก็ขอลอง New Everest ด้วยเลย
ช่วงล่างดี  เครื่องเงียบมาก อยู่ในรถ ไม่บอกก็นึกว่าเบนซิน
อุปกรณ์ต่างๆ ให้มา “เหลือเฟือ”

โอ้ว.. ทุกอย่าง เมื่อกลับไปมอง PJS 2.4 4WD 2015 ที่ใช้อยู่แล้ว
เจ้า EVE มัน เหนือกว่าทุกด้านจริงๆ

ยกเว้น!!
ระบบขับเคลื่อน 4WD นี่ล่ะ ที่ยังกิน PJS ไม่ลง!!

ผมเข้าใจเองว่า ตอนไมเนอร์ AWD น่าจะมีมาให้นะ
คือ จะมีให้ในตอนนั้น เพราะ “พี่หญ่ายยย” กำลังเปิดตัว
ถ้าตามที่ HLM ว่า คือ ปลายปีหน้า 2023
ถ้า ไม่เจอการ “ชิพท์-หาย” นะ!!
รอดูไปครับ

การขับขี่ เท่าที่ผม ได้ลองสัมผัสมา ในหลายรุ่น ทั้ง รุ่น Top และไม่ Top
โดยรวมและโดยส่วนตัว ผมชอบ New EVE, PJS, MuX และ FTN ตามลำดับ
ส่วนใครจะชอบยังไง อันนี้ “ตูดใคร ตูดมัน ฟีลใคร ฟีลมัน” นะ  ไม่ถูก ไม่ผิด..

ก่อนออกจากศูนย์ หัวหน้าเซลล์ถามว่า :   สนใจจอง Raptor เลยไหมครับท่าน..?
ผม : ยังก่อนครับ ผมมี Dmax เก่าๆ อยู่แล้ว ถ้าเบื่อมัน และอยากแรง เดี๋ยวจะเอามัสแตงไปยกสูง!!   อิอิ

 Whether you think you can or you think you can’t, you’re right. – Henry Ford

[Weetting]

ยังตามอ่านอยู่นะครับ 

 

[mayinlove]

สนใจ remap ครับ รบกวนแนะนำRemapขอนแก่นหน่อยนะครับ

[the kit]

สนใจ remap ครับ รบกวนแนะนำRemapขอนแก่นหน่อยนะครับ

ที่ ตจว. ไม่ทราบจริงๆ
เอาที่ผมรีวิวนี้ ในตอนต้นเป็น "Guideline" ได้เลยครับ

แนะนำว่า ลองพูด ลองคุย ลองถามดู "ถูกจริต" คนไหน ก็คนนั้นล่ะครับ
ส่วนจะดีไม่ดี อันนี้ ผมไม่ทราบนะ

หรือลองถามสมาชิกใน Discussion Forum ดูนะ

[the kit]

555 พูดเล่นๆ แต่มีคนทำจริงๆ
“มัสแตง ยกสูง”
รถสปอร์ตทางเรียบ แต่เอาไปแต่ง “ออฟโรด” ซะงั้น
ตอนแรก นึกว่าจะมีไม่เยอะ
ไปๆ มาๆ “911” ก็เอากับเขาด้วย
รายนี้เป็นเรื่องเป็นราวเลยทีเดียว
อย่างว่า ความคิดของ “ฅ” ไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ

พอพูดถึงเรื่องนี้ ผมมีเรื่องของ “รุ่นพี่” ที่สนิท มา “เม้าท์” ให้ฟัง

พี่คนนี้ เป็นรุ่นพี่ผม “สิบกว่าปี” ขอใช้ชื่อย่อว่า “ม”
พี่ ม. เป็นลูกชายคนโตของบ้าน ทางบ้านฐานะดี ระดับเศรษฐี แถวพื้นที่ๆ ผมอยู่
สมัยผม “ละอ่อน” พี่แกก็หนุ่มเฟี้ยวแล้ว
แกเป็นคน “ชอบแต่งรถมากกกกกกกกกกก”
แต่แกจะมี “ความพิเศษ” กว่าคนอื่น??  ส่วนจะพิเศษยังไง
อ่านต่อไป เดี๋ยวก็รู้..

สมัยนั้นแกมี L200 Cyclone หัวเดียว (สมัยนั้น “แคป” ยังไม่เกิด)
แกเอามาแต่งสไตล์ .”Rallycross” กึ่งยก-กึ่งโหลด ใส่กันโคลนแดง
ล้อ OZ ยางสโนว์  ตัดท้ายกระบะให้สั้น น่าจะ “ฟุตกว่าๆ”
ผูกโบ ท่อตรง
สวยเลยล่ะ ในสายตาผมในตอนนั้น

ตอนนั้น ผมน่าจะขับ “Subaru GFT1800 ” นะ

จากนั้น พี่ ม. แกก็ไปจับ impresa มาคัน แต่เป็นแค่เครื่อง NA ขับสอง
ผมก็ งง ว่าทำไมไม่จับเอาตัว Turbo มาเลย
อย่างว่า พื้นฐานแก เป็นคนชอบแต่ง ชอบทำ
อะไรที่มันสำเร็จรูปมา “มันคงไม่สนุก!!”

พี่แก มีรึจะอยู่เฉย..
ไปหาเอา “รถตัด” จากเชียงกงมา
Im Turbo 280 คอแดง พร้อมเกียร์ 6 สปีด
Top สุดของรุ่น ณ ตอนนั้นมาดัดแปลงใส่

การดัดแปลงไม่ยาก เรียกได้ว่า “แทบจะร้อยน็อตใส่” เลยทีเดียว

ใส่เครื่องเสร็จ ก็ต้องมี Body part สวยๆ มาเติมเต็ม
STi แท้ ยกชุด ทั้งเกจ์วัด เบาะ และ นู่นนี่นั้น มาครบ!!

บอกแล้ว คนมีตังค์ “เนรมิต” ได้

ยังๆ ไม่พอ แกยังไปหา Im หัวตัด มาเพิ่มอีกคันไว้เป็นอะไหล่
แกมีโกดัง เก็บรถและของแต่ง ขนาดใหญ่เลย
อะไหล่และอื่นๆ ต่างๆ ของรถหลายคันของแก มี “สำรอง” น้องๆ เชียงกง!!

ช็อคอัพมือสอง
แปลกไหม???
“ไม่แปลก ธรรมดามาก”

ใครก้ซื้อ ก็หามาใช้กันได้ ตามปกติ
แต่ที่แปลก คือ “ช็อคอัพ” ที่แกซื้อมา มันแตก มันรั่วมาแล้ว ทั้งๆ ที่แกก็มีตังค์ และสามารถหา สภาพปกติได้!!??

แกบอกจะเอามาโมใหม่??!!
สภาพเดิมๆ มันไม่เพียงพอกับ “มือ ตีน” ของแก!!

คนที่โม ไม่ใช่ใคร “อดีตเพื่อน” ของผม ที่เป็นลูกร้านท่อไอเสีย ที่เคยเล่าให้ฟังไปนั้นเอง
ไอ้อดีตเพื่อนนี่ “มันไม่ได้” จบช่างยนต์ หรือ ได้ไปทำงานกับบริษัท ช็อคอัพชั้นนำ หรือเครื่องยนต์แต่อย่างใด!!
มันจบแค่ “ปวช. ช่างเชื่อม” นะ

แต่ไอ้นี่ มันก็มีความสามารถใน “การโม้” ระดับเทพ
“โม้” นะ  ไม่ใช่ “โม”!!
เมื่อไม่นานนี้ ผมฟังมาจากปากคนรู้จักว่า มันสามารถ
“อ่านญี่ปุ่นออก Wiring สายไฟ ที่มารวมๆ เป็นกระจุกๆ หลายร้อยเส้นได้!!”
เอากะมันซิ!!
ส่วนจะจริงหรือจะโม้ ผมก็มิอาจทราบได้ เพราะ ไม่ได้คุยกัน ฟังเขามาอีกที

 ตอนนั้น ผมได้เขาไปดู “กรรมวิธี” ในการโมช็อคอัพด้วย
เริ่มจาก...
เอาหินเจีย ตัดที่กระบอกช็อคออก เพื่อจะเปลี่ยนน้ำมันและซีล
ดีที่มันไม่ระเบิดจากแก็สที่อัด หรือมันรั่วออกหมดแล้ว ก็มิอาจทราบได้..

ซีลหาเทียบเอา อะไรที่ขนาดมันได้ก็เอาอันนั้นล่ะ ไม่ต้องไปสนว่า เดิมมันใช้อยู่กับอะไร
แต่ที่ “ฮา” ที่สุด คือ น้ำมันที่กรอกเข้าไป

ไม่รู้สูตรไหน  แต่ผมขอเรียกว่า “สูตรเตี๋ยว!!”
มันไม่ใช่ “น้ำมันไฮโดรลิค” หรือ น้ำมันอะไร ที่ใช้เกี่ยวกับช็อคอัพทั้งนั้น
แต่เป็น น้ำมันเครื่องใช้แล้ว กับน้ำมันเฟืองท้ายใช้แล้ว ผสมกันแล้ว เติมเข้าไปแทน!!
“เอากับเขาซิ”

บ.แม่ของ G/A/B เห็น คงต้องมาขอดูงานกันยกใหญ่!!
แต่สูตรนี้ พี่ ม. บอกว่า “มันหนึบดีนะ!!??” เดิมๆ มาจากญี่ปุ่น สู้ไม่ได้!!!
“ว่าซ้านนนนนนนนนน.....................”

เครื่อง “คอแดง” ของรถคันนี้ ก็หาเดิมๆ ไม่
ใส่กล่องต่างๆ และอะไรเข้าไปตามยุค
ตัวปรับบูสถ์ ปรับน้ำมัน “ต้องมี”

แคมพอก แคมเจีย
.
เทอร์โบไปหยิบยืมของรุ่นไหนมาไม่รู้ เอามากลึง “ปากใบ” ให้ใหญ่ขึ้น แบบกรวยไปจนถึง ใบเทอร์โบ!!
สูตรนี้ ได้มาแต่ใด??
พี่ ม.บอกว่า “ในสนาม รถสูตร เขาใช้กัน”
“ต้นจัด ปลายไหล ไม่รอรอบ...??!!”
สนามไหน สูตรไหน ไม่รู้ แต่ตาม “คุณค่าทางใจ” พี่เขาว่า “แรงงงงงงงงงงงงงงงงงง”

ล้อสำหรับคันนี้ น่าจะมีไม่ต่ำกว่า 3-4 ชุด เอาไว้ใส่ “ต่างกรรมต่างวาระ”
1.ล้อ 16 ยางสโนว์
2.ล้อ 17 ยางสปอร์ต
3.ล้อ 18 แม็ก Prodrive ยางสลิค เห็นว่าขอซื้อมาจาก พีระเซอร์กิต
และอื่นๆ

ยางสลิคมือสอง นี่พี่แกมี น่าจะเกิน 20-30 เส้น เพราะไปขอซื้อเหมาจากรถแข่ง “Thailand Circuit”
ยางสลิค เอามาไว้วิ่งบนถนนหลวง ถนนปกติ!!
“เอากะเขาซิ”

เช้าใส่ยางสโนว์  ค่ำๆ ไปเที่ยวใส่ยางสลิค!!
แกว่าง วันๆ เปลี่ยนแต่ล้อ!!

ผมสนิทกับแก แกชวนผมไปเที่ยวบ่อย นั่ง “อิม” นี่ล่ะไปเที่ยว
แกว่า : ยางสลิคนี่เกาะหนึบจริงๆ!!??

เกาะจริง ถ้ามันอยู่ในสนามแข่ง บนพื้นที่สะอาด ไม่มีน้ำมันเครื่อง ไม่มีกรวด ไม่มีน้ำ
แต่นี่มันบนถนนสาธารณะ มีทุกอย่าง “คาดเดา” ไม่ได้
ถ้าไม่ใช่ “ระบบขับสี่ที่ดี” ในอิม
ต้นไม้และเสาไฟ หลายต้น “ถูกโค่น” ลงแล้ว!!

หลายครั้ง ตอนไปเที่ยว ฝนยังไม่ตก แต่ขากลับฝนตก
“ขับสี่” ก็ช่วยอะไรไม่ได้
เหมือน “ปลาตีนเดินบนเลน” ลื่นไปลื่นมา ได้แต่จอดอย่างเดียว..

รถคันนี้ ถูกจูนด้วย “สูตรเตี๋ยว”
มันวิ่งได้ มันแรงอยู่ แต่ถ้า “ถูกสูตร” มันควรต้องแรงกว่านี้เยอะ
ตีนปลายไม่รู้ได้เท่าไร แต่ฟังจาก พี่ ม. แกว่า “สองสี่ สองห้า ยังเหลือ!!”

ส่วนจริงๆ ตีนปลายมันจะวิ่งได้เท่าไร
“ผมก็ไม่รู้”
พี่ ม. บอกมาว่าไงก็ว่างั้นแล้วกันนะ

แต่ที่ผมรู้ รู้แน่ๆ ว่า คันนี้ “แดกเช็ด”
เครื่อง 2 ลิตร ขับแค่ 140-150 กินอยู่ที่ “ห้าโลลิตร”
แถม “คลัชท์หนักมากกกกกก”
ไม่หนักได้อย่างไร
“Triple Plate” แถมโมสปริงกดคลัทช์
เบ็ดเสร็จ หนักกว่า ขับ “สิบล้อ” รุ่นเก่าๆ!!

เคยช่วยแกขับ ในกทม. อยู่ครั้ง
กระโดดแบบกบ พร้อมจะใส่ตูดคันหน้าทุกเมื่อ
เพราะออกตัว รอบปกติไม่ได้ แถมคลัทช์แข็ง
ต้อง “สองพันขึ้น” ถึงจะไม่ดับ แค่รอบเดินเบาก็ปาเข้าไป “พันสอง-พันสี่” แล้ว

คันนี้ ถ้าขับนานๆ ลงมานั่งอยู่เฉยๆ
พวกกันจะนึกว่า “อะไร มึงจะมีดนตรีในหัวใจขนาดนั้น”
ขาซ้ายจะเขย่าๆ และสั่น อยู่ตลอด!!


ถัดจากคันนี้ พี่ ม. ก็มี
Pajero Shogun ตัว Top เครื่องเบนซิน มาเป็น “ที่ลง” ให้แก
บอกแล้วว่า “พี่ ม.” ไม่ใช่ “คนธรรมดา”
“ธรรมดา โลกไม่จำ”

รถช่วงล่าง “Coil Spring”   แกก็มาเปลี่ยนเป็น “แหนบ”
ไอ้เปลี่ยนแบบนี้ ก็ยังพอเข้าใจว่า “เน้นลุย”

แต่ๆๆๆ
เกียร์ออโต้  แกก็มาเปลี่ยนเป็น ธรรมดา
เครื่องเบนซิน ก็มาเปลี่ยนเป็น ดีเซล

เขาบอกซ้าย  พี่แกจะไปขวา
เขาบอกไปหน้า  แกก็จะถอยหลัง
จะเหลือเชื่อฟัง แต่โดยดี ก็ตอน “ติดเด็ก” ใหม่ๆ นี่ล่ะ
“ชี้นกเป็นไม้  ชีไม้เป็นนก”

รถคันนี้ทั้งคัน เหลือแค่ “กระดอง” กับภายใน
เบาะไม่เดิม มีของเหลือจาก “อิม”
รถคันนี้ใส่ “วินซ์” หน้า-หลัง ครบ

แอบแซวแก “พี่ไม่ใส่วินซ์ ซ้าย-ขวา ด้วย??”
 แกว่า : “ไม่ได้ๆ เดี๋ยวมันดึงตัวถังและแชสสีย์ฉีก”
“เดี๋ยวเสริมแชสสีย์เพิ่มและทำตัวยึดดีๆ ก่อน ว่าจะใส่เหมือนกัน!!!”

เอากับพี่เขาสิ!!  บอกแล้ว “ธรรมดา โลกไม่จำ”

เมื่อก่อน ผมไปป่ากับแก และผองเพื่อนบ่อยเหมือนกัน
รถใคร รถมัน  ไปกันราวๆ 5-6 คัน

“ตังค์เหลือ” หาเรื่อง พังรถเล่น!!

ขับเข้าป่า ต้องขับช้าๆ จะให้ดีต้องมี “คนนำทาง”
พวกผม เข้าป่าแบบ “คุณหนู” เพราะ พก “พลรับใช้” ไปด้วยกันหลายคน
ไป 2-3 วัน แต่พกอาหารการกินและเครื่องดื่ม ยังกับไป “ครึ่งเดือน”
ออกจากป่า แค่เพียงเพื่อมาหาซื้อ “น้ำแข็งและโซดา” ก็บ่อยไป..

“ยุทโธปกรณ์” ครบครัน ตั้งแต่ เบา ไปยัน หนัก
คลังแสงเคลื่อนที่ พกกันไปที ว่ากันเป็น “พันนัด!!”
ทั้ง ติดลำกล้อง, Pointer แถมยังมี Silencer ด้วย!!

“กองกำลังไม่ทราบฝ่าย”

เข้าป่าโดยมาก จะวิ่งกันด้วย “โฟว์โล” เกียร์ 1-2 แค่นั้น

แต่พี่ ม. แกขับเข้าป่า เหมือนขับ Rally
ไอ้เพื่อนซี้ผม “เจ้าของหมู่บ้าน” ไอ้นี่ก็อีกคน
“ลูกบ้า” อันเดียวกัน  ถ้าไม่บอกก็จะนึกว่า “คนเดียว ขับสองคัน”

ไม่ต้องห่วง ทั้งสองคันนี่ พังแทบทุกครั้ง ที่เข้าป่า
และหลายครั้ง ก็พังอยู่ในป่า ต้อง “ลากศพ” ออกมาก็บ่อย!!
จนถึงขนาดว่า ในกลุ่มต้อง “ร้องขอ” อย่าขับแบบนั้น
ถ้าเป็นแบบนั้นอีก ทิ้งไว้กลางป่าจริงๆ ด้วย..

ถึงตอนนี้ พี่ ม. ก็รับเงิน “คนชรา” มาหลายปี
สมบัติที่มี มันก็ลดน้อยลง เพราะ พี่ท่านสบายมาตั้งแต่หนุ่ม

ตอนนี้มีเมียใหม่ คนที่เท่าไร จำไม่ได้
แต่ “สิบนิ้วมือ สิบนิ้วเท้า” ไม่พอนับ
นี่เฉพาะเมียนะ เด็กๆ ไม่นับ!!

แกก็ยังคงเป็นแกอยู่ “ไม่เคยลดน้อย ถอยลง”
ก็ขอให้ พี่ท่าน “แข็งแรง อยู่แบบธรรมดาโลกไม่จำ เช่นนี้ ไปนานๆ นะพี่”

เอาไว้ผมจะเอา “มัด-แตง ไปยกสูง” เมื่อไร
พี่ ม. จะเป็น “ที่ปรึกษา” ลำดับต้นของผมเลย..
“พี่ ม. คนเหนือโลก”

พี่ ม. ฝากมาบอกว่า...
I am not a product of my circumstances. I am a product of my decisions. – Stephen Covey
สิ่งที่ฉันเป็น มาจากการตัดสินใจของฉันเอง ไม่ได้มาจากภาวะแวดล้อมตัวฉัน

และ
ไม่ได้เจ้าชู้  แค่ยังไม่รู้จะเลือกใคร..

เป็นให้เธอได้ทุกอย่าง ยกเว้น “เป็นปกติ”   

[the kit]

ผมว่าใน “HLM” นี้ น่าจะมี “นักเล่นนาฬิกา” อยู่พอควรนะ..
มี “จดหมายน้อย” ทักมาว่า “เรือนใหม่อีกแล้วเหรอพี่?

จะว่าใช่ ก็ไม่เชิง
จะว่าเชิง ก็ไม่ใช่!!??

คือ จริงๆ ผมเคยมีรุ่นนี้ สีนี้ สายแบบนี้ ตั้งแต่มันเปิดตัวใหม่ๆ เมื่อ 2-3 ปีมาเห็นจะได้นะ
แต่ก็ได้ขายไป เพราะ พอใช้ไปสักระยะ รู้สึก “ไม่ถูกใจ” ในสีขอบของมัน
ในรุ่นแรก สีแดง มันจะไม่แดงสด มันจะออก Shocking Pink,  ส่วนสีน้ำเงินมันก็จะออก “ฟ้าเข้ม” ซะมากกว่า
แต่นี่รุ่นปัจจุบัน สีมันสดได้ใจมากกว่า เลยต้อง “หวล” กลับมาซื้ออีกรอบ
 เรือนนี้ สั่งไว้นานนนนนนแล้ว......

เดี๋ยวนี้
โดยมากเกือบทุกเรือนของผม ตั้งแต่ช่วงโควิดนี้ มักจะออกจาก RL AD Thailand
ไม่ใช่ เพราะอะไร
“ราคา” ก็ส่วนหนึ่ง และ Connection ที่ดีอีกส่วนหนึ่ง

ผมได้จาก RL AD TH ราคาดีกว่าของหิ้ว แต่ก็แพงกว่า “ราคาตั้ง!!??”

ทำไมแพงกว่า ราคาตั้ง?
ตั้งแต่ช่วงมี “โควิด” มา
มันทำให้อะไรๆ บนโลกใบนี้ “บิดเบี้ยว” ไปอีกเยอะ..

สำหรับ นาฬิกา Hi end, Luxury Brand แล้ว
ก่อนมี โรคบ้านี่  ราคาขายอย่างเก่งก็ตามป้าย ไม่มีส่วนลด
รุ่น “ไม่ฮิต” มีส่วนลดให้ “ตามหน้าตาและความสนิท!!??”
แต่ตอนนี้ “รุ่นฮิต” ทุกรุ่น!!  ขายแพงกว่า ราคาตั้งจาก Brand นั้นๆ ทั้งสิ้น
รุ่นไม่ฮิต ก็ไม่มีส่วนลดให้อีกแล้ว

แต่ก็ยังมีคนซื้อ และมีคนหา
มิหนำซ้ำ “หาซื้อกันมากกว่า สถานการณ์ปกติ” อีก!!
ยังไม่พอ ถึงขนาดว่า ตามช็อป ต้องติดป้ายว่า “ไม่ขาย เพื่อจัดแสดงเท่านั้น” ในทุกช็อป!!!

ตอนที่ “น้องเซลล์ประจำ” ที่ดูแล คิวผมอยู่
โทรมาแจ้ง “มีข่าวดีมาแจ้งคะ คุณลูกค้า เรือนที่คุณลูกค้าจองไว้มาถึงแล้ว สะดวกเข้ามารับวันไหนค่ะ..
ราคา.........!!!!
เข้ามาครั้งนี้มี Surprise นะค่ะ”


“Surpriseๆ”
อะไร คือ Surprise
ราคาที่ให้ก็ Surprise คือ แพงอยู่แล้ว
มัน คือ อะไรอีกกกกกกกกกกกกกก

อยู่รู้ก็ต้องไปดูซิฮะ
 ขี่ม้าเข้าเมือง..

ม้านี้ดีนะ
ถึงแม้จะเป็นตัว “ถูกสุด” ไปบางห้าง “รปภ.” ก็ให้จอด “ซุป-คาร์” ได้
แต่ถึงบางห้างจอดไม่ได้ ผมก็ “พอมี”  “บัตรคนสำคัญมาก” อยู่กับเขาบ้าง..
เลยทำให้ “ห้างในเมืองหลวง” ก็สามารถจอดได้ทุกห้างเช่นกัน..

ไปถึงที่ช็อป วันนั้น ล/ค เยอะ ทั้งไทยและเทศ

น้องเซลล์ก็ เข้ามารับและทักทายตั้งแต่หน้าประตู  “นู่นนี่นั้น” ตามระเบียบ
และเชิญให้ไปนั่งใน “ที่เชือด” เฉพาะ
คือ ถ้าคุณได้นั่งตรงนี้ คือ “ถูกเชิญ” มาเสียตังค์เฉพาะ!!
แปลไทยเป็นไทย ได้ว่า  “นั่งตรงนี้ คือ เสียตังค์แน่นอน” ไม่มากก็น้อย ตามที่ได้ถูกแจ้งไว้!!

ส่วน ล/ค ทั่วไป ก็สามารถนั่งดู ยืนชม หน้าตู้ขายได้ตามปกติ
“รุ่นไม่นิยม” สามารถขายได้ในบางเรือน!!
ส่วนรุ่นนิยม ยังคง “ไม่ขาย เพื่อจัดแสดงเท่านั้น” (หรือเปล่า..??)

ประทับที่เชือดเสร็จ
น้องเซลล์ก็นำตัวที่สั่งไว้มาให้ “ตรวจสอบ” รายละเอียดต่างๆ เท่าที่คุณจะพอใจ
เมื่อพอใจ ก็ “พร้อมเพย์” ได้เลย..

น้องเซลล์ : นี่ค่ะ ที่ Surprise คุณท่านสามารถรับกลับได้นะคะ ถ้าสนใจ
เลือกสายแบบไหนก็ได้ หรือจะเลือกรับสองเรือนก็ได้เช่นกันคะ
ราคา.........!!!!!!!!!!!!






ผม : เฮ้ย!! ราคาแรงเว่ออออ ไม่ไหวหรอก พิมพ์แบงค์ไม่ทัน ไอ้ที่พิมพ์ไว้ก็ยังไม่แห้งดี!! ไว้ว่ากันโอกาสหน้านะ!!
แต่ผมแอบสนใจเรือน Daytona Everose Gold ที่โชว์อยู่นะ
ขอดูได้ไหม?

หน้าตู้ที่โชว์เรือนที่ผมอยากดู มี “ล/ค ชาวจีน” ดูอยู่

น้องเซลล์ : ได้ค่ะ รอ ล/ค ที่ดูอยู่ออกไปก่อนนะคะ  เดี๋ยวหยิบให้คะ

พอ ล/ค ท่านนี้ หันไปดูที่ตู้อื่น น้องเซลล์ก็ไปหยิบเรือนที่ว่า มาให้ผมทันที






น้องเซลล์ : เพราะ เราให้ได้แค่ชม ไม่สามารถหยิบออกมาให้ ล/ค ทั่วไปดูได้!!
ผม : เขาจะซื้อก็หยิบให้ดูไม่ได้เหรอ?
น้องเซลล์ : ตอนนี้เรือน Sport ทุกเรือน จะขายให้ ล/ค ประจำ และ VIP ก่อน เท่านั้นคะ
ผม : เรือนนี้ ได้แค่ดู ใช่ไหม?
น้องเซลล์ : สำหรับคุณท่าน ขายให้ได้คะ ราคา........!!!!
ผม :  อ้าว.. นึกว่าให้แค่ดู เลยขอมาดู แต่ถ้าได้ราคา “list” แบงค์ที่พิมพ์ไว้ ก็อาจจะแห้งทันนะ!!
น้องเซลล์ : 555 คุณท่านก็ว่าเกินไป ตอนนี้หากันเยอะ คนที่จะซื้อได้ก็เฉพาะคุณ ล/ค ประจำ และ คุณ ล/ค VIP เท่านั้นค่ะ  แต่บางเรือนก็ไม่สามารถขายให้ได้เช่นกันนะคะ

ล/ค ที่เข้ามาดู หลายท่าน อยากมานั่งตรงนี้แบบคุณท่านนะคะ เพียงแต่เขายังไม่มีโอกาส และนาฬิกาเกือบทุกเรือนในร้าน ให้ได้แค่ดูจริงๆ
ถ้าไม่ใช่ ล/ค ประจำ และ VIP  ก็จะไม่ได้หยิบออกมาให้สัมผัสแบบนี้ค่ะ

ผม : (คิดในใจ) ฟังพูดซะ นึกว่า ตัวเราเองมีค่าเยอะเลย  สงสัยที่ช็อปเขาอบรมมาดี ทำให้ ล/ค เคลิ้มมาก

ล/ค ที่ดูอยู่ก่อนนั้น กลับมาดูฝั่งผมอีกรอบ แล้วก็มองเรือนที่อยู่ในมือผม แล้วก็หันไปมองหน้าเซลล์
แล้วก็บ่นๆ อะไรไม่รู้ แล้วเดินออกไป..

ผม : เรือนนั้นล่ะ อยากได้ White Gold หน้า Meteorite มานาน
น้องเซลล์ : เรือนนี้ หยิบให้ดูได้ ให้ลองทาบได้ แต่ขายไม่ได้คะ ของคุณ....(ดาราดัง)  ล/ค นาย เดี๋ยวคงเข้ามารับคะ
ผม : ลงจองเลยนะ มาเมื่อไร ช่วยแจ้งด้วยนะ แต่ถ้าตอนที่แจ้งผม ถ้าเงินไม่เหลือ แบงค์ยังไม่แห้ง หรือราคา “บวก” ไปเยอะ ก็คงยังไม่ได้รับนะ






น้องเซลล์ : ได้เสมอค่าาาา  ว่าแต่ว่า ไม่รับ “Sprite” กลับไปด้วยจริงๆ เหรอคะ หากันมากนะคะ
ผม : ยังก่อนนะ พิมพ์แบงค์ไม่ทัน จริงๆ




การขับรถในเมืองหลวงนี่ "เยอะแยะ วุ่นวาย"
ขนาดรถของผม ราคาทั่วๆไป ยัง “เล่นเอาซะเกร็ง”

นึกถึงว่า ถ้ามีปัญญาเป็นเจ้าของซุป-คาร์ อย่างใครเขา
คันละหลายสิบ..
จะกล้าเอามาขับ อย่างเขาหรือเปล่าน้อ..
โดยเฉพาะ ย่านช็อปปิ้ง ยอดฮิต รถเยอะชะมัด..

แต่ช่างมันเหอะ
แค่นึกถึง “ราคา” ของมันแล้ว
หักลบกลบหนี้, บวกลบคูณหาร แล้ว
คงได้แค่ดู ก็เป็นบุญตาแล้ว..

แต่จะว่าไปแล้ว ผมคงจะ “ถ่อมตน” เกินไป!!
เพราะจริงๆ คันที่ “จั่วหัว” รีวิวในกระทู้นี้ ให้ฟังตั้งแต่ต้นเมื่อหลายปีมาแล้ว
เอาไปจูนเพิ่มอีกนิด แต่งเพิ่มอีกหน่อย
ผมก็มี “ซุปเปอร์คาร์เชิงพาณิชย์” เหมือนกันนี่นา...!!
“All New Dmax SVJ”



สวัสดีปีใหม่ 2566 ทุกท่าน
คิดหวังสิ่งใด  ขอให้สมหวัง ซึ่งมันอาจไม่ถึงกับทุกเรื่อง
ขอแค่เพียง “บางเรื่อง” ที่หวังแล้วมันเป็นจริง
ก็คงจะ “Happy” นะครับ

็Have a prosperous New Year!!


I would rather die of passion than of boredom. – Vincent van Gogh
ฉันยอมตายเพราะความลุ่มหลงดีกว่าต้องตายเพราะความเบื่อหน่าย

[the kit]

กระทู้รีวิว Remap Dmax
แต่!!  ไม่ได้เล่าถึง  Dmax ของผมนานนนนแล้ว
วันนี้เอาซะหน่อย
ตั้งแต่ “รีแมพ” มา รู้สึกเหมือนไม่นาน
แต่พอย้อนไป “นับเวลา” ดู ก็ ห้าปีกว่า แล้วนะ ถ้ารวมอายุตัวรถ นี่ก็ 11-12 ปีเห็นจะได้
และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา หลังจาก “รีแมพ” มา ก็ใช้เพิ่มไปอีกแค่เพียง หกหมื่นกว่ากิโล

นี่ก็จะครบปีแล้วหลังจากที่ได้เอารถเข้าเช็คศูนย์ เปลี่ยน นมค. และอื่นๆ ตามระยะจากครั้งที่แล้ว
สงสัยรอบนี้ คงจะเอาเข้า “Late” เพราะ ยังไม่ถึงหมื่น กม.
จากเดิมที่เคยตั้งใจไว้ว่า จะพยายามใช้มันให้ได้ “ปีละหมื่น กม.” และจะเอารถเข้า Chk. ปีละครั้ง
แต่ตอนนี้ชักเสียดายตังค์ ทั้งที่ไม่กี่ตังค์!!??
เลยขอเอาระยะทางเป็นที่ตั้งก็แล้วกัน
คิดว่า จากนี้ ไม่เกินอีก 6 เดือน “น่าจะ” ได้เอารถเข้าเช็ค “หมื่นโล” นะ

จากระยะเวลาและระยะทางที่ใช้ ตั้งแต่รีแมพมา
ก็ไม่เคยมี ปห. ใดๆ ทั้งสิ้น จากการรีแมพ และในทุกๆ ส่วนจากโรงงานมา
มันยังคง “รับใช้” ได้อย่างดีเยี่ยม “ไม่มีรวน”
ไม่มีจุกจิก ไม่มีน้ำมันย้อย น้ำมันซึม ช็อคอัพก็ไม่รั่ว ซีลต่างๆ ก็ไม่มีแตก
“ดีแท้....”

สีสันก็ยังสดใส เพราะ รถโดยมาก จอดอยู่ในที่ร่มตลอด
แต่ก็มี “กะเทาะ” จากเศษหิน จากการใช้งานอยู่บ้าง

มองมันทุกครั้งก็ยัง “โอ” อยู่  หน้าตาโดยรวมก็ยัง “ไม่หลุด” ยุค
โฉมโดยรวมก็ยังไม่แก่ เมื่อเทียบกับ “พรรคพวก” ที่มีขายอยู่ในปัจจุบัน

การกินเชื้อเพลิง ก็ยังคงดี
ผมเติมถังหนึ่งนี่ กว่าจะได้เติมอีกทีก็ “ลืมไปเลย”
นึกขำๆ ว่ารถคันนี้ มันใช้ “อากาศ” เป็นเชื้อเพลิงรึเปล่า!!??

พูดถึงการกินเชื้อเพลิง ก็นึกถึง “เพื่อนซี้” ของผม 
“เจ้าของหมู่บ้าน”

ช่วงหยุดปีใหม่ มันและคุณเมีย พร้อมด้วยคุณลูก มา “สถิตย์” อยู่ที่บ้านผม

คุณเมียผมกับคุณเมียมัน ก็คุยกันว่าด้วยเรื่อง “ของคุณเธอ”
มีหลายเรื่อง ที่เรา “ไม่สามารถก้าวล่วงได้” และหลายอย่าง ก็ไม่สามารถเข้าใจแบบเป็น “ตรรกะ” ได้เลย
ไม่ว่าจะ C H L G B ฯลฯ รวมทั้ง "เนื้อหนัง" และรุ่น “ยิบย่อย” อีกเยอะแยะ
ก็แล้วแต่พวกเธอ ถ้าเธอมีความสุข เราก็ควรจะสุขด้วย
เขาก็ต้องมี “Universe” ของเขา!!
"เพื่อความสงบสุขและสันติสุข"
ห้าม!! ก้าวล่วงโดยเด็ดขาด!!!!!!!!!

ช่วงปีใหม่ แม่บ้านหยุด
หน้าที่ครัว ก็เป็นหน้าที่ผม กับคุณเมีย
มันมาแบบนี้ ก็ต้องต้อนรับอย่างดี
“โอมากาเสะ” ตามใจเชฟ
แปลไทยเป็นไทย อีกที “แล้วแต่กู มีอะไรให้แหลก ก็แหลกซะนะ!!”

คุณลูกของมัน ชอบ “รสมือ” ผมมาก บอกว่า “ป๊า ไม่เคยทำเลย พากินแต่ Mc และ KFC"
อย่า!! หาว่าคุย..
ขนาดผมพา คุณลูก ไปทานสเต็กร้านดัง หลายร้าน แถวเขาใหญ่ ที่ "เขาว่า" ดีและอร่อย
คุณลูกยังว่า "สู้ฝีมือปาป๊า ไม่ได้เลย"

เพราะ สเต็กจริงๆ มันไม่ได้ มีการปรุงอะไรมากมาย มันอยู่ที่คุณภาพของเนื้อต่างหาก
อาจจะสำคัญอีกนิด คือ "ความพอดี" ของความสุกของชิ้นเนื้อที่ต้องการ
นอกนั้นก็เหมือนไปกินเอาบรรยากาศซะมากกว่า   

ถ้าอยากเติม "ความขำ" ในการ Serve ให้ทำท่า "โปรยเกลือ แบบ Salt Bae" ไปด้วย
ผมใช้มาแล้ว "ได้ผล!!"

ที่จริง การทำอาหารกินกันเองในครอบครัวนี่
เป็นเรื่องที่ดีมาก!!  เป็นกิจกรรมร่วมที่ดี เสริมความอบอุ่นได้ดีมากนะ
ใคร อยากกินแบบไหน อยากยังไง ลองลุยดูเลย
ผลออกมา ดีไม่ดียังไง ก็ค่อยปรับ ค่อยลด ค่อยเพิ่ม กันไป แค่นั้นเอง


อาหารง่ายสุดและ "คุ้นมือสุด" ของผมก็ต้องเป็นอาหารฝรั่ง
ทำง่าย กินง่าย ไม่ “เสาะท้อง”
แถมกินได้ ทุกเพศ ทุกวัย

Spargetti white cream Champignon and ham,
ฺBeef Steak, Mash Potato with brown gravy and Japanese Salad

แค่นี้ ก็อิ่มกันได้ หลายมื้อ สำหรับสองครอบครัว

คุณเธอก็นั่งคุยกัน
คุณลูกก็เล่นกัน
คุณผมก็ นั่งจิบเบาๆ คุยกัน  คุยกันได้ทุกเรื่อง

แต่มีอยู่เรื่องคุยกันทีไร เจอกันทีไร บ่นบ่อยเหลือเกิน
New Raptor V6
“เฮ้ย มรึง แ_ง แดกเช็ดเลยว่ะ..
ขี่มันส์ ก็จริงนะ แต่กรูใช้ทุกวัน เจอ 5-6 โลลิตร ก็ไม่ไหว
แ_ง ซด ยังกับ กระดกเบียร์!!
รถมรึงแรงกว่า มันยังไม่แดกขนาดนี้เลย”

นี่ขนาดไอ้เพื่อนซี้ผม เงินมันเยอะนะ ยังบ่นขนาดนี้เลย
อัตราการกินน้ำมันนี่ เฉลี่ยแล้ว ตก โลละ 5-6 บาทเลยทีเดียว!!

มันบอกผมว่า ถ้าอยากเอาไปขับ เอาไปใช้ มายืมไปได้เลย
เพราะตอนนี้ มันเอาไว้วิ่งเป็น คันที่สองแทน เอาไว้ขับเล่นแทน
ส่วนใช้จริง กลับไปใช้ “อีแก่” Raptor ตัวเก่าแทน

ผมเอง จากที่เคย “อยากได้” มาก
ตอนนี้รู้สึกได้เลยว่า “แบบนี้ก็ไม่ไหว เหมือนกันฮะ”

พอมาเล่าให้ “คุณศรีภรรยา” ฟัง
คุณเธอก็ได้ทีเลย “เห็นไหมบอกแล้ว ดีนะที่ไม่เสียตังค์ ไปเอามาอีกคัน ไม่งั้นก็ต้องมาบ่นแบบนี้”
มิน่าเขาถึงว่ากัน “เชื่อภรรเมีย ได้ดีทุกราย”

Happy New Year 2566



ชีวิตไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด
แต่ชีวิตจะเป็นอย่างที่คุณทำ

[the kit]

เห็นถามมาอยู่ 2 ราย
เนื้อหาใกล้เคียงกันว่า “พี่ครับ ช่วยรีวิว Mustang รุ่นที่พี่ใช้ให้หน่อย พอดีสนใจรุ่นนี้อยู่ อยากได้มือสองมาใช้”
เอาเป็นว่า ไม่ถึงกับรีวิวนะ เอาแบบ “คร่าวๆ” ไปล่ะกัน แต่ก็อาจจะพอเป็น “แนวทาง” ได้

รุ่นที่ผมใช้เป็น Mustang 2.3 Ecoboost 10 Speed รถ Ford TH
แรงม้าประมาณ 300 ซึ่งจะน้อยกว่า “รถ gray” อันนั้นน่าจะ 330 แถมมี โหมดปรับท่อไอเสีย
ดังได้-เงียบได้
ในบางคันอาจจะมีช่วงล่าง “Magneride” (ไม่รู้ว่าพิมพ์ผิดไหมนะ)
“เขาว่า” มันหนึบขึ้น ปรับได้ว่างั้น
และบางคันอาจจะมี Recaro เป็น Option เสริม

ข้อดีขอรถเกรย์ คือ ของเล่นเยอะกว่าพอควร มีสีให้เลือกเยอะกว่า
แต่ข้อเสีย คือ รับประกัน แค่ 6 เดือน – 1 ปี หรือไม่เกิน 20,000 กม. ประมาณนี้

และถ้า “ซวยจริงๆ” ก็ต้องหาอู่นอกที่ไว้ใจได้ เป็นผู้ดูแล
แต่ถ้าอยู่ “เมืองหลวง” ไม่น่าห่วง มีเยอะและบางอู่ ทำได้ทุกอย่าง
แบบเปลี่ยนไปคนละคัน “เสกม้า” เข้าท้อง เกือบพันตัวก็ทำได้!!

รถศูนย์ ข้อดี คือ รับประกันนานถึง 5 ปี หรือ 75000 กม.
แถมประกันในส่วนสำคัญและแพงด้วย คือ เครื่องและเกียร์
และในส่วนทั่วไป ก็เปลี่ยนถ่าย นมค.และอื่นๆ ฟรี คล้ายๆ BSI แต่ “มินิ” กว่า

เวลา “พัง” มา ก็มีข้อมูล ยืนยันมาตั้งแต่ผลิตที่ Michigan USA
เมื่อเสียบ OBD II สามารถเช็ค Error Code ได้
ไม่เหมือนกับพวกรถเกรย์ ที่ไม่สามารถเช็ค Error Code  ได้
เนื่องจาก ถูกนำเข้าและจะถูกจำหน่ายโดย Unauthorize Dealer มันจะผิดในเรื่อง กม.
เขาจึงต้อง “ลบในส่วนนี้ออก” ประมาณนี้
อันนี้ผมฟังมาจากหัวหน้าช่างของ  Ford TH ซึ่งอาจจะจริงหรือไม่
“ไม่ยืนยัน”

แต่แค่เรื่อง รับประกันเครื่องเกียร์ จากการหาข้อมูลมา
ก็ได้ใจ ผมไปแล้ว..

และใน “มัด-แตง” “เคลมง่าย” นะ ไม่เหมือนกับ รุ่นทั่วไปที่ผลิตและขายในประเทศ
จาก “ปสก.ตรง” ของคนรู้จักกัน ที่ “ขี่ม้า” อยู่เหมือนกัน
“ไม่รู้..ทำไม”  ถึงเอาใจใส่ ไม่เหมือนกัน!!???

รถผม จากที่ใช้มา “เชื้อเพลิง” ก็ประหยัดใช้ได้อยู่นะ วิ่ง 120
กินอยู่ประมาณ 12-13 โล/ลิตร

กดหนักๆ หรือรีบๆ ก็ยังมี 10 ให้เห็น
ระยะเวลา ปีนิดๆ รถผมก็ใช้มาแล้ว สองหมื่นกว่ากิโล!!

ใช้เยอะมาก!!

รถมันจริงๆ ไม่เตี้ยมากนะ
ใต้ท้องผมว่า ไม่หนีรถบ้าน Camry Accord เลย
แต่จะ “กะหน้า” ยากนิด เพราะ “หน้ายาว”
ข้อเสียจริงๆ ที่เจอคือ วงเลี้ยวกว้างมากกกกกกก
กลับรถที นึกว่า “สิบล้อ” หกล้อรุ่นใหม่ๆ ยังแคบกว่าเลย

ข้อเสียอีกข้อ คือ เวลาเลี้ยวตามแยกต่างๆ  หรือ กลับรถ
“ห้ามเปิดคันเร่งเยอะ” มันจะ “พยศ” มาก
ดิ้นหรือหมุนได้ง่ายๆ ในทุกครั้ง!!

โดยรวม “ขับสนุก” ทางตรง โค้งยาว ไปเร็วๆ สบายมาก
การส่งต่อของเครื่องและเกียร์ดีมาก

ถ้ายังไม่พอใจแบบ Normal Mode
สามารถ เปลี่ยนเป็น Sport+ or Track Mode ได้
เกียร์จะลงต่ำ และค้างรอบไว้ที่ช่วง “Power Band” พอดี
ต่อเนื่อง และพร้อมส่งตลอด!!
แต่ถ้าใช้ “Mode” นี้ “นม.” ต่ำแปด มีให้เห็นแน่นอน!!

ถ้าเป็น โค้งแคบๆ โค้งสลับและต่อเนื่อง และเลือกที่จะไปเร็ว
เราจะเป็นเหมือน “Rodeo” เลยทีเดียว!!
“คุมไม่ดี มีสิทธิ์ร่วงแน่นอน”
 
เหมือนมันจะบอกว่า นี่ “Mustang” ไม่ใช่ .”Dwaft Horse” นะ
ถ้าคุณไม่กระตุ้น ไม่เร้า This is a Pony.

It up to you..
You play soft, I play soft
You play hard, I play harder!!
Indeed!!

ผู้ที่อยู่รอด ไม่ได้แข็งแกร่งที่สุด หรือฉลาดที่สุด
แต่ปรับตัวได้ดีที่สุดในทุกการเปลี่ยนแปลง
- ชาลส์ ดาร์วิน -


แถมนิด...
นาฬิกา "คุณลูก" สีสันสวยมากกกกกกกก....

ยืมมาใส่ซะหน่อย เปลี่ยนบรรยากาศ
"เบา สบาย"
ไม่ "ลิมิเต็ด" แค่หายากนิดหน่อย ต้องเฉพาะ ตาม "AD หญ่าย" บางที่เท่านั้น ถึงจะมีขาย

[the kit]

“เฮ้ยยยยยย  ลูกปิดเทอมไปไหนดี?”
เสียงจาก “เพื่อนซี้(ซั้ว)” เจ้าของหมู่บ้าน

ผม - มึงอยากไปไหนก็ไปสิ  ไม่ถามเมียมึงดู มาถามกูทำไม?
จขมบ - กูอยากไปกับมึง เมียกูก็อยากไปกับเมียมึงด้วย
ผม - เออ  งั้นเดี๋ยวกู ถาม “คุณเมียและคุณลูก” กูก่อนว่า อยากไปไหน
แค่ในไทย ก็พอนะ เพราะ ปีนี้กูมีไหว้ใหญ่ “เชงเม้ง” ต้องไปบูรณะสุสานก่อน
เพราะ ญาติโกโหติกา จะมากันเยอะเลย

งานง่าย ไม่ไกลมาก ได้ “ครื้นเครง” ทุกคน ไม่ว่าจะเป็น ตัวลูก ตัวแม่ และตัวพ่อ!!
“พัทยา”
ทะเลไม่สวย ไม่ใสเท่าหัวหิน
แต่ “สีสัน” มากกว่า
แถมเดินทางไม่เหนื่อยเท่า

ไปพัทยากันครั้งนี้ ตอนแรกว่าจะเอา Vellfire มันไปคันเดียว
แต่ดูทรงแล้ว มัน “อึดอัด” เกินไป
Vellfire รถ7 ที่นั่ง แต่จะนั่งไปกัน 8 คน ก็ไม่ไหว
แค่นั่ง 7 คน รวมสัมภาระ ก็ “อึดอัด” แล้ว

เอากันไปคนละคัน ขับตามกันไปดีกว่า
จขมบ. เอา Vellfire ไป
ผม “มัสแตง” ??
ไม่!! แน่นอน  นั่งยาว นั่งด้านหลัง ไม่ค่อยสบายนัก
กลัว “คุณลูก” จะ “ไม่สบายตัว”

ที่ครอบครัวผมก็มี Vellfire เช่นกัน  แต่มันเป็นรถของคุณย่า
จะยืมก็ได้  แต่ทุกคนในครอบครัว เป็นคนนิยม “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน”

PajeroSport สิครับ
อยู่ด้วยกันมา 7-8 ปี วิ่งไปแค่ “แสนสอง” ใช้ดี “ไม่มีงอแง”
และที่เหลือเชื่อที่สุด คือ แบตเตอรี่ที่ติดรถมาตั้งแต่ป้ายแดง อยู่กันมา 7-8 ปี
ยังคงใช้ได้ดีและดีอยู่ Start ปุ๊ป ติดปั๊ป!!
"ทนแท้"

เพียงแต่เห็นมันนานแล้ว เลยต้องเปลี่ยนก่อน "เพื่อความสบายใจ"
ทั้งที่ใจจริง "อยากลอง" ว่ามันจะไปต่อได้นานแค่ไหน?
แต่ถ้าอยู่ๆมัน "Out of order" ขึ้นมา ในช่วงที่ไม่สมควรจะเป็น มันจะวุ่นวายเอา
"เปลี่ยนก็เปลี่ยน"


ทั้งตอนไปและตอนกลับ ก็ขับตามกันไป ผลัดกันแซง ผลัดกันนำ บนความเร็ว 100-120-140 ไม่เกินนี้
เมื่อผมขับตาม สังเกตว่า ในโค้ง ถ้าเข้าเร็ว Vellfire ค่อนโค้งโยนตัวเยอะเลยทีเดียว
แต่ก็อย่างว่า “รถตู้” ช่วงล่างนิ่ม จะใส่โค้งเร็วๆ มันก็เป็นแบบนี้ตามธรรมดา
แถมการกินน้ำมัน ถ้าอัดๆ นี่ Vellfire 2.5 “ต่ำสิบ” นะ
ส่วน PJS ผม ความเร็วช่วงนี้ ยังทำได้ “11 นิดๆ” สบายๆ

3 วัน 2 คืน กำลังดี
คุณลูก ก็เล่น
คุณแม่ ก็คุย
คุณพ่อ ก็ดื่ม เปลี่ยนบรรยากาศ

เรื่องร้านอาหาร “เขาว่า” ที่ไหนดี ที่ไหนดัง  ก็ไปที่นั้นล่ะ
ลูก จขมบ บอกว่า เชื่ออา เพราะ อาทำอาหารอร่อย!!
แค่ 3 วัน 2 คืน หมด ค่าอาหารและเครื่องดื่มไป “เกือบสามหมื่น!!”
นี่ไม่รวมค่าที่พักและค่าน้ำมันนะ!!
ไม่เป็นไร ทุกคนมีความสุข ถือว่า “ไม่แพง!!”

เหมือนปู่ผมที่ท่านบอกว่า “เกิดมาทั้งที ถ้าเราหาเอง ถ้าเราไหว ไม่เบียดเบียนใคร ไม่เดือดร้อนใคร
ทั้งตัวเองและครอบครัว อยากได้อะไรก็ซื้อนะ

หาเงินมาได้ ถ้าไม่ใช้ มันก็ไม่มีค่าอะไร มันเป็นแค่ตัวเลข
ถ้าเราใช้มันซื้อความสุขให้เรา  เราก็เหมือนต้นไม้ ที่ได้น้ำ ที่ได้ปุ๋ย มันก็จะสดชื่น และมีกำลังที่จะไปต่อ...”

กับ “ครอบครัว” เพื่อความสุขหรืออะไรก็ตาม
ถ้า “ไม่ลำบาก” จนเกินไป
ผม “ยินดี” จ่ายให้ได้เสมอ..
แต่ก็ไม่ใช่ จะ “Spoil” จนเสียคนนะ
เงินหามาได้ก็เพื่อสิ่งนี้ หามาก็เพื่อครอบครัวนี่แหละ..

พวกที่เอาไปจ่าย “น้องหนู” บ่อยๆ
ถ้า “ตัดใจ” ไม่ได้ ควรให้อันนั้นเป็นแค่ “เศษเสี้ยว” ของเงินนะ!!

พูดถึงเรื่อง “น้องหนู”
ใน “วงแชร์” เพื่อนสนิท ที่คุยกัน มันก็มีนะ
ไอ้เพื่อนผม หลายคนนี่มัน “ชอบจริงๆ”
จขมบ. นี่ก็คน “แอบแซ่บ” บ่อย

ยังมีคำมาพูด มาอวดว่า “นี่น้องเขาบอกรักกู ชอบกู อยากอยู่ด้วยนะ... บลาๆๆๆ”
ผม  :  ถ้ามึงไม่มีเงินให้มัน มันจะยังชอบมึงไหม?
จขมบ  :  ชอบสิ เขาอยากอยู่กับกูมากกก
ผม  :  ไม่หรอก มึงลองคิดดูดีๆ  พวกเราน่ะ  อายุ คือ รุ่นพ่อ เขาเลยนะ
เผลอๆ พ่อเขาน่ะ  ยังเป็นรุ่นน้องเราอีกหลายปี
จขมบ  :  เออ ว่ะ
ผม  :  เงินและเงินเท่านั้น  พอได้ก็พอ เมียรู้มา บ้านแตกเปล่าๆ
จขมบ  :  จับได้แล้วครั้ง  ง้อไป เสียกระเป๋าไปสามแสน
ผม  :  สม แต่ก็ยังดี ที่เขายังให้อภัย.. เชื่อกู ได้ไม่คุ้มเสีย
จขมบ  :  เออ..

ผมคิดในใจ กูรู้มึงไม่เชื่อกูหรอก แค่รับไปงั้นๆ  จนกว่าจะเจอจับได้อีกที
จนกว่าจะเจอ "คาดโทษหนัก" ถึงจะพอ..



ไม่สำคัญว่าคุณจะมีความสมบูรณ์แบบแค่ไหน
แต่สำคัญกว่า... ที่คุณต้องมี ความสม่ำเสมอกับสิ่งที่คุณทำ
- Satya Nadella -

[the kit]

สวัสดีปีใหม่ไทย
ไปเที่ยวไหนกันมาบ้างครับ

ปีนี้ “บ้านนอก” แถวบ้านผม  รถเยอะมากกกกก
อย่างว่า ปีนี้เป็นปีแรก หลังจากที่ “เขา” ไม่ให้เล่นน้ำมานาน
คนที่ไปทำงานต่างถิ่น ได้กลับบ้านเกิด ไปเยี่ยมพ่อ เยี่ยมแม่ ญาติพี่น้องก็ดีใจ

สงกรานต์นี้ ผมและครอบครัวก็ไม่ได้ไปไหน
“พักผ่อน” อยู่บ้าน “สบายสุด”
ผมโชคดี ที่คุณเมียและคุณลูก ไม่ได้ต้องการจะออกไปไหน
เพราะบ้านก็มีทุกอย่าง ค่อนข้างครบนะ
หาทำนู่นนี่กิน เล่นน้ำกัน ดูหนังร่วมกัน ก็มีความสุขดีนะ

อยู่บ้านนานๆ ก็อยากเห็น "สีสัน" กับเขาบ้าง
อยากเห็นบรรยากาศ “สงกรานต์แบบไทย??” กับเขาบ้าง
ก็ชวนครอบครัว พกน้ำ พกขนม ออกไปดูเขา เล่นน้ำกัน
แบบไม่สัมผัส ไม่ใกล้ชิดกับคนอื่น เพราะ อยู่แต่ในรถ


แน่นมาก!!!!!!
ทั้งคนและรถ
ทั้งหัวดำ หัวขาว หัวเงิน หัวทอง หัวแดง และอีกหลากมากสี!!
เต้นกิน รำกิน เยอะแยะ  ดูไปก็ขำไป
แต่ก็อย่างว่า “นี่คือสีสันวันสงกรานต์”

“ทางการ” เขาขอให้ งดแป้ง งดแอล งดลวนลาม
คุณคิดว่า “มันเป็นไปได้ไหม??”

ใช่!! อย่างที่คุณคิดเลย..
“ทำอะไรได้ตามใจ คือ ไทยแท้!!”

ที่ “ภูธร”
สงกรานต์กับ “กระบะแต่ง” นี่เป็นของ “คู่กัน” เลย
กระบะแต่ง ถ้าจะให้ดี ต้องรถโหลด
เพราะรถยกสูง “ผู้เล่น” ที่อยู่หลังกระบะ จะขึ้นลงลำบาก

เครื่องเสียง แน่นอน “จัดเต็ม”
คุณภาพเสียง ไม่ต้องพูดถึง!!
คือ อย่าได้ ไปพูดถึง
แต่ถ้าเรื่องดัง อันนี้ไม่พลาด

เสียงจะดังได้
ลำโพงก็ต้องเยอะ แอมป์ก็ต้องแยะ
กินไฟก็ต้องมากเป็นธรรมดา
ถ้าดับเครื่องเปิดเพลง “คงดัง” ได้ไม่กี่เพลง
ก็ต้อง “ติดเครื่อง” แถมเร่งนิดๆ ให้พอไป “หล่อเลี้ยง” เครื่องเสียงนั้นได้
หลายคน “ทำรถ” มาเพื่อการณ์นี้โดยเฉพาะ!!

Start รถ เร่งเครื่อง เปิดเครื่องเสียงโชว์
น้ำมันและอื่นๆ หมดเท่าไร ก็เท่ากัน
ช่างมัน!!??

"เสียตังค์ไม่ว่า  เสียหน้าไม่ได้.."


เพลงยอดฮิต ที่ใครๆ ก็เปิดกัน
เหมือนว่างานนี้ ขาดไม่ได้
เสียงตีกัน ยิ่งกว่าเสียงยุง!!

“อีกี้..”


เฮ้ย!! เรามาถึงจุดนี้ได้ไง!!
เป็น “เพลงไทย” ในอีกหลายๆ เพลง
ที่ผมฟังไม่ออก และไม่รู้เรื่องเลย!!

ที่มึงร้องนี่ "เพลงไทย" ใช่ไหม!!??
แถม "ท่าเต้น" ก็ไม่ต้องพูดถึง

จะเป็นยังไง ถ้าสงกรานต์ เปิดเพลง "Macarena"
แล้วเต้น Macarena กัน คงจะน่ารักดีนะ!!

แต่มันก็ไม่ใช่เพลงไทยอีก
งั้นคงต้องเป็น "ค้างคาวกินกล้วย" RCA Dance Version แทน 


ก็ถึงขนาดอยากรู้ ว่า "อีกี้" มันคือ "อารายยย??"
พยายามมาอ่าน “CC” เพื่อดูความหมายมันเลยทีเดียว
ใน “MV” ก็อย่างที่เห็น..
“เ_ยยย”
ทั้งเนื้อร้อง การแต่งตัวและทุกอย่างใน MV
มันฮิตได้ไง!!
แต่เอาเถอะ มันคงเหมาะกับบางคน มันคงใช่ กับบางคน
คิดไรมาก...!!

"สุขอยู่ที่ใจ"

ขอให้มีความสุขกันทุกท่านนะครับ


หากปราศจากการบังคับตนเอง   ความสำเร็จคือเรื่องที่เป็นไปไม่ได้  - Lou Holtz

[the kit]

เสียงโฆษณาของ “นักการเมือง”
ยกเอาแต่เรื่องที่ดีงามมาพูดจา
มีหนังมาฉายให้ชาวไร่ชาวนา
ได้ดูได้ชมกันทั่วหน้าระรื่นตื่นตากันทั่วไป

จะสร้างไอ้โน่นจะทำไอ้นี่ที่ยังขาดแคลน
ทั่วทุกถิ่นทุกแดนฟังดูก็แสนจะชื่นใจ
ถนนหนทางลำคลองจะสร้างให้มากมาย
เลิกเลี้ยงวัวเลี้ยงควายจะซื้อรถให้มาไถนา

ดีอกดีใจแต่นี้ต่อไปคงสุขอารมณ์
ชาวนาพากันชื่นชมนิยมดังเขาพูดมา
พอเป็นผู้แทนนั่งแท่นอยู่ในสภา
ตั้งหลายปีที่ผ่านมาจะไถนายังต้องใช้ควาย

ถนนหนทางที่ว่าจะสร้างก็ยังไม่มี
มัน “กินอิฐทรายกันป่นปี้” ถนนจะมีไปได้อย่างไร
เขาเป็นผู้แทนกันยังไม่ทันเท่าไร
ทรัพย์สินเงินทองมีมากมาย
มันน่าแปลกใจเมื่อคิดขึ้นมา

ปากบอกรักชาติผมฟังอนาถใจจริง
เห็นแต่เขา “จะช่วงจะชิง” ตำแหน่งใหญ่ยิ่งกันในสภา
“วิ่งเต้นหาเสียง” กินเลี้ยงกันใหญ่ตามเหลาตามบาร์
บางคราวยกพวกเข้าเข่นฆ่ามัน "เหลือระอา" ผู้แทนเมืองไทย

ผมขอวิงวอนราษฎรทั่วทั้งแผ่นดิน
ไอ้พวก “ชอบโกงชอบกิน”
ไอ้พวก “กังฉิน” อย่าเลือกเข้าไป
เลือกแต่คนดียังมีอยู่อีกมากมาย
แล้วพี่น้องจะสุขใจจะพาชาติไทยเรารุ่งเรือง

Cr : เพลง มนต์การเมือง
ขับร้อง คำรณ สัมบุญณานนท์                คำร้อง/ทำนอง: สุเทพ โชคสกุล


เพลงนี้ ช่างมีเนื้อหาที่ดีเหลือเกิน...
ยังทันยุค ทันสมัย แม้ว่าเนื้อร้องได้ถูกแต่งขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ.2495!!
หรือประมาณ “เจ็ดสิบกว่าปี...” ที่ผ่านมา

จากเนื้อเพลง
จะเห็นได้ว่า “การเมืองไทย” ที่ผ่านไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย....
แม้ว่า “ตัวผู้เล่น” ได้เปลี่ยนไป
แม้ว่า “พรรคการเมือง” ได้เปลี่ยนตาม
ทั้งเกิดใหม่ และล้มหายไปบ้าง
แต่ “สันดาน” นักการเมืองไทยหลายท่าน หลายคน “ไม่เคยเปลี่ยน” เลย!!

ปากด่าว่าไอ้นู่น “ชั่ว”  ไอ้นี่ “เลว”
แต่หลัง “14 พฤษภา”
ผม “คาดการณ์” จากประสบการณ์ส่วนตัวว่า...
หลายพรรค  หลายคน  หลาย..

ทั้งที่รักกัน ด่ากัน แช่งกัน
แต่ก็ “สามารถ”  กอดคอกัน จับมือกัน เพื่อจัดตั้ง “รัฐบาล” ได้ !!??

เพื่อใคร?
ประชาชน?
ประเทศชาติ?
ตัวเอง!!??

ดังนั้น
ไม่ว่าท่านจะเลือกใคร จะเลือกคนไหน
ถ้าท่านมั่นใจว่า “น่าจะดี และ/หรือ ชั่วน้อย”
โปรดเลือกเขา

แต่ถ้าในพื้นที่ของท่าน มีแต่ “ชั่วจริง กินจัง”
กา “ไม่ออกเสียง” ดีกว่าไหม?

แต่ประเภท “ดีจริงๆ บริสุทธิ์ 100%”
ผมบอกเลย ตั้งแต่เกิดมา “ยังไม่เคยเห็น..!!”

วันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2566
เวลา 08.00-16.00 น.
ออกไปใช้สิทธิ์ เลือกตั้งกันครับ



"As I would not be a slave, so I would not be a master.
This expresses my idea of democracy." - Abraham Lincoln

ผมไม่ยอมเป็น “ทาส” ดังนั้นผมก็จะไม่ยอมเป็น “นายทาส”
นี่คือความหมายของการเป็นประชาธิปไตยในความคิดผม



"You can imprison a man, but not an idea.
You can exile a man, but not an idea.
You can kill a man, but not an idea." - Benazir Bhutto
คุณสามารถจองจำคนได้ แต่ไม่สามารถจองจำความคิดได้
คุณสามารถเนรเทศคนได้ แต่ไม่สามารถขับไล่ความคิดของเขาได้
คุณสามารถฆ่าคนได้ แต่ไม่สามารถฆ่าความคิดของเขาได้


มีคนมากมายที่คิดจะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้
แต่มีคนเพียงน้อยนิด ที่คิดจะ... เปลี่ยนแปลงตนเอง - เลโอ ตอลสตอย