ขับรถเดี๋ยวนี้ไม่ได้ใช้สมรรถนะของรถเลย คันหน้าไม่ซื้อแพง ขำขำนะครับ

BigCat

ผมอยู่ ตจว ครับ ภาคอีสาน

อย่าว่าแต่ กทม เลยครับ ขนาดตจว บ้านผมอยู่ชานเมือง ยังหาโอกาสขับรถแบบใช้ performance ยากเลย รถเยอะครับ

แถมแต่ละคัน ทั้งขวา ทั้งซ้าย ทั้งตัดไปตัดมา

ผมเลยตัดสินใจ ปีที่แล้ว ไปถอย บิกไบค์ ค่ายDucaมา ฝึกอบรมขับขี่ ใส่เสื้อการ์ท่อนบน รองเท้าการ์ด หมวก ถุงมือ

ขับไปทำงาน ไปกลับ รวม วันละ20กม

สบายขึ้นครับ ไม่หงุดหงิดรถติด ไม่ขับเกรียน ไม่ขับเกิน 90-100 กลัวตายครับ เห็นมาเยอะ

วันหยุด ค่อยเอารถยนต์ไปออกทริปครับ แบกเรือ แบกเพื่อน อิอิ

Audi TT MK 3FL
BMW z4 e85
GLA 250 FL 2017
Nissan Teana L33 2014
Slk 200 R172 2014
Camry 2.4 2009
Civic dimension MT 1.7
Civic 3 doors รถคันแรก



IS2000

กรณีของผมกลับกันเพราะต้องขับไปทำงานนอกเมืองใช้เส้นทางด่วนบูรพาวิถีตลอด ปกติผมขับช่วงความเร็ว 100-110 ส่วนมากจะเจอเคสรถขับแช่ 70-80 เลนกลางและรถวิ่งขวาหรือแซงซ้ายกันมาเร็วมาก สมัยก่อนใช้รถระดับ 200 กว่าแรงม้าบางทีจะแซงยังรู้สึกต้องเค้นสมรรถนะของรถ ทุกวันนี้เปลี่ยนมาใช้รถพิกัด 300 เกือบๆ 400 แรงม้าขับไปทำงานกลับผ่อนคลายลงถึงแม้ช่วงล่างจะแข็งตึงตังกว่าเดิม
1 3 5
├┼┼╕
2 4 6 R



รถจักรไอน้ำ

ของผม ถ้าใช้ในเมืองนะ คันต่อไปขอ
Lane keeping assist กับ
Adaptive cruise control stop&go
ต้องมา บางรุ่นนี่แทบไม่ต้องจับพวงมาลัยเลยล่ะ ตั้งให้ตามคันหน้าไปก็พอ 555

เห็นด้วยครับ รถติดๆขอระบบ ACC ดีๆ คลายความเหนื่อยและความเครียดได้มาก นั่งฟังเพลงชิวๆไป
Current cars:
2018 - Volvo XC60 T8 R-design (Stock)
2020 - Mercedes C43 Sedan FL (tuned)
(Review https://community.headlightmag.com/index.php?topic=79186.0)
2021 - BMW 530e M sport LCI (Stock)
(Review https://community.headlightmag.com/index.php?topic=79736.0)



redsun

ถ้าเป็นผมอยากได้ C-SEGMENT ขับดีๆสักคัน
ในเมืองพอจะมุดได้บ้าง หาที่จอดก็สะดวก หรือบางโอกาสออกต่างจังหวะก็มีกำลัง
รถไม่เล็กไป ความปลอดภัยกลางๆ ซ่อมบำรุงก็สะดวก อะไหล่แพร่หลายไปไหนใครก็ซ่อมได้
ดูแลกันไปครับ



Tien.W

ผมว่ายังไงเรื่องความปลอดภัย ก็ยังสำคัญครับ บางทีขับอยู่ดีๆ เราก็โดนคนอื่นชนได้

เพื่อนผมขับในเมือง คลานตามคันหน้าอยู่ๆก็โดนชนท้าย เพราะคนขับเล่นโทรศัพท์

สำหรับผม ถุงลมรอบคัน ระบบความปลอดภัยครบๆ เครื่องแรงพอที่จะแซงสิบล้อแบบไม่ต้องลุ้น

ช่วงล่างนุ่มแต่เกาะถนน ก็พอแล้วครับ

เห็นด้วย

เห็นด้วยครับ

มีเพื่อนน้องสาวคนนึง หน้าที่การงานดี เงินเดือน 6 หลัก ซื้อรถแพงๆสบายๆ แต่ใช้ eco car วันดีคืนดี ขับเดินทางไกล พาครอบครัวไปเที่ยว ดวงกุด เจอกระบะพุ่งข้ามเลนมาชน

ไปกัน 2 คน คาดเข็มขัดนิรภัยนะครับ โครงห้องโดยสารเสียรูปไม่มาก แต่เสียชีวิตทั้งคู่ครับ

ยังคุยกับน้องเลยว่า ถ้าเค้าใช้สัก C-segment มีถุงลมครบๆ ผมเชื่อว่ารอดนะ

..........

บางที ถ้าเราไม่ลงทุนไว้ก่อน เวลามีเหตุ เงินเท่าไหร่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ครับ



mxmx

ตรงข้ามเลยครับ

ตอนนี้ขอคันใหญ่ เงียบๆ ถุงลมรอบคัน abs bsm vsc มาให้ครบๆ

ความปลอดภัย นั่งสบายต้องมาก่อน ขับ 80 ได้ใช้อุปกรณ์พวกนี้

เครื่องไม่แรงไม่เป็นไร

ใช่เลยครับ



5ume7h

ไม่เคยเลือกรถเพราะ Performance อยู่แล้ว
แต่เอาความปลอดภัยมาก่อน
เอาให้ครบที่สุดเท่าที่งบถึง

เพราะเราขับดียังไง คันอื่นไม่ใช่จะขับดีด้วย
ถุงลมสองใบอาจจะไม่พอ กรณีโดนชนด้านข้าง

เบาะโดยสารนั่งสบายก็สำคัญ ไม่ว่าจะขับใกล้หรือไกล

ถ้าหารถที่ไม่แพงแล้วตอบโจทย์พวกนี้ได้หมดก็ดี



No Trespassing


 เวลาเลือกรถให้ดูลักษณะการใช้  ไม่ใช่เลือกตามคนอื่นหรือตามกระแส

 ไม่ใช่ถามคนอื่นว่าเลือกรถอะไรดี  เค้าไม่รู้หรอกว่าคุณอยากได้อะไรในรถหนึ่งคัน

 และคุณใช้แบบไหน

+1

+2 ครับ



deertesla

ผมว่า Ertiga ตรงโจทย์มากครับ



Abzolute

ความคิดผม รถคือบ้านหลังที่ 2 ถ้าไปไหนกับรถ รถต้องดี ตอบโจทย์ผมเรื่องความสบาย ช่วงล่าง ระบบอินโฟเทนเม้น วัสดุ


ถ้าจะจบรถเล็ก ผมไปมาสด้า 2 เท่านั้น

รถใหญ่ก็เน้นภายในสวย เพราะตาผมเห็นตลอด



TORA

ไม่อยากขับรถแพงหรือหรูเลยครับ
แต่อยากขับรถที่มีความปลอดภัย
option มาครบๆ ซึ่งก็ดันมาอยู่รุ่นที่แพง
ปกติขับแต่ในเมืองวิ่งเกิน 80 ได้
ก็ดีใจแล้ว



kunimihero

สำหรับผมถ้าซื้อรถใหม่ คันนั้นต้องระบบ Break Hold ชีวิตดีขึ้นเยอะเวลาขับรถในเมืองครับ



Ty ESC

ใช้รถนานๆ จะเข้าใจ สัจธรรมเรื่องนี้ครับ

เมื่อก่อนยากได้รถแรง งั้นนี้ ออปชั่นนั่นนี่

เด๋วนี้ ออปชั่นแรกที่อยากได้คือ คนขับรถ

ล้อ18 ช่วงล่างหนึบๆไม่เอา อยากได้ 16 ยางหนา นั่งนุ่มๆ รูดหลุมบ่อสบายๆ ขับกันไม่เกิน 120 ขับในเมืองมีแต่รถติด
ที่เหลือ เอา แอร์เย็น เพลงเปิดแค่วิทยุ ขอที่โล่งๆ พอ

อีกออปชั่น ที่อยากได้มาก คือ ฟิลม กันแดด เด๋วนี้ วีคูลตัวท้อปยังเอาไม่อยู่ ฟิล 80 ยังร้อนได้ เมืองไทยร้อนขึ้นๆ แดดก็แรงมากขึ้นๆ อาจจะติดม่านจริงๆ

พวกออปชั่น อื่นๆแฟนซี ปุ่มนั่นนี่ไม่เอาแล้ว เอาแค่ ความปลอดภัย ถุงลม กับระบบช่วงเหลือพอ



MMWC

กำลังหารถที่มีadaptive cruise control เลย ไม่ได้ใช้กันหรอครับรถติดๆหรือมันไม่น่าไว้ใจ ที่อยากได้เพราะขี้เกียจเหยียบๆเบรคๆตอนรถติดเลยนะเนี่ย  :-X



mongolias

เรื่องสมรรถนะน่ะใช่ครับ
แต่เรื่องความปลอดภัย รถคันใหญ่ย่อมได้เปรียบคันเล็กอยู่แล้ว
ครอบครัวผม 2 ปีที่แล้ว ขยับจาก B-seg ไป SUV คันนึงแล้ว เพราะมีลูก ต้องการรถที่ปลอดภัยมากขึ้น + ขนของได้

อีกคันรถภรรยามีแพลนจะขยับจาก B-Seg ไป C-Seg ตาม เพราะต้องการความปลอดภัยเพิ่มครับ
แม้ว่าคันนี้จะขับวันละไม่เกิน 30 ก.ม. แถมเส้นทางที่วิ่งก็ทำความเร็วไม่ได้ แต่ผมก็อยากเพิ่มความปลอดภัยให้กับภรรยาอยู่ดีครับ



CHANOM

ส่วนตัวเพิ่งเขยิบจาก Mazda 2 ขึ้นมาเป็น Honda HR-V ด้วยเหตุผลทางด้านความปลอดภัยและความสะดวกสบายเค่ะ
เราขับรถในเมือง ในช่วงเวลาเร่งด่วนเป็นหลัก เลยไม่ได้เน้นเรื่องช่วงล่างมากนัก

พอเขยิบมาเป็น HR-V แล้ว ตัดสินใจได้เลยว่า รถคันต่อไปเราจะต้องมี Airbag 6 ลูกอย่างต่ำ กับ Break Hold ค่ะ
ที่เหลือขอแค่เบาะกว้างๆที่นั่งสบาย กับ วิทยุ ก็อยู่ได้แล้ว ^^
In My Garage
2021 Mazda CX3 Comfort
2024 Toyota Corolla Cross E-Hev Premium Luxury
2025 Toyota Corolla Cross E-Hev Premium Luxury



Fly to dream

ผมไม่คิดงั้นนะ ถึงจะอยู่กับรถติดๆในเมืองกรุงฯส่วนใหญ่ แต่เชื่อมั้ยว่ารถจะติดแค่ไหนมันก็จะได้เจออะไรที่ได้ใช้รถเต็มที่อยู่ในวันนั้นทุกครั้ง ไม่ว่าเบรกหรืออัตราเร่ง  ส่วนสำคัญๆพวก blind spot นี่ของดีเลย
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย



RhythmCaster

คิดเหมือนผมเลยครับ
จากบ้านผม
- ไปที่ทำงาน ถ้าออก 6 โมงเช้า 10 นาทีถึง ถ้าสาย 1 ชั่วโมง, ช่วงเย็นอาจถึง 1.5 ชั่วโมง
- ไปห้าง Hypermarket ตลาด ถ้ารถไม่ติด 10-15 นาที
ผมแทบไม่มีโอกาสใช้ความเร็วรถ เกิน 80 km/hr ส่วนมาก 30-40 ได้

ขอแค่รถที่เบาะสบาย, วัสดุที่ดี, เครื่องเสียงที่ฟังได้, บรรยากาศผ่อนคลาย แค่นั้นจริง ๆ
ซึ่งกลุ่ม B segment ตอนนี้ผมว่ามันยังไม่ตอบโจทย์ผม
ตอนนี้ผมรอดู 1 Series หรือ V60 ไม่รู้ว่าจะมาไหม

ในใจอยากลอง Electric Vehicle ครับ คิดว่าในไทย มันยังต้องใช้เวลาอีกนาน
แต่คิดว่าน่าจะตอบโจทย์ชีวิตในเมืองได้ดี


คิดเหมือนกันเลยครับ เพราะตอนนี้ผมก็ได้ B-Sec ก็ยังรู้สึกว่าไม่ตอบโจทย์เรื่องความโปร่งสบายเท่าที่ควร
ถ้าอนาคต EV เกิดในไทยก็จะดีมากครับ  ทุกวันนี้ก็แค่ขับรถไปจอดอาคาร "จอดแล้วจร" แล้วก็นั่ง MRT ไปทำงาน
ก็ได้แต่ฝันหวานว่า อนาคตน่าจะมีช่องจอด EV พร้อมปลั๊กให้เสียบชาร์จก็จะดีงามมาก (จ่ายตังค์ก็ได้)
ถึงจะไม่ลด Carbon Footprint ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ลดปริมาณฝุ่นและมลพิษบนถนนได้ก็ยังดีครับ
Honda City GM3 (since 2012)