ห้ามรถบรรทุกขนาดใหญ่ตั้งแต่ 10 ล้อขึ้นไป วิ่งในชั่วโมงเร่งด่วน
ห้ามรถบรรทุกขนาดใหญ่ วิ่งเข้าเขต กทม ชั้นใน หรือรอบพระราชฐาน หรือบางสถานที่
รถควันดำทั้งหลาย รัฐบาลไม่เข้มงวดในการตรวจจับควันดำ ปล่อยมาวิ่งกันอีกแล้วทุกวันนี้
รัฐบาลต้องออกมาตรการ ควบคุมการใช้รถดีเซลได้แล้ว หลายประเทศคุมกำเนิดจนค่ายรถหยุดพัฒนาหรือเตรียมเลิกขายเครื่องดีเซลไปแล้ว
รัฐบาลไม่ส่งเสริมรถใช้แก๊สอย่างจริงจัง ถ้าส่งเสริมกันจริงจัง มลพิษรถใช้แก๊สที่ปล่อยมาจากท่อไอเสียค่อนข้างสะอาด
เร่งผลักดันน้ำมันยูโร 5 และบังคับค่ายรถทำเครื่องยนต์ออกมา รับรองชาวดีเซลร้องกันระงม เดี๋ยวก็เลิกใช้กันเอง
ห้ามรถบรรทุกขนาดใหญ่ วิ่งเข้าเขต กทม ชั้นใน หรือรอบพระราชฐาน หรือบางสถานที่ --> เป็นมาตรการที่ได้ผลลัพธ์แย่กว่าเดิมครับ คนคิดมาตรการนี้คิดตื้นไปครับ ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทั้งในเรื่องมลพิษและแก้ปัญหารถติดครับ
ตราบใดที่การเคลื่อนย้ายสินค้ายังมีความจำเป็น ถ้าไม่สามารถลดการเคลื่อนย้ายสินค้าเข้าออก กทมชั้นในได้ (ซึ่งแน่นอนว่าลดแทบไม่ได้) การเคลื่อนย้ายสินค้ายังคงต้องมีอยู่ต่อไป
หากใช้มาตรการห้ามรถบรรทุกขนาดใหญ่วิ่งเข้าเขต กทม ชั้นใน จะเกิดอะไรขึ้นครับ --> ก็คือต้องปรับเปลี่ยนมาใช้รถปิคอัพมาขนย้ายสินค้าแทน
--> รถสิบล้อ 1 คัน บรรทุกสินค้าได้ 15 ตัน ในขณะที่รถปิคอัพ 1 คัน บรรทุกสินค้าได้เพียง 1-1.5 ตัน แสดงว่าถ้าห้าม 10 ล้อวิ่ง 1 คัน จะต้องใช้รถปิคอัพมาวิ่งแทน 10-15 คัน
--> เมื่อออกมาตรการ ห้ามรถบรรทุกสิบล้อวิ่งเข้าเขต กทม ชั้นใน แปลว่าจะทำให้มลพิษจากรถสิบล้อหายไป 1 คัน แต่จะได้มลพิษเพิ่มการใช้ปิคอัพอีก 10-15 คัน
รถปิคอัพ 10-15 คัน สร้างปัญหามลพิษและปัญหาจราจรมากกว่ารถสิบล้อเพียง 1 คันแน่ๆ ครับ
การแก้ปัญหาจึงมิใช่การห้ามรถใหญ่ แต่ที่ควรจะคิดคือควรห้ามรถไม่ว่าจะเล็กจะใหญ่ที่สร้างมลพิษเกินกว่าค่าที่กำหนดวิ่งเข้าสู่ กทมชั้นใน และหากเป็นรถใหญ่ที่ผ่านการทดสอบด้านมลพิษแล้ว ควรสนับสนุนให้วิ่งเข้า-ออก กทมชั้นใน ด้วยซ้ำ เพียงแต่อาจจะกำหนดเวลาในการวิ่งเข้าออก ไม่ให้กระทบช่วงเวลาเร่งด่วนก็เท่านั้นเอง