ผู้เขียน หัวข้อ: รถยุโรป กำเงินแค่ค่ารถ ทุกอย่างฟรี 3-5ปี ใช้ดีกว่ารถญี่ปุ่น??  (อ่าน 7610 ครั้ง)

ออฟไลน์ shipcake

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 679
    • อีเมล์
หลายคนมักพูด ถ้าคุณมีเงิน 2 ล้าน จะไปเอารถถญี่ปุ่นทำไม ทำไมไม่เอารถยุโรป ฟรีนู้นนี่ตลอด คุ้มกว่ารถญี่ปุ่นเยอะ ผมเจอคอมเม้นแบบนี้ตามรีวิวรถบ่อยมาก (รถพวกแคมรี่ แอคคอร์ด) มันจริงตามที่เค้าว่าหรือท่าน

ออฟไลน์ panjap

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,259
คนรีวิวก็รับเงินเขามาก็ต้องพูดไป
ถ้า x1 คันละ 2.3 ล้าน bsi ห้าปี ก็จริงเพราะค่าเปลี่ยนต่างๆ รวมไปในค่ารถแล้ว
แต่ไม่มีทางที่ จะ ถูกไปกว่า แคมรี่ แน่นอน เชื่อได้ว่า รถ ญีุ่ปุ่น ค่าซ่อม และค่าประกัน ค่าจัดการ ถูกกว่ายุโรปเยอะมาก
ตามประสบการณ์ผมนะ

ออฟไลน์ nnss

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 577
ดีกว่าก็ใช่ครับ แต่ในงบ 2m บวกลบ ทางที่รถยุโรปดีกว่าญี่ปุ่นนี่แทบนึกไม่ออกครับ
หรือจะบอกว่า a class ดีกว่า camry hvp ผมว่าก็ไม่นะนอกจากได้ภาพลักษณ์
ออฟชั่นก็ต่างเยอะ ถ้าจะให้เทียบเท่าคงไปถึงพวก e class แล่ะครับ ซึ่งราคาก็สองเท่าของท็อปญี่ปุ่น

ออฟไลน์ Smith686

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,935
    • อีเมล์
        รถพวกแคมรี่ แอคคอร์ด ยอดขายต่ำมากนะครับ  เข้าใจว่าคนที่มีเงินพอที่จะซื้อรถแคมรี่ แอคคอร์ด  เขาข้ามไปซื้อรถยุโรปเป็นส่วนใหญ่

ออฟไลน์ basterias

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,793
ผมใช้แคมรี่มาก่อน ผมว่าแคมรี่ถูกกว่าเยอะ การขับขี่ในแง่รถบ้านรถครอบครัวไม่ได้เอาไปซิ่งที่ไหนก็ไม่ได้ต่างกับยุโรปขนาดนั้น รถยุโรปฟรีช่วงปีแรกๆมันไม่ได้มีอะไรจะเสียหรอกครับ

หลังหมด 5 ปีรถยุโรปนี่รู้เรื่องแน่นอนครับ  8)
Current cars:
2018 - Volvo XC60 T8 R-design (Stock)
2020 - Mercedes C43 Sedan FL (tuned)
(Review https://community.headlightmag.com/index.php?topic=79186.0)
2021 - BMW 530e M sport LCI (Stock)
(Review https://community.headlightmag.com/index.php?topic=79736.0)

ออฟไลน์ CJ.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,946
นอกจากค่าตัวรถ มันมีค่าประกัน หรือจิปาถะอื่นๆ ที่เราอาจมองข้ามไปได้ครับ

ส่วนเรื่องคำว่าใช้ดี อันนี้คงต้องแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน สำหรับผมยุโปรระดับล่าง ไม่ได้ใช้ดีกว่าญี่ปุ่นระดับบนครับ
ผมมองว่าถ้าจะเปรียบกันขอเปรียบเขย่งขึ้นไปยุโรประดับกลางเลย ต้องพร้อมเพิ่มเงินมากกว่าเอางบญี่ปุ่นระดับบนๆ มาตะกายหายุโรปครับ
2005 Jaguar XJ Super V8
2005 Mercedes-Benz C230 Kom. Sports Coupe
2011 Aston Martin DBS
2013 Jaguar XJL 5.0 V8 Portfolio
2017 Lexus RX200t Premium
2019 Honda CR-V 2.4S
2019 Bentley Continental GT W12
2021 Lexus IS300h Luxury
2021 Mercedes-Benz GLE 350de 4MATIC Exclusive
2021 Porsche 911 Carrera S

ออฟไลน์ Teera

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,379
    • อีเมล์
ในแง่การขับขี่ ดีกว่า ชัดเจน
ส่วนค่า บำรุงรักษา ก็แพงกว่าชัดเจน
เราเลือกได้ และ ประสพการณ์ ของใครของมันครับ

ออฟไลน์ CarameLon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,387
วัดที่5ปี ค่าใช้จ่ายมันก็พอๆกัน ส่วนคนที่ซื้อรถยุโรปเพราะฟรีนู่นนี่นั้นหยุบหยับยั้วเยี้ยนิก็ขอให้
ปล่อยพวกพี่เขาไปเถอะ พวกเราๆท่านๆซื้อรถยุโรปเพราะอย่างอื่นมากกว่าห่วงของแถมซองขนม
 8)
TOYOTA WISH SPORT 2.0>>>CRV-2.4L 4WD GEN3>>>TOYOTA Camry 2.4 2010>>>BMW 520 ตาเหยี่ยว>>>BMW X3 2011 >>>BMW 520D 2010 >>>BMW 525D ก่อน LCI >>>BMW 116i M-sport >>>BMW X1 2.0 S-drive 2016 >>>Mercedes GLA200 >>>Mercedes C Class C350e >>> BMW330e+BMWS1000R

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,190
    • อีเมล์
โทษนะครับ

เอาตรงๆ เลย ถ้าจะคุย กัน 0-3 ปี ไม่ได้ต่างกัน (ถ้าปี 4-5  ก็ต้องซื้อเพิ่ม)

รถญี่ปุ่น ก็ ฟรีค่าแรง โน่น นี่ นั้น ช่วง 2-3 ปี แรกเช่นกัน เดี๋ยวนี้อะ Warranty ก็ 3-5 ปี กันแล้ว (ระบบ hybird ก็ 10)

พอเอามาเทียบกัน ถ้าเรื่องค่าใช้จ่าย ผมบอกว่า ไม่ได้มีนัยยะอะไรเลย ถ้าจะคุยแค่ 3-5 ปี

ทีนี้เอาที่ต่างกันนนะ

ถ้าจะเทียบ Accord Camry มันก็ต้องพอๆ กับ 3 Series กับ E-Class ที่บอดีไกล้ๆ กัน จะเห็นภาพแล้วว่า ถ้าบอกว่า จะไปเทียบกับ 1 Series หรือ A-Class อย่าเทียบเลยครับ เพราะได้แค่แบรนด์ ที่เหลือสู้ Accord Camry ไม่ได้เลย

ผมเปรียบเทียบแบบง่ายๆ เลยนะ

ข้อที่ 1 ราคา ต่างกัน 2 เท่าตัว ซึ่งตรงนี้ชัดเจนสุด ไม่มีใครเถียงแน่นอน

ข้อที่ 2 ถ้าจะใช้รถ 3-5 ปี ขายต่อ ยังไง Accord Camry ก็ขาดทุนน้อยกว่า (นับเป็นตัวเงิน)

ข้อที่ 3 การโดยสาร การนั่ง การขับขี่ แทบจะไม่ต่างกันแบบรู้สึกได้เลย ผมว่า Camry เบาะนั่งสบายกว่า E-Class อีก มองข้าม C-Class ไปเลย (จากคนใช้ 525d)

ข้อที่ 4 ออฟชั่น Accord Camry  ไม่ได้แพ้ยุโรปเลย บางอย่างดีกว่าซะด้วยซ้ำ ให้มาพร้อมๆ เลย

-> ทีนี้ 4 ข้อนี้มันก็บอกอะไรหลายอย่างแล้ว ***

สุดท้าย สิ่งที่ ยุโรป เหนือกว่าชัดเจน และ ตอบสนองความต้องการ (ถ้าต้องการจริงๆ )

1. แบรนด์

2. ความหรูหรา (ในสายตาบางคน)

3. การสอบสนอง และ performance , handling, อัตราเร่ง, พวงมาลัย, ช่วงล่าง และ อื่นๆ

-> ถ้าคุณไม่ได้มองหา 3 ข้อนี้ ผมยังไม่เห็นว่า จำเป็นต้องเสียเงินเยอะกว่าเป็นเท่าตัว ไปเล่นรถยุโรปเลยครับ

ขนาดคนที่บ้านมีรถยุโรปแท้ๆ ยังมี Accord Camry ไว้ใช้งานเลย มันใช้งานง่าย ซ่อมง่าย ค่าใช้จ่ายถูก และบางคน ยังขายยุโรป ไปใช้ญี่ปุ่น ก็เยอะครับ
 
จากใจคนใช้ BMW 525d ครับ

ออฟไลน์ CMaN20

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 678
มันไม่เกี่ยวกันเลย ราคาก็ห่างกันมากอยู่แล้ว. ผมใชเยุโรป ถามว่าพวก BSI มีผลในการตัดสินใจมั่ย? ผมตอบเลยว่ามี เพราะใช้ BMW มา2คัน และระหว่างระยะ BSI มันไม่วุ่นวายเลย แต่พอหมดแล้ว ก็ราคาตามตัวรถครับ. ส่วนยี่ห้ออื่นก็มีทำ BSI คล้ายๆ BMW ในชื่อที่ต่างออกไป ผมพึ่งได้ Volvo มาก็มีแบบนี้ แต่!ขอให้ดูรายละเอียดให้ดี มันไม่ใจปล่ำแบบของ BMW เพราะ1ระยะService ทุก2หมื่นโล/1ปี ซึ่งอันนี้เอาแค่ตามระยะ Service BMW ก็คุ้มกว่าแล้ว. BENZ เองก็มีเหมือนกัน เคยไปถาม Sale คร้าวๆ มีหลายเกรด หลายราคามาก และราคานี้แพงมาก ถ้าเอาจริงๆ ณ ตอนนี้มีแค่ BMW ที่มีแถม BSI basic มาให้พร้อมราคารถเลย.
# BMW    520d E60   
# BENZ   E250CDI W212
# BMW    520d G30
# VOLVO  XC90 D5 Y2020

ออฟไลน์ Sympho

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 996
ฟรียังไง ผมเห็นก็จ่ายเพิ่มตาม Package ไม่ใช่หรอครับ พวก BSI

วึ่งรถญี่ปุ่นก็มีโปรแกรมบำรุงรักษาฟรีเช่นกันในบางรุ่น

ลองวัดกันตอนหมดประกันส่วนนี้ดูก็ได้ครับ เวลาที่ต้องเปลี่ยนช่วงล่างยกชุด รู้เรื่อง

รถยุโรปคันละ 2 ล้าน ใหญ่เท่า Camry มีรุ่นไหนบ้างครับ

นึกออกก็มี S60/V60 ที่ต้องเพิ่มเงินนิดนึง ขนาดพอจะเข้าใกล้ Camry แต่ยังเล็กกว่า 

Benz BMW นึกไม่ออก

ออฟไลน์ tvm

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,479
ค่าประกันภัย ค่ายาง ก็หลายแล้วครับ
ส่วนต่างราคาขายต่ออีก บลาๆ ครับ

ขับดีกว่า ผมเห็นด้วย แต่มากกว่าขนาดนั้นไหม ก็แล้วแต่คน แล้วแต่รุ่น

ค่านิยมไม่เหมือนกัน คนคิดแบบนั้นก็ช่างเขา ถ้าคุณคิดต่างก็เลือกที่ชอบและพอใจ อย่าได้แคร์

ออฟไลน์ ThisIsYuTh

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 283
เจอค่าประกันก็หนาวแล้วครับ

อีกอย่างนึง ในราคาสองล้าน +- นิดหน่อยเนี่ย ตอนนั้นผมมีตัวเทียบสองสามตัวระหว่างตัวแทนรถยุโรป X1 กับ GLA กับตัวแทนรถญี่ปุ่นคือ Mazda CX-5 2.5T ถึงไม่นับค่าดูแลก็ยังคุ้มค่ากว่ามากทั้งเครื่องยนต์ที่ต่างกัน และออพชั่น เอาเข้าจริงด้วยเบาะหนัง Nappa และภายในของมาสด้าผมว่ามันไม่แพ้เรื่องคุณภาพวัสดุด้วยซ้ำ

ตัวที่ดูคุ้มค่าน่าจะเป็น Volvo XC40 แต่ก็เกินงบไปหน่อย แถมค่าบำรุงรักษา ประกันภัยก็ยังแพงกว่าอีกมาก
2020 - Mazda CX-5 2.5T (KF)
2016 - Subaru XV (GP)
2013 - Mitsubishi Pajero Sport (KG)
2010 - Honda Civic (FD)
2006 - BMW 3 Series (E36)

ออฟไลน์ Padungpong

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 112
ผมใช้ยุโรปมาไม่รู้กี่คัน  ตอนนี้นั่งมองแต่รถญ๊่ปุ่นพวก D seg  สงสัยเงินเราจะไม่ถึงเลยรู้สึกไม่สบายใจเวลาจ่ายค่าซ่อม ค่าประกัน นั่นนี่

ออฟไลน์ sudlor_gang

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 565
สำหรับผม
ถ้าจะใช้รถญี่ปุ่น เงินตั้ง 2 ล้าน ซื้อตัวท็อปเลย อ็อปชั่นมาเต็ม
ถ้าซื้อรถยุโรป เงินแค่ 2 ล้าน จะไปออกอะไรอ่ะ เบนซ์ a class  อ็อปชั่นยังไม่มีแอร์หลัง , gla วัยรุ่นอยากขับเบนซ์คันละ 1,990,000 แคบๆ
สวนไปแบบนี้อ่ะครับ เงียบกริบทุกราย

ถ้างบ 2ล้าน ผมคงซื้อ camry hybrid ตัวท็อป + เอาเงินไปทำช่วงล่างเพิ่ม (จริงๆมันก็ดีละนะ) รถใหญ่ พ่อแม่แก่แล้วนั่งหลังสบาย
หรือถ้างบ 3.5 ล้าน คงมอง e class, x3 ไรงี้อ่ะ ขับไปไหนก็ดูดีมีภาษีกว่าพวก a class ทั้งหลาย



ออฟไลน์ Tien.W

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,195
    • อีเมล์
ยุโรป มันรวมค่าใช้จ่ายอยู่ในค่า package ไว้แล้วล่ะ

อย่าลืมว่า หลายคน รถคันนึง ยิ่งรถแพงๆ ใช้กันยาวแตะ 10 ปีนะ เกิน 5 ปีไป หรือ คนใช้รถเยอะๆปีนึงหลายหมืนกม. ค่าใช้จ่ายยุโรปแพงกว่าชัดเจนแหละ

ออนไลน์ turbofever

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 564
    • อีเมล์
ญีุป่นแพงๆดีๆก็มีไง ls600 นั้นเลย หรือยี่ห้อนี้ตัวไหนก็ได้ LC RC ถามว่ามันห่วยกว่ายุโรปที่ราคาพอกันเหรอครับ  อย่าง alphard  ก็นั่งหรูสบายกว่า vito viano หรือ transporter ด้วยซ้ำ 8)

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องขับดีนี่ มันเป็นเรื่องเฉพาะบุคคลไปแล้วครับ

ผมล่ะอยากเป็นแบบจับอะไรอะไรก็ดีไปหมด ไม่อยากขับรถยุโรปละเปลือง

ออฟไลน์ MyName

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 8,141
  • I'm............................
รถยุโรปพิกัด 2 ล้าน มันไม่มีรุ่นไหนที่ทำมาเอาใจคนนั่งหรอกครับ

ถ้าผมเป็นผู้โดยสาร มีคนขับ การจ่ายเงิน 2 ล่านเพื่อมาเป็นคนนั่ง มันไม่ดีพอขนาดนั้นนะเอาจริง
รถยุโรปงบเท่านี้คือรถที่ดีสำหรับคนขับ และดีต่อภาพลักษณ์เท่านั้นครับ

ต่อให้วัดกันที่ค่าบำรุงรักษาระยะสั้น มันก็ไม่ได้ถูกกว่าชนิดจูงใจให้ขยับมาใช้ได้ครับ
Cars
2022 - Nissan Almera 1.0 Turbo VL
2016 - Mazda 2 1.5XD High Plus L
2008 - Mitsubishi Space Wagon 2.4 GLS Ltd. !User'Review Click here!
1997 - Daihatsu Mira

Motorcycles
2023 - Vespa Sprint S 150 i
2012 - Yamaha Mio 125 GTX

ออฟไลน์ tadto

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 309
ในความรู้สึกผมนะครับ  ถ้าจัดใน segment เดียวกัน

ยุโรปดีกว่าญี่ปุ่นมั้ย อาจจะดีกว่า อันนี้ขึ้นอยู่กับบุคคลด้วย

แต่หันกลับมามองเรื่องการดูแลรักษา ค่าใช้จ่ายอย่างอื่น ยุโรปก็แพงกว่าเห็นๆ

มองในมุมคนขับรถระยะทางไกลอย่างผม ตอนแรกออกยุโรปมาเพราะไม่คิดว่าวันนึง
จะต้องมาขับรถเยอะเป็นวันละ 200 โลแบบนี้ กะว่าออกมาใช้เป็นรถวันหยุดคันที่สอง
ขับหล่อๆ สบาย คำนวนแล้ว ระยะเวลา 5 ปี ไมล์ไม่น่าเกินแสนขายต่อราคาตกแบบรับได้

พอมาใช้จริงๆจังๆ 3ปีนิดๆผมก็ปาไปแสนหน่อยๆแล้ว bsi หมดไปเรียบร้อย ราคาขายต่อ
ไม่ต้องพูดถึง วันนี้ 520d g30 ซื้อมาสามล้านสอง  ไมล์ แสนนิดๆ ตีมาได้ราคาล้านห้า
หายไปครึ่งนึง ถ้าเทียบเป็นรถญี่ปุ่นแล้ว เปอร์เซ็นราคาขายมันพอๆกัน แต่คิดเป็นตัวเงินแล้ว
ห่างกันลิบลับ

จริงอยู่ bsi ครอบคลุมการบำรุงรักษาทั้งหมด แต่แลกกับความยุ่งยากในการจองคิวมาก
ยิ่งตามตจว.ผมเคยจะจองสาขาพัทยา เจอตอบมารอคิวเดือนนึง ใครจะไปรอไหว โทรมา
กทม. ถ้าโชคดีๆหน่อยก็สามสี่วัน โชคร้ายหน่อยก็เจอคิวเป็นอาทิตย์ ของบางอย่างก็วุ่นวาย
เช่นใบปัดน้ำฝนเปลี่ยนได้ฟรี ปีละครั้ง แต่หมายถึงถ้าเปลี่ยน กค. ก็ต้องเปลี่ยนอีกที กค.ปีหน้า
ระหว่างนั้นเปลี่ยนไม่ได้นะ

เคยคิดว่าขายคันนี้แล้วคงกลับไปญี่ปุ่นแล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่ได้กลับไปอยู่ดี

ส่วนตัวยังมองว่าฟิลลิ่งการขับขี่ของรถยุโรปมันดีกว่าหน่อยๆ อันนี้ส่วนตัวล้วนๆเลยนะครับ

สุดท้ายก็เลยกลับมาคบลูกครึ่งจีนสวีเดนแทน แหะๆ

ออฟไลน์ demo2

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 784
    • อีเมล์
สำหรับผม ใช้รถญี่ปุ่นมาตลอดชีวิต และมีรถยุโรปมา 1 คัน เปรียบเทียบเท่าที่ผมใช้จริงละกัน
d segment ญี่ปุ่น(teana L33) กับ c segment ยุโรปประกอบไทย (F30) ถ้าเอาภาพรวมของการขับขี่ ส่วนตัวผมให้ F30 ขับดีกว่าครับ ส่วนค่าใช้จ่ายบำรุงรักษา นับถึงตอนนี้ teana แพงกว่า เพราะ teana 7 ปีแล้วส่วน F30 กำลังจพหมด BSI สิ้นเดือนนี้ 55555
ปล ถ้าไม่ติดเรื่องเงินนะ ส่วนตัวผมก็คงเลือกใช้ยุโรปมากกว่ารถญี่ปุ่น(ในไทย) ราคาที่มันแพงกว่ามันก็มีอะไรที่มันดีกว่าอยู่พอควรนะครับ ต้องลองเองครับ

ออฟไลน์ Alex the Gunner

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 91
ผมเป็นคนที่ชอบรถ mid size car ด้วยความกว้าง ใหญ่ นั่งสบาย ออฟชั่นครบๆ หรือมากที่สุด
ดังนั้นถ้างบไม่ถึงที่จะชื้อ e class หรือ series 5 ผมไปขับ d segment ตัวท้อปของญี่ปุ่นดีกว่าครับ
ใครบอก 2 ล้าน ไปยุโรปดีกว่า ผมว่าไม่จริงครับ รถคนละขนาด ความสบายในการนั่ง ไม่เท่ากันหรอก
การขับขี่อาจจะอีกเรื่อง แต่ไม่ได้ต่างกันขนาดมีนัยยะ

ทุกวันนี้ขับทั้ง Camry hybrid ตัวท้อป กับ e350 e บอกได้เลยว่าค่าใช้จ่าย 2 คันนี้ต่างกันมาก

ออฟไลน์ BN`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,073
หลักสำคัญก็คือ เวลาจะเลือกซื้อรถคันนึง ต้องรู้ตัวเองก่อนว่าเราต้องการรถประเภทไหนจริงๆกันแน่ เอาความพึงพอใจของตนเองเป็นหลัก

งบ 2 ล้านกว่าๆ ถ้าเป็นผมจะเลือก Lexus IS300h เหตุผลเพราะ ผมชอบรถที่สมรรถนะดี ช่วงล่างนิ่ม ดูแลง่าย ใช้นานเกิน 10 ปี ได้สบายๆ

เหตุผมที่ไม่เลือกรถยุโรป เพราะสิ่งที่รถยุโรปให้นั้นไม่ตอบโจทย์ความต้องการ และการใช้งานของผม แค่นั้นเองครับ ไม่มีอะไรต้องคิดมาก

ออฟไลน์ whoami

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,171
    • อีเมล์
รถญี่ปุ่น ในระยะ 5 ปี แค่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง อะไหล่สิ้นเปลืองตามระยะ

ไม่ถึงแสนครับ รวมกับราคารถคิดจากตัวท็อปก็ยังจ่ายไม่ถึงสองล้าน

ราคารถยุโรป+ค่าซ่อม ค่าอะไหล่ ผมรับได้นะเทียบกับสมรรถนะที่ดีกว่าก็ต้องจ่ายแพงกว่า

แต่รับไม่ได้ที่ความทน ความไม่จุกจิก มันสู้รถญี่ปุ่นที่ถูกกว่าไม่ได้เลย


ออฟไลน์ the kit

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,314
"ถ้าคุณมีเงิน 2 ล้าน จะไปเอารถถญี่ปุ่นทำไม ทำไมไม่เอารถยุโรป ฟรีนู้นนี่ตลอด คุ้มกว่ารถญี่ปุ่นเยอะ"

จริงครึ่งหนึ่ง!!
จริงที่..
เงิน 2 ล้าน รถ Jap ยังคงต้องจ่ายค่าดูแลตามปกติ  แต่ Euro บางยี่ห้อ "ดูแลฟรี"

แต่...
เงิน 2 ล้าน ซื้อ Euro ได้แต่คันเล็กๆ แถม "อัตคัด" Option ต่างๆ
ที่ว่า Euro มันสวย เพราะ ไป "บวก" ให้มัน ตั้งแต่ตรายี่ห้อที่ "ว่าโก้ ว่าหรู" ไปแล้ว
ยังบวกเพิ่มให้อีก ที่เขาว่า "เกาะถนนและปลอดภัย?" แล้วจะไม่ซื้อได้ไง?

รถ Euro ในหลายรุ่น หลายยี่ห้อ ทั้งรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่ แต่ไม่ทุกคัน จะแถมสิทธิ์ "ลุ้นซวย" มาด้วย
ขึ้นอยู่กับ "โชคและดวง"

รถ Jap ก็ใช่ว่าจะไม่ได้สิทธิ์ "ลุ้นซวย"
ก็มีบ้าง แต่น้อยกว่า
ไม่ว่าจะ Jap จะ Euro สิทธิ์นี้ มีให้ลุ้นตั้งแต่ "ป้ายแดงยันขาย" แล้วแต่ "โชคและดวง"
แถม "สำนักงาน สังคบวย" ของไทย ดูแล แลดู  แค่ "แลดู"
เพราะ "ตนย่อมเป็นที่พึ่งแห่งตน"

ถ้าสิทธิ์ "ดูแลฟรี" ของ Euro หมดไป
ในทุกครั้งที่มีไฟเตือนเช็คระยะหรือผิดปกติติดขึ้นมา ความระทึกใจก็จะมากและมาก
แต่ถ้าคุณไม่เดือดร้อน เรื่องเงิน, เวลา รวมถึงไม่เสียดายเงิน มากนัก

สำหรับผม ขับ Jap ดีกว่า
มีเงิน แต่เสียดายเงิน เอาส่วนต่างจากค่าดูแล ไป "จับจ่าย" อะไรที่ชอบๆ ดีกว่า
มีเวลา แต่เอาไปทำอย่างอื่น ที่ดีกว่าการไปเฝ้าที่อู่

แต่ Euro ยังคง "มีเสน่ห์" ที่แบบ "ไม่ลองไม่รู้"
มีทั้งดีและไม่ดี และบางอย่างที่บอกยากจนกว่าจะได้เป็นเจ้าของ บอกแล้วว่า "ไม่ลองไม่รู้!!??"
"Make It Count"

ออฟไลน์ mxmx

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 401
นานาจิตตังคับ  รถยุ่นก็มีดีในตัวของเค้า รถยุโรบเองก็มีดี งั้นคงขายไม่ได้เลย ส่วนที่ขับไปค่าซ่อมไม่ต้องจ่าย น้อยนะที่ผมจะเจอคนใช้ตรงนี้เปรียบเทียบ

ระหว่างรถยุ่นกับรถยุโยปส่วนใหญ่เจอยุโรปกับยุโรป  ส่วนมีเงินสองล้านจะเลือกอะไรดีก็คงแล้วแต่เงื่อนไขการใช้รถมากกว่า ซื้อรถครอบครัว มีผู้ใหญ่นั่ง

หลังบ้างผมคงไปแอคอร์ด ซื้อรถให้ลูกขับเองคงไปคันที่แมนหรือเอคลาส  เคยมีคนถาม เอาคัมรี่ตัวtop สุด กับ e คลาส ตัวโลสุด มาให้คนเลือกเอาไป

ใช้ฟรีๆ 5ปี ไม่ต้องจ่ายค่าซ่อม จะเลือกคันไหน

ออฟไลน์ PaPaMan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,179
รถยุโรปราคา 2 เท่ารถยี่ปุ่นที่เซ็กเมนต์เดียวกัน ยกตัวอย่าง Camry กับ series5 ซื้อรถยุโรปเท่ากับซื้อ camry 2 คัน แต่แน่นอนถ้าไม่คิดเรื่องเงิน ให้เลือกรถฟรีได้ผมว่าใครๆก็ต้องเลือกรถยุโรป ทีนี้พอใช้ไป 5 ปีเอาไปเทิร์นยุโรปคันใหม่คุณจ่ายเพิ่มเท่ากับซื้อ camry คันใหม่คุณก็ได้ยุโรปคันใหม่แล้วครับ (จ่ายเท่าแคมรี่แต่ได้ 5 มันก็โอเคดีเหมือนกันนะครับ) แล้วเวลาที่อยากบอกลารถยุโรปก็เอาไปเปลี่ยนเป็นแคมรี่ใหม่เหมือนได้รถยี่ปุ่นคันใหม่กลับมาฟรีๆเหมือนกัน

ออฟไลน์ caton

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 498
    • อีเมล์
ปล ถ้าไม่ติดเรื่องเงินนะ ส่วนตัวผมก็คงเลือกใช้ยุโรปมากกว่ารถญี่ปุ่น(ในไทย) ราคาที่มันแพงกว่ามันก็มีอะไรที่มันดีกว่าอยู่พอควรนะครับ ต้องลองเองครับ

เห็นด้วยครับ
TESLA Model Y Performance
BMW X1 F48 20D M sport
BMW 320D F30 M sport HIFI Stage 1

ออฟไลน์ AgentMolder

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,408
เทียบรถมันต้องเทียบใน segment เดียวกัน ไม่ได้เทียบที่ราคา คนไทยส่วนใหญ่ จะซื้อรถ มองที่ราคา เช่นมีเงิน 2 ล้าน เท่านั้นเท่านี้ล้าน แล้วก็มาดูรถที่ดีสุด/ชอบสุด ในงบที่ตั้ง ซึ่งผมว่ามันเป็นการตีโจทย์ที่ผิดแต่แรกแล้ว แล้วก็จะตามมาด้วยประโยค เงินสองล้าน ซื้อแคมรี่ทำไม ทำไมไม่เอาเบนซ์(แต่ละไว้ว่า A class ที่แสนง่อย หรือ Series 2 ที่คับแคบ)

ทั้งที่ความจริงควรมองดูการใช้งานของเรา ความจำเ็นต่างๆเป็นตัวตั้ง แล้วค่อยมามองเงิน ท่านจะไม่ต้องตั้งคำถามกับประโยคด้านบนเลย เช่นจะออกรถคันแรกให้ตัวเองที่ประสบความสำเร็จตอนอายุน้อยๆ  อายุยี่สิบกลางๆ โสด พ่อแม่ยังไม่แก่ พอมามองที่เงิน มีอยู่ 2 ล้าน เป็นผมก็ไปยุโรป จะไปซื้อ แคมรี่แอคคอร์ดมาทำไม ดูแก่กว่าวัย ต่อให้คันใหญ่กว่า option ดีกว่า ขับดีกว่า แล้วงั้ย ผมเพิ่ง 25 เอง บลาๆๆ

ตรงข้ามถ้าคุณอายุ 40  มีครอบครัว ลูกเมีย ขับไปทำงานเช้าเย็น ปวดเข่า ปวดหลัง ก็ต้องมองไปที่แคมรี่แอคคอร์ด หรือถ้าจะไปยุโรป ต้องมองเลยไปที่ E class, Series 5 โน่น มันถึงจะเทียบกันได้ แล้วมามองที่เงิน อ้าว กำลังทรัพย์มีแค่ 2 ล้าน ก็ต้องมาที่แคมรี่ แอคคอร์ดแหงอยู่แล้ว

เวลาเทียบรถ ดูที่ Segment ไม่ได้ดูที่ราคานะ

ออฟไลน์ basterias

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,793
เทียบรถมันต้องเทียบใน segment เดียวกัน ไม่ได้เทียบที่ราคา คนไทยส่วนใหญ่ จะซื้อรถ มองที่ราคา เช่นมีเงิน 2 ล้าน เท่านั้นเท่านี้ล้าน แล้วก็มาดูรถที่ดีสุด/ชอบสุด ในงบที่ตั้ง ซึ่งผมว่ามันเป็นการตีโจทย์ที่ผิดแต่แรกแล้ว แล้วก็จะตามมาด้วยประโยค เงินสองล้าน ซื้อแคมรี่ทำไม ทำไมไม่เอาเบนซ์(แต่ละไว้ว่า A class ที่แสนง่อย หรือ Series 2 ที่คับแคบ)

ทั้งที่ความจริงควรมองดูการใช้งานของเรา ความจำเ็นต่างๆเป็นตัวตั้ง แล้วค่อยมามองเงิน ท่านจะไม่ต้องตั้งคำถามกับประโยคด้านบนเลย เช่นจะออกรถคันแรกให้ตัวเองที่ประสบความสำเร็จตอนอายุน้อยๆ  อายุยี่สิบกลางๆ โสด พ่อแม่ยังไม่แก่ พอมามองที่เงิน มีอยู่ 2 ล้าน เป็นผมก็ไปยุโรป จะไปซื้อ แคมรี่แอคคอร์ดมาทำไม ดูแก่กว่าวัย ต่อให้คันใหญ่กว่า option ดีกว่า ขับดีกว่า แล้วงั้ย ผมเพิ่ง 25 เอง บลาๆๆ

ตรงข้ามถ้าคุณอายุ 40  มีครอบครัว ลูกเมีย ขับไปทำงานเช้าเย็น ปวดเข่า ปวดหลัง ก็ต้องมองไปที่แคมรี่แอคคอร์ด หรือถ้าจะไปยุโรป ต้องมองเลยไปที่ E class, Series 5 โน่น มันถึงจะเทียบกันได้ แล้วมามองที่เงิน อ้าว กำลังทรัพย์มีแค่ 2 ล้าน ก็ต้องมาที่แคมรี่ แอคคอร์ดแหงอยู่แล้ว

เวลาเทียบรถ ดูที่ Segment ไม่ได้ดูที่ราคานะ

เข้าใจเลยครับ แต่ผมอายุเยอะแต่งงานแล้วไม่มีลูกก็อยากได้ยุโรปคันเล็กๆขับนะ มันหาที่จอดในเมืองง่ายดี ขับกลางเลนก็ไม่ไปเบียดใคร แต่แฟนผมชอบนั่งสบายเลยต้องเขยิบมาคันใหญ่ขึ้น แต่สุดท้ายคันที่ขับประจำก็คือ SUV เพื่อให้บางครั้งไปกับพ่อแม่หรือพาน้องหมาที่บ้านไปด้วยได้อีก
Current cars:
2018 - Volvo XC60 T8 R-design (Stock)
2020 - Mercedes C43 Sedan FL (tuned)
(Review https://community.headlightmag.com/index.php?topic=79186.0)
2021 - BMW 530e M sport LCI (Stock)
(Review https://community.headlightmag.com/index.php?topic=79736.0)