ผมขอแสดงความเห็นครับ ผมเห็นมีคนพูดเรื่องกระจกหมุนเยอะมากๆ
ผมว่า Toyota มันมีระบบที่เชื่อถือได้มากกว่า รถยี่ปุ่นยี่ห้ออื่นๆ ที่เป็นรถเก่ง คือ ความทนทานของเครื่อง คันเก่าผมไม่เคยไปทำเครื่องเลย เติมโซฮอล์ 91 ด้วยซ้ำ(มันให้เติม 95 ครับ) ฝาเครื่องไม่เคยหยด ไม่มีน้ำมันโผล่มา แต่มีแลคพวงมาลัยน้ำมันที่แสนน่าเบื่อ เปลี่ยนไปแล้วก็รั่วอีก(2-3 ปีถัดมาหลังจากเปลี่ยน) อย่างเดียวจริงๆ
อีกอย่าง ตัว ZR ของ Toyota ผมเคยถามอู่ taxi แล้ว ทนกว่าตัว ZZ อีกครับ 2 แสนยังไม่ต้องตั้งวาล์วเลย ทนจัดเหมือนเครื่อง 5A 4A 7A อีกแล้ว
ผมยอมจ่ายได้ ถ้ามันต่างกันไม่เกิน 1-2 หมื่น เช่น
ตอนผมซื้อ March มาเมื่อปี 2011 ที่ 4.6 แสน ถ้าตอนนั้นมี Yaris จะเป็น J Eco หรือ E CVT ผมคงยอมจ่ายเพิ่ม
ถ้าราคามันแพงกว่าเป็น 4.7-4.8 แสน option ลดลงไปบ้าง ก็พอรับได้
เพราะอย่างน้อย คันใหญ่กว่า(น้องๆ Tilda) และอีกอย่าง ก็ได้เครื่อง Dual VVT-I ซึ่งมันน่าจะดีกว่าทุกเจ้าในตลาด ECO คือ คันใหญ่ แต่กินไม่แตกต่าง และยังไงราคาอะไหล่ ค่าซ่อมบำรุงหลัง 3 ปีไปแล้ว น่าจะถูกที่สุด โดยไม่เข้าศูนย์และอะไหล่เทียบ(ถ้าเข้าศูนย์ ค่าแรง ค่าอะไหล่ ก็อาจจะแพงกว่านิสสันได้ น่ากลัว
)
ส่วนประเด็น กระจกหมุน จริงๆ ถ้ามันมีคู่หน้าแบบ Brio S มาให้ก็ดีครับ แต่ไม่มี ก็ดีอยู่อย่าง คือ เวลาฝนตก กระจกหมุนคงไม่เสียแน่ๆ แต่ถ้ากระจกไฟฟ้า และมีแผงข้างเป็นผ้า ถ้าผนตกแรงๆ ละเสียวจริงๆ ครับ
วิทยุ สมมุติว่าเป็น J Eco ไม่มี ผมก็ยังพอไหวเพราะ march มีวิทยุก็เหมือนไม่มีเพราะดันทำเป็น Built in
ต้องเปลี่ยนหน้ากาก วุ่นวายมาก เปลืองตัง ไม่สวยด้วย แต่ถ้าเป็น E วิทยุของ Toyota vios mp3 อ่านภาษาไทยได้ แจ๋วมาก ถ้าต้องไปติดวิทยุ J Eco ก็ไม่ยาก เพราะมันเป็น 2 din ธรรมดา ไม่ยุ่งยากแบบ march แน่ๆ
อันนี้ผมคิดของผมนะครับ ใครมองว่าผมแปลกก็ได้ แต่ผมว่ามันก็ไม่เลวร้าย เทียบกับ Altis CNG ก่อนหน้าที่จะมีถุงลม ผมว่ารุ่นนั้นเอาเปรียบมาก แพงเกินตัว
ติดอย่างไรกันครับ